ชัวร์ก่อนแชร์: ปอดอักเสบในจีนเป็นโรคลึกลับ จริงหรือ?

28 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ โดยอ้างว่าการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในสาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2023 และส่งผลให้เด็กชาวจีนจำนวนมากต้องล้มป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นเรื่องน่ากังวลไม่ต่างจากครั้งที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะเกิดจากเชื้อโรคที่ไม่เคยตรวจพบมาก่อนและเกิดการระบาดอย่างไม่มีใครคาดคิด


บทสรุป :

  1. ทางการจีนยืนยันว่าโรคปอดอักเสบที่ระบาดในจีนไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอุบัติใหม่
  2. ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า สาเหตุที่เด็กจีนป่วยด้วยโรคปอดอักเสบจำนวนมาก น่าจะมาจากปรากฏการณ์ Immunity Debt

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2023 วุฒิสมาชิก 5 รายจากพรรครีพับลิกัน นำโดย มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกจากรัฐฟลอริดา ร่างจดหมายไปยัง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อกดดันผู้นำของชาติออกมาตรการกีดกันไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโรคชนิดใหม่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพบการระบาดของโรคปอดอักเสบอย่างแพร่หลายในจีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา


นอกจากนี้ มาร์โค รูบิโอ และนักการเมืองพรรครีพับลิกันยังนำข้ออ้างในจดหมายไปเผยแพร่ทาง X จนมีการแชร์ข้อความต่อไปในวงกว้าง

อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักการเมืองทั้ง 5 รายใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนนโยบายกีดกันนักท่องเที่ยวจีน เป็นข้อมูลเก่าที่ไม่ตรงกับรายงานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในจีน

ที่มาความเข้าใจผิด

หลังพบการระบาดของโรคปอดอักเสบในกลุ่มเด็กเล็กในพื้นที่ทางตอนเหนือของจีน ทั้งกรุงปักกิ่งและมณฑลเหลียวหนิง สื่อท้องถิ่นต่างรายงานว่า การแพร่ระบาดเกิดจากเชื้อโรคที่ลึกลับ โดย ProMed ระบบเฝ้าระวังการพบและการระบาดของโรคอุบัติใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รายงานเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 ว่า “เกิดการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจที่ไม่เคยตรวจพบมาก่อน (Undiagnosed Respiratory Illness)”

ข้อมูลดังกล่าวสร้างความตื่นตัวไปทั่วโลก ส่งผลให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2023 เพื่อขอให้หน่วยงานสาธารณสุขของจีนเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับการระบาดครั้งนี้

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2023 ทางการจีนได้นำเสนอรายงานผ่านการประชุมทางออนไลน์กับ WHO ก่อนที่ WHO จะยืนยันว่าสาเหตุการแพร่ระบาด ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคอุบัติใหม่แต่อย่างใด

สาเหตุการระบาด

เนื้อหาในประกาศของ WHO ระบุว่า WHO ติดตามการแพร่ระบาดโรคระบบทางเดินหายใจในกลุ่มเด็กชาวจีนตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม โดยวันที่ 13 พฤศจิกายน 2023 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานว่า สาเหตุการระบาดมาจากเชื้อโรคซึ่งเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโควิด-19 ไวรัสอาร์เอสวี และแบคทีเรียไมโครพลาสมาชนิด Mycoplasma Pneumoniae ที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบ ซึ่งเชื้อโรค 2 ชนิดหลังมักพบการติดเชื้อในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่อีกด้วย

ทางการจีนระบุว่า พบการระบาดของเชื้อ Mycoplasma Pneumoniae ในเด็กตั้งแต่พฤษภาคม และพบการระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัสอาร์เอสวี และอะดีโนไวรัส ในเด็กตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม แม้จะเป็นการระบาดที่พบได้เร็วกว่าปกติ แต่ไม่ถือว่าเกินกว่าการคาดการณ์

ข้อมูลพบว่า แบคทีเรีย Mycoplasma Pneumoniae จะมีฤดูกาลแพร่ระบาดทุก ๆ 3-7 ปี ซึ่งจีนพบการระบาดของเชื้อ Mycoplasma Pneumoniae ในปี 2011, 2015 และ 2019 ดังนั้นการพบการระบาดในปี 2023 จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด

ทางการจีนย้ำว่าตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม มีการยกระดับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย และมีการเก็บข้อมูลการติดเชื้อ Mycoplasma Pneumoniae เป็นครั้งแรก จึงเป็นสาเหตุทำให้พบเด็กป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจมากกว่าปกติ แต่ยังยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของจีนยังมีความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยอย่างเพียงพอ

ตัวแทนหน่วยงานสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกาต่างลงความเห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบในจีนไม่ได้เป็นภัยต่อระบบสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกาตามที่กล่าวอ้าง

ดร.แมนดี โคเฮน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ยืนยันว่าโรคปอดอักเสบในจีน เกิดจากเชื้อโรคที่ระบาดตามฤดูกาล ส่วน ดร.สก็อตต์ ก็อตต์ลิบ อดีตคณะกรรมการองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ในสมัยรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่เชื่อว่าโรคปอดอักเสบที่ระบาดในจีน เกิดจากเชื้อโรคชนิดใหม่เช่นกัน

A woman carrying a child walks outside a children’s hospital in Beijing, China November 27, 2023. REUTERS/Tingshu Wang

Immunity Debt

การระบาดของโรคปอดอักเสบในเด็กชาวจีน เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ในจีน ซึ่งการพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หลังการยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ยังเป็นสิ่งที่เคยพบในหลายประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนประเมินว่า สาเหตุอาจเกิดจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Immunity Debt หรือ Immunity Gap สภาวะที่ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ลดต่ำ เนื่องจากไม่ได้สัมผัสเชื้อโรคเหล่านั้นมาเป็นเวลานาน

ในช่วงที่หลายประเทศใช้มาตรการที่ไม่ใช้ยา (NPI) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งการเว้นระยะห่างและการสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ทำให้ช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ประชาชนมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจน้อยลง ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคลดลงตามไปด้วย

เมื่อถึงเวลาที่มีการยกเลิกมาตรการควบคุมไวรัสโควิด-19 ประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจต่ำ จึงมีความเสี่ยงที่จะป่วยจากการติดเชื้อดังกล่าว โดยเฉพาะในจีนที่ประกาศใช้นโยบาย Zero-COVID อย่างเข้มงวด ทำให้ปรากฏการณ์ Immunity Debt เห็นได้อย่างชัดเจนมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/12/scicheck-respiratory-illnesses-in-children-in-china-not-so-mysterious/
https://www.politifact.com/factchecks/2023/dec/08/tiktok-posts/no-mystery-about-or-link-between-pediatric-pneumon/
https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1509620231215042037.pdf
กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 4
https://www.who.int/emergencies/disease-outbreak-news/item/2023-DON494

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

เปิดปฏิบัติการ “สยบนาคี” จุดจบแก๊งทุจริตยา

ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช. บุกรวบแพทย์หญิง และเครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก พบข้อมูล ไปจ้างคนที่มีสิทธิเบิกราชการ หัวละ 1,000 เข้ามารับยา ก่อนเอาไปปล่อยต่อเม็ดละ 20 บาท โกยเงินเข้ากระเป๋า 60 ล้าน ทำมาแล้ว 8 ปี

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]