ชัวร์ก่อนแชร์ : คำเตือนโควิด (2567) จาก “นายแพทย์ประสิทธิ์” (ของแท้)

“นพ.ประสิทธิ์” ตอบทุกข้อสงสัย รับปีใหม่ 2567 อัปเดตสถานการณ์โควิด – รู้จัก JN.1 สายพันธุ์ใหม่ ต้องกังวลแค่ไหน – ยังต้องฉีดวัคซีนกันหรือไม่ – หากติดโควิดต้องทำอย่างไร ?


29 ธันวาคม 2566 – “ยาเขียวรักษาโควิด” นายแพทย์ประสิทธิ์ ไม่ได้กล่าวไว้ หรือที่เตือนว่า “ด่วน ด่วน ด่วน ให้ประชาชนล็อกดาวน์” ก็เป็นข้อมูลสุดเก่าตั้งแต่ไม่กี่เดือนแรกของการระบาดเมื่อปี 2564 แถมยังพ่วงด้วยสารพัดข้อมูลที่แนะนำผิด ๆ

แต่ ! สิ่งที่ท่านกำลังจะได้ฟังต่อไปนี้ โปรดฟังให้ดี นี่คือ คำเตือนโควิด ฉบับต้นปี 2567 โดย นายแพทย์ประสิทธิ์ ของแท้!


ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ “โควิด-19” รับปีใหม่ 2567

ธรรมชาติของโคโรน่าไวรัส (โควิด-19) จะอยู่กับโลกนี้ไปอีกนาน เพราะไวรัสตัวนี้กลายพันธุ์ตลอดเวลา และจะพบสายพันธุ์ใหม่ ๆ


เมื่อไหร่ก็ตามที่พบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ (อย่างโอไมครอน) โดยหลักการของไวรัสที่แพร่ระบาดรวดเร็ว จะไปทดแทนสายพันธุ์เดิม และถือเป็นความโชคดีของโลกใบนี้ ที่มีสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นแต่ไม่รุนแรง

คงจำกันได้ ตอนที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์เดลตาเกิดขึ้น อัตราการเสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากมาย และตอนนี้เป็นโอไมครอนก็ยังเกิดการกลายพันธุ์อยู่เรื่อย ๆ

ถ้าไปดูย้อนหลัง ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่อัตราการเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นคู่ขนานไปกับการติดเชื้อ โชคดีว่าสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกระจายเร็วแต่ไม่ได้รุนแรง

โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “JN.1”

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 1 สายพันธุ์ เรียกว่า JN.1 (เจเอ็น.1)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การอนามัยโลกบรรจุสายพันธุ์ JN.1 เข้าไปในกลุ่ม Variants of Interest : VOI หรือสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม ซึ่งมีอยู่ 2-3 คำที่ต้องทำความเข้าใจ

“Variants of Interest” คือสายพันธุ์ที่มีการแพร่กระจายรวดเร็ว แล้วเฝ้าติดตามดูว่าก่อความรุนแรงมั้ย ดื้อกับวัคซีนมั้ย ถ้ายังไม่มีก็สามารถเรียกเป็น Variants of Interest

โควิด-19 สายพันธุ์ที่กระจายอยู่ในสหรัฐอเมริกา เข้าไปที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และอินเดีย ซึ่ง ณ วันนี้ JN.1 ยังอยู่แบบนี้

ถ้าเมื่อไหร่มีหลักฐานว่านอกจากกระจายรวดเร็วแล้ว อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หรือมีหลักฐานชัดเจนว่าดื้อกับวัคซีนโควิด-19 สายพันธุ์เหล่านี้องค์การอนามัยโลกมีแนวโน้มจะเปลี่ยนจาก Variants of Interest ไปเป็น Variants of Concern : VOC คือมีผลกระทบกับสุขภาพ ทำให้เจ็บป่วยและเสียชีวิต ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องใหญ่แล้ว

การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ระยะเวลารวม 28 วัน เมื่อเทียบกับ 28 วันก่อนหน้านั้น สายพันธุ์ JN.1 เป็นสาเหตุของการติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 52 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ามีการกระจายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เริ่มไปทดแทนสายพันธุ์เดิมในสหรัฐอเมริกา

ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานว่าโควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 สร้างความรุนแรงเกิดขึ้น และวัคซีนที่ฉีดกันจนถึงวันนี้แม้จะมีคนพูดว่า JN.1 อาจจะดื้อกับวัคซีน แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะร่างกายคนเราเมื่อฉีดวัคซีนไปถึงจุดหนึ่งภูมิต้านทานก็ค่อย ๆ ลดลงอยู่ดี

ดังนั้น ตอนนี้ติดตามดูไปเฉย ๆ โดยกระทรวงสาธารณสุข และนักวิชาการที่อยู่ในมหาวิทยาลัยก็เฝ้าติดตามเรื่องเหล่านี้ ถ้ามีสัญญาณบอกเหตุอะไรก็จะรีบแจ้งให้สาธารณชนได้รับรู้

“หน้ากากอนามัย” ป้องกันภัยจาก JN.1 และ PM2.5

ขอฝากหลักการเบื้องต้น ไม่ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกลายพันธุ์อย่างไร ทุกคนมีวัคซีนติดตัวอยู่แล้ว ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และรักษาระยะห่าง

เข้าใจว่าช่วงการระบาดหนักของโควิด-19 ทุกคนก็เครียด ทุกคนก็ลำบาก ทุกคนก็อยากพัก ซึ่ง ณ วันนี้ก็ไม่ได้ย้ำว่าทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย ต้องล้างมือตลอด แต่เมื่อไหร่เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่มีคนจำนวนมาก มีการพูดคุยและตะโกน ซึ่งบอกไม่ได้หรอกว่ามีใครในนั้นติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้อาการมีเพียงแค่เจ็บคอ มีน้ำมูก และมาปะปนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อความปลอดภัยการใส่หน้ากากอนามัยช่วยได้ระดับหนึ่ง

ถ้าภูมิต้านทานดี ฉีดวัคซีนมากพอ เป็นการกระตุ้นภูมิร่างกายเหมือนกัน ถ้ายังเป็นสายพันธุ์แบบนี้ (JN.1) ความรุนแรงก็ไม่น่าจะมาก

ช่วงนี้ ที่ชักชวนใส่หน้ากากอนามัย เพราะว่าอยู่ในช่วง PM2.5 ขึ้นด้วย เท่ากับว่าใส่หน้ากากอนามัย 1 อย่าง มีโอกาสเกิดประโยชน์ได้ 2 ด้าน แต่ต้องเป็นหน้ากากอนามัยที่ครอบคลุมการติดเชื้อโควิด-19 และ PM2.5

ต้นปี 2566 ที่ผ่านมา สถาบันแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ คือสถาบันฟรานซิส คริก (Francis Crick Institute) ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเกี่ยวกับอุบัติการณ์มะเร็งปอดในคนที่ไม่สูบบุหรี่ มีหลักฐานเพิ่มขึ้นชัดเจนในพื้นที่ที่มี PM2.5 สูง

คำว่า “มะเร็งปอด ไม่สูบบุหรี่” ไม่ได้หมายความว่า มะเร็งปอดที่คนสูบบุหรี่ไม่เพิ่มขึ้น คือมะเร็งปอดที่คนสูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่สูบบุหรี่โอกาสเป็นมะเร็งปอดน้อย ขณะนี้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ตอนนี้ PM2.5 ก่อเรื่องแน่นอน กลายเป็นปัญหาทั่วโลก การใส่หน้ากากอนามัยครั้งเดียว แต่ป้องกันได้ 2 เรื่อง ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเป็นสิ่งที่พึงกระทำ

ใส่หน้ากากอนามัยแล้วก็ไม่ต้องเคอะเขิน สังคมไม่มองว่าผิดหรอกที่ใส่ เพราะคนทั่วไปใส่กันมาจนคุ้นชินอยู่แล้ว

ปีใหม่นี้ ไม่มีใครมาคัดค้าน หรือห้ามไม่ให้สนุกสนานหรอก ถ้าจะไปสนุกสนานในพื้นที่มีคนจำนวนมากก็ใส่หน้ากากอนามัยสนุกสนานกันได้ ยกเว้นตอนกินอาหาร

วัคซีนป้องกันโควิด-19 กับความจำเป็น ?

ในคนที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็อยากแนะนำให้ฉีดด้วยเพื่อป้องกันความเสี่ยง

คนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มาแล้วหลายเข็ม ถ้าไม่ได้เป็นคนกลุ่ม “608” คือกลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และ+1 คือกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีอาการรุนแรงของโรคมากหากติดเชื้อโควิด-19 ความเห็น ณ ตอนนี้คือใส่หน้ากากอนามัยป้องกันตนเองและล้างมือบ่อย ๆ ดีกว่า

เรื่องของวัคซีน ตั้งแต่ช่วงแรกก็มีข้อถกเถียงจำนวนมากแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าวัคซีนช่วยให้ไม่ตายในระยะเฉียบพลันของการแพร่ระบาด แต่ระยะยาวมีผลหรือไม่นั้น ถ้าดูจากหลักฐานทางวิชาการ ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าก่อให้เกิดโรค ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนรวมแล้วมากกว่าพัน ล้านโดส

อาจจะมีบางคนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเทียบกับจำนวนคนฉีดวัคซีนก็ถือว่าน้อย กรณีอย่างนี้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละคนดีกว่า

ในฐานะนักวิชาการ “การฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดอัตราการเสียชีวิตได้จริง”

กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนอย่างไร ?

ขณะนี้ หลายประเทศประกาศโควิด-19  เป็น “โรคประจำท้องถิ่น โรคประจำฤดูกาล” เหมือนไข้หวัดใหญ่ ทำให้บริษัทผลิตวัคซีนพยายามผสมผสานให้อยู่ในวัคซีนชุดเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีก็ไปไกลแล้ว เช่น ไข้หวัดใหญ่ฉีด 1 เข็ม ป้องกันได้ 4 สายพันธุ์ แต่ยังมีความแตกต่างนิดเดียวเกี่ยวกับกลไกของร่างกายเรื่องภูมิคุ้มกันโควิด-19 กับไข้หวัดใหญ่ที่ไม่เหมือนกัน

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 1 เข็มอยู่ได้นาน แตกต่างจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่รู้กันมานานแล้วว่าอยู่ได้เพียง 3-4 เดือน จากนั้นภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ ลดลง

ดังนั้น ใครที่เจ็บคอ มีน้ำมูกมาก ไอ ถ้าสงสัยก็ตรวจโควิด-19

ถ้าไม่ได้มีอาการอะไรมากมาย บางคนก็ไม่ตรวจ แต่ที่บางคนตรวจไม่ใช่เพราะตัวเอง แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อกระจายไปถึงคนรอบข้างเท่านั้นแหละ

ถ้าคนที่มีอาการเจ็บคอ มีน้ำมูกมาก ไอ และมีไข้ หรือมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก แนะนำให้ต้องตรวจ และถ้าตรวจแล้วพบว่าติดโควิด-19 จริงก็ต้องรีบรักษา

บางคนเริ่มมีไข้คิดว่าไม่มีอะไร บางครั้งภายใน 24 ชั่วโมงอาการรุนแรงลุกลามไปที่ปอดก็ยุ่งแล้ว บางคนจำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลก็ต้องอยู่ ถ้ามีอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องรับไว้ในโรงพยาบาล

ถ้าบางคนเป็นโควิด-19 แต่ไม่มีอาการอะไรมาก ส่วนใหญ่อยู่บ้านครบ 5 วันก็ทำงานได้ และก็ไม่ได้แนะนำว่าครบ 5 วันแล้วต้องตรวจ

ยืนยันว่าขณะนี้มียาที่ยังครอบคลุมทุกสายพันธุ์ (สายพันธุ์ใหม่ด้วย) และประเทศไทยมียาเหล่านี้จำนวนมากอยู่ในคลังที่กระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นยาเรมเดซิเวียร์ (remdesivir) และ แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid)

ทุกวันนี้ “โควิด -19” น่ากลัวหรือไม่

ไม่อยากให้ใช้คำว่า “กลัว” โควิด-19 แต่ใช้ว่า “ระวัง” คือเรายังต้องเฝ้าติดตามด้วยความระมัดระวัง อย่าถึงขนาดละเลยการป้องกันโควิด-19 ทุกกรณี

การใส่หน้ากากอนามัยไปสถานที่มีคนจำนวนมาก ไม่เกี่ยวกับกลัวหรือไม่กลัว แต่เป็นการระวังที่ปลอดภัยและทุกคนทำได้ด้วยตนเอง

ดูเพิ่มเติม “รายการชัวร์ก่อนแชร์​”

สัมภาษณ์เมื่อ : 25 ธันวาคม 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]