ชัวร์ก่อนแชร์: ปอดอักเสบในจีนเป็นโรคลึกลับ จริงหรือ?

28 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2023 และส่งผลให้เด็กชาวจีนจำนวนมากต้องล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นเรื่องน่ากังวลไม่ต่างจากครั้งที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะเกิดจากเชื้อโรคที่ไม่เคยตรวจพบมาก่อนและเกิดการระบาดอย่างไม่มีใครคาดคิด


บทสรุป :

  1. ทางการจีนยืนยันว่าโรคปอดอักเสบที่ระบาดในจีนไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอุบัติใหม่
  2. ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า สาเหตุที่เด็กจีนป่วยด้วยโรคปอดอักเสบจำนวนมาก น่าจะมาจากปรากฏการณ์ Immunity Debt

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2023 วุฒิสมาชิก 5 รายจากพรรครีพับลิกัน นำโดย มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากรัฐฟลอริดา ร่างจดหมายไปยัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อกดดันผู้นำของชาติออกมาตรการกีดกันไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโรคชนิดใหม่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพบการระบาดของโรคปอดอักเสบอย่างแพร่หลายในจีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา


นอกจากนี้ มาร์โค รูบิโอ และนักการเมืองพรรครีพับลิกันยังนำข้ออ้างในจดหมายไปเผยแพร่ทาง X จนมีการแชร์ข้อความต่อไปในวงกว้าง

อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักการเมืองทั้ง 5 รายใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนนโยบายกีดกันนักท่องเที่ยวจีน เป็นข้อมูลเก่าที่ไม่ตรงกับรายงานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในจีน

ที่มาความเข้าใจผิด

หลังพบการระบาดของโรคปอดอักเสบในกลุ่มเด็กเล็กในพื้นที่ทางตอนเหนือของจีน ทั้งกรุงปักกิ่งและมณฑลเหลียวหนิง สื่อท้องถิ่นต่างรายงานว่า การแพร่ระบาดเกิดจากเชื้อโรคที่ลึกลับ โดย ProMed ระบบเฝ้าระวังการพบและการระบาดของโรคอุบัติใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 ว่า “เกิดการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจที่ไม่เคยตรวจพบมาก่อน (Undiagnosed Respiratory Illness)”

ข้อมูลดังกล่าวสร้างความตื่นตัวไปทั่วโลก ส่งผลให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2023 เพื่อขอให้หน่วยงานสาธารณสุขของจีนเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับการระบาดครั้งนี้

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2023 ทางการจีนได้นำเสนอรายงานผ่านการประชุมทางออนไลน์กับ WHO ก่อนที่ WHO จะยืนยันว่าสาเหตุการแพร่ระบาด ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอุบัติใหม่แต่อย่างใด

สาเหตุการระบาด

เนื้อหาในประกาศของ WHO ระบุว่า WHO ติดตามการแพร่ระบาดโรคระบบทางเดินหายใจในกลุ่มเด็กชาวจีนตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม โดยวันที่ 13 พฤศจิกายน 2023 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานว่า สาเหตุการระบาดมาจากเชื้อโรคซึ่งเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโควิด-19 ไวรัสอาร์เอสวี และแบคทีเรียไมโครพลาสมาชนิด Mycoplasma Pneumoniae ที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบ ซึ่งเชื้อโรค 2 ชนิดหลังมักพบการติดเชื้อในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย

ทางการจีนระบุว่า พบการระบาดของเชื้อ Mycoplasma Pneumoniae ในเด็กตั้งแต่พฤษภาคม และพบการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสอาร์เอสวี และอะดีโนไวรัส ในเด็กตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม แม้จะเป็นการระบาดที่พบได้เร็วกว่าปกติ แต่ไม่ถือว่าเกินกว่าการคาดการณ์

ข้อมูลพบว่า แบคทีเรีย Mycoplasma Pneumoniae จะมีฤดูกาลแพร่ระบาดทุก ๆ 3-7 ปี ซึ่งจีนพบการระบาดของเชื้อ Mycoplasma Pneumoniae ในปี 2011, 2015 และ 2019 ดังนั้นการพบการระบาดในปี 2023 จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด

ทางการจีนย้ำว่าตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม มีการยกระดับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และมีการเก็บข้อมูลการติดเชื้อ Mycoplasma Pneumoniae เป็นครั้งแรก จึงเป็นสาเหตุทำให้พบเด็กป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมากกว่าปกติ แต่ยังยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของจีนยังมีความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยอย่างเพียงพอ

ตัวแทนหน่วยงานสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกาต่างลงความเห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในจีนไม่ได้เป็นภัยต่อระบบสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกาตามที่กล่าวอ้าง

ดร.แมนดี โคเฮน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ยืนยันว่าโรคปอดอักเสบในจีน เกิดจากเชื้อโรคที่ระบาดตามฤดูกาล ส่วน ดร.สก็อตต์ ก็อตต์ลิบ อดีตคณะกรรมการองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ในสมัยรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่เชื่อว่าโรคปอดอักเสบที่ระบาดในจีน เกิดจากเชื้อโรคชนิดใหม่เช่นกัน

A woman carrying a child walks outside a children’s hospital in Beijing, China November 27, 2023. REUTERS/Tingshu Wang

Immunity Debt

การระบาดของโรคปอดอักเสบในเด็กชาวจีน เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ในจีน ซึ่งการพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หลังการยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ยังเป็นสิ่งที่เคยพบในหลายประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนประเมินว่า สาเหตุอาจเกิดจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Immunity Debt หรือ Immunity Gap สภาวะที่ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ลดต่ำ เนื่องจากไม่ได้สัมผัสเชื้อโรคเหล่านั้นมาเป็นเวลานาน

ในช่วงที่หลายประเทศใช้มาตรการที่ไม่ใช้ยา (NPI) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งการเว้นระยะห่างและการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ทำให้ช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ประชาชนมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจน้อยลง ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคลดลงตามไปด้วย

เมื่อถึงเวลาที่มีการยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจต่ำ จึงมีความเสี่ยงที่จะป่วยจากการติดเชื้อดังกล่าว โดยเฉพาะในจีนที่ประกาศใช้นโยบาย Zero-COVID อย่างเข้มงวด ทำให้ปรากฏการณ์ Immunity Debt เห็นได้อย่างชัดเจนมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/12/scicheck-respiratory-illnesses-in-children-in-china-not-so-mysterious/
https://www.politifact.com/factchecks/2023/dec/08/tiktok-posts/no-mystery-about-or-link-between-pediatric-pneumon/
https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1509620231215042037.pdf
กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 4
https://www.who.int/emergencies/disease-outbreak-news/item/2023-DON494

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย