ชัวร์ก่อนแชร์: สมมุติฐานดูสเบิร์ก : HIV ≠ AIDS จริงหรือ?

04 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

AIDS Denialism คือแนวคิดการปฏิเสธโรคเอดส์ ทั้งการเชื่อว่าโรคเอดส์เป็นเรื่องลวงโลก ไวรัส HIV ไม่มีอยู่จริงหรือไม่ใช่สาเหตุของการก่อให้เกิดโรคเอดส์


หนึ่งในแนวคิด AIDS Denialism ที่อื้อฉาวที่สุด ได้แก่ Duesberg Hypothesis หรือ สมมุติฐานดูสเบิร์ก ซึ่งมีแนวคิดหลัก ๆ ที่เชื่อว่า ไวรัส HIV ไม่เป็นอันตราย และ ไม่ใช่สาเหตุของการป่วยเป็นโรคกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์

บทสรุป :

  1. ในอดีตมีนักวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่มีแนวคิด AIDS Denialism หรือการไม่เชื่อว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคเอดส์
  2. สมมุติฐานดูสเบิร์กเคยถูกใช้กำหนดนโยบายรับมือโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากกว่า 3 แสนราย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


สมมุติฐานดูสเบิร์ก ตั้งตามชื่อของ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก นักชีววิทยาระดับโมเลกุลชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา วัย 86 ปี

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก สร้างชื่อเสียงในวงการวิทยาศาสตร์จากการวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งในทศวรรษที่ 1970’s ได้รับ Academic Tenure (การจ้างงานศาสตราจารย์แบบถาวรหรือสิทธิในการดำรงตำแหน่ง) จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ตอนอายุ 36 ปี ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Academy of Sciences) ตอนอายุ 49 ปี

อย่างไรก็ดี ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก เริ่มมีข้อขัดแย้งกับวงการวิทยาศาสตร์มากขึ้นในทศวรรษที่ 1980’s ซึ่งเป็นช่วงที่โรคเอดส์เริ่มแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในสหรัฐอเมริกา

Inventing the AIDS Virus

กระทั่งปี 1996 ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ได้ตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า Inventing the AIDS Virus ซึ่งเนื้อหาเต็มไปด้วยแนวคิด AIDS Denialism ที่ขัดแย้งข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก

ทั้งการระบุว่าเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อ ไวรัส HIV ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการป่วยเป็นโรคเอดส์ สาเหตุการแพร่ระบาดในประเทศพัฒนาแล้วมาจากการใช้สารเสพติดของกลุ่มชายรักชาย ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตอื่น ๆ ส่วนสาเหตุการแพร่ระบาดในประเทศกำลังพัฒนา มาจากปัญหาการขาดสารอาหารและสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย เช่นเดียวกับการใช้ยาต้านไวรัสบางชนิด

โรคเอดส์กับการใช้ยาเสพติด

หลักฐานที่ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ใช้อ้างว่าสารเสพติดคือสาเหตุทำให้โรคเอดส์ระบาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปช่วงทศวรรษที่ 1980’s คือสถิติการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการระบาดของโรคเอดส์ในช่วงเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านระบาดวิทยาพบว่าในช่วงปี 1990-2002 สถิติการเสียชีวิตจากสารเสพติดที่มีฝิ่นเป็นองค์ประกอบ สูงกว่าช่วงปี 1979-1990 ถึง 3 เท่า แต่ในทางกลับกันสถิติการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ลดลงอย่างมากหลังจากปี 1990 เป็นต้นมา

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่เปรียบเทียบการป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์ในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้สารเสพติด โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีผลตรวจไวรัส HIV เป็นบวกและลบ ซึ่งพบว่ามีเพียงกลุ่มตัวอย่างที่มีผลตรวจไวรัส HIV เป็นบวกและใช้สารเสพติดเท่านั้น ที่ป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์

งานวิจัยปี 2008 ยังพบว่าการใช้สารเสพติดประเภท กัญชา โคเคน ยาบ้า และป๊อปเปอร์ ไม่ส่งผลต่อปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 หรือ CD8 จึงสรุปได้ว่าการใช้สารเสพติดไม่มีความเกี่ยวข้องกับการป่วยเป็นโรคเอดส์แต่อย่างใด

ผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ในไทย

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ยังใช้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส HIV ในประเทศไทยช่วงต้นทศวรรษที่ 1980’s มาสนับสนุนสมมุติฐานของตนเอง

ดูสเบิร์กอ้างว่า แม้ประเทศไทยจะมีผู้มีผู้ติดเชื้อ HIV จำนวนมาก แต่มีผู้ป่วยโรคเอดส์ระหว่างปี 1984-1991 เพียง 123 ราย คือหลักฐานว่าการติดเชื้อ HIV ไม่มีความสัมพันธ์กับการป่วยเป็นโรคเอดส์

แต่ผลสำรวจโดย ทิม บราวน์ นักฟิสิกส์ทฤษฎีจากศูนย์ East–West Center มหาวิทยาลัยฮาวาย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย พบว่าการแพร่ระบาดของไวรัส HIV ระหว่างปี 1988-1993 มีความสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ในเมืองไทยอย่างชัดเจน และเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าโรคเอดส์มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HIV

Duesberg Hypothesis กับการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้

แม้จะถูกต่อต้านจากแวดวงวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2000 ทาโบ อึมบากี ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ในขณะนั้น ได้แต่งตั้งให้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์กและกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่มีแนวคิดการปฏิเสธโรคเอดส์บางราย มาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ของแอฟริกาใต้ เพื่อกำหนดนโยบายด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ซึ่งระบาดอย่างหนักในประเทศ

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก มองว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ แท้จริงแล้วคือสิ่งที่หน่วยงานอนามัยระดับโลกอย่างองค์การอนามัยโลกอุปโลกน์ขึ้นมาเอง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการระดมทุนช่วยเหลือ โดยได้ความร่วมมือจากแพทย์ท้องถิ่นที่หวังประโยชน์จากเงินบริจาค

ส่วนอาการป่วยที่คล้ายกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องที่พบอย่างแพร่หลายในแอฟริกาใต้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก อธิบายว่าแท้จริงแล้วมีสาเหตุจากปัญหาการขาดสารอาหาร การดื่มน้ำปนเปื้อน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย และปัจจัยจากการติดเชื้ออื่น ๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของชุมชนในเขตชนบท

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกามักพบในชุมชนเขตตัวเมืองมากกว่าชุมชนในเขตชนบทซึ่งมีปัญหาด้านการขาดสารอาหารและสุขอนามัยมากกว่าชุมชนเขตตัวเมือง แม้ปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายในเวลาต่อมา แต่การแพร่ระบาดของโรคเอดส์กลับเพิ่มขึ้นในแอฟริกา ดังนั้นปัญหาการขาดสารอาหารและสุขอนามัยจึงไม่ใช่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ตามที่กล่าวอ้าง

การเลือก ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และกลุ่มที่มีแนวคิด AIDS Denialism มาอยู่ในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และแพทย์จำนวนกว่า 5,000 ราย ร่วมกันลงชื่อในปฏิญญาเดอร์บาน (Durban Declaration) เพื่อยืนยันว่า มีหลักฐานที่ชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ ที่พิสูจน์ได้ว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเอดส์

ผลจากการนำผู้มีแนวคิด AIDS Denialism มากำหนดนโยบายแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวนมากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสตามเวลาที่เหมาะสม เป็นสาเหตุให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นถึง 330,000 ราย รวมถึงเหยื่อจำนวนมากที่เป็นเด็กทารก

การสนับสนุนผู้มีแนวคิด AIDS Denialism ทำให้ประธานาธิบดี ทาโบ อึมบากี ถูกวิจารณ์และสูญเสียความน่าเชื่อถือทางการเมืองอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะประกาศตัดขาดเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีแนวคิด AIDS Denialism อย่างสิ้นเชิงในปี 2002

แม็กซ์ เอซเซ็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน HIV และโรคเอดส์ แสดงความเห็นต่อบทบาทของ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ว่า “ประวัติศาสตร์จะพิพากษาเขา ถ้าไม่ในฐานะคนบ้าที่เป็นตัวตลกในวงการวิทยาศาสตร์ ก็ในฐานะผู้บงการเหตุสังหารหมู่ผู้ป่วยเอดส์ในแอฟริกา”

การเผยแพร่ AIDS Denialism ในวารสารการแพทย์

ต่อมาในปี 2009 ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และ เดวิด แรสนิก นักชีวเคมีชาวอเมริกัน ได้ร่วมกันเผยแพร่แนวคิด AIDS Denialism ใน Medical Hypotheses วารสารการแพทย์ที่สนับสนุนแนวคิดที่หลากหลายในวงการวิทยาศาสตร์

เนื้อหาที่ตีพิมพ์ย้ำถึงความปลอดภัยของไวรัส HIV โดยระบุว่าไวรัส HIV ไม่สามารถแบ่งตัวในร่างกายมนุษย์ ส่วนการใช้ยาต้านไวรัสกลับเป็นอันตรายและไม่สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

นอกจากนี้ยังอ้างถึงการเพิ่มจำนวนประชากรในแอฟริกาใต้ อันเป็นผลจากนโยบายรับมือการแพร่ระบาดโรคเอดส์ของกลุ่มผู้มีแนวคิด AIDS Denialism อีกด้วย

คณะตรวจสอบงานวิจัยชิ้นนี้พบข้อบกพร่องในกระบวนการวิจัยหลายอย่าง ทั้งการใช้เทคนิค Cherry Picking หรือการเลือกนำเสนอแต่ข้อมูลที่สนับสนุนแนวคิดของตนเอง และจงใจปิดกั้นข้อมูลที่ขัดแย้งกับแนวคิดของตนเอง รวมถึงการนำความเห็นทางวิชาการมาใช้อย่างผิดบริบทอีกด้วย

แม้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะ จะยืนยันว่าไม่ผลประโยชน์ทับซ้อนในการทำงานวิจัยชิ้นนี้ แต่คณะตรวจสอบงานวิจัยพบว่า เดวิด แรสนิก ผู้ร่วมวิจัยเคยทำงานให้กับ แมทเทียส แรท เจ้าของธุรกิจอาหารเสริม รวมถึงวิตามินที่อ้างว่าใช้รักษาโรคเอดส์ ซึ่งการไม่ระบุข้อมูลดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณทางวิชาการ

เกิดกระแสกดดันไปยัง Elsevier สำนักพิมพ์วารสารการแพทย์ชั้นนำ ทำการระงับการตีพิมพ์ผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะ โดยหลังการพิจารณาภายในรวมกับคณะตรวจสอบงานวิจัยจากวารสาร The Lancet สำนักพิมพ์ Elsevier จึงลงความเห็นว่าผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องและเป็นภัยต่อวงการสาธารณสุขระดับนานาชาติ จึงตัดสินใจระงับการตีพิมพ์ผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และยุติการเผยแพร่งานวิจัยที่มีแนวคิด AIDS Denialism ทั้งหมด พร้อมทั้งปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบงานวิจัยของ Medical Hypotheses ให้เป็นไปตามมาตรฐานในเวลาต่อมา

มีการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์สอบสวน ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ในข้อหาการประพฤติมิชอบในวิชาชีพและการปิดบังผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ในปี 2010 มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์มีมติยุติการสอบสวน หลังไม่พบหลักฐานเพียงพอในการออกคำสั่งลงโทษ พร้อมอ้างว่าการสอบสวนไม่ได้พิจารณาไปถึงเนื้อหาที่อยู่ในงานวิจัยของปีเตอร์ ดูสเบิร์ก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ดังได้รับการคุ้มครองด้านเสรีภาพทางวิชาการ

AIDS Denialism และ Nobel Disease

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สาเหตุที่ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีแนวคิด AIDS Denialism ที่เป็นอันตรายที่สุด เนื่องจากเขาได้รับการสนับสนุนจากชื่อเสียงในฐานะนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ไม่ใช่เพราะมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ

หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ให้การสนับสนุน ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ยังรวมถึง แครี มัลลิส นักชีวเคมีชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมี จากผลงานการคิดค้นกระบวนการสังเคราะห์ชิ้นส่วนดีเอ็นเอในหลอดทดลองที่เรียกว่าปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (Polymerase Chain Reaction หรือ PCR)

แครี มัลลิส ถือเป็นหนึ่งในผู้มีแนวคิด AIDS Denialism ที่ไม่เชื่อว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเอดส์ และไม่เชื่อว่ากิจกรรมของมนุษย์ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ท่าทีของ แครี มัลลิส ได้รับการเรียกขานเชิงล้อเลียนในวงการวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการป่วยด้วยโรค Nobelitis หรือ Nobel Disease ที่ใช้เรียกผู้ชนะรางวัลโนเบลบางรายที่การแสดงความเห็นขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในสาขาที่อยู่นอกเหนือความเชี่ยวชาญของตนเอง

AIDS Denialism ในปัจจุบัน

การเผยแพร่แนวคิด AIDS Denialism ยังมีให้เห็นในปี 2023 เมื่อมีการวางจำหน่ายหนังสือ The Real AIDS Epidemic: How the Tragic HIV Mistake Threatens Us All ของนักเขียน รีเบคกา คัลชอว์ ที่เนื้อหาสนับสนุนแนวคิด AIDS Denialism อย่างชัดเจน

ส่งผลให้ GLAAD กลุ่มสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ และ ACT UP กลุ่มรณรงค์ยุติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ รวมตัวกันเพื่อกดดันให้สำนักพิมพ์ Simon & Schuster ยุติการตีพิมพ์หนังสือ The Real AIDS Epidemic แม้ว่าสุดท้ายแล้วตัวหนังสือจะได้รับการตีพิมพ์ในเวลาต่อมาก็ตาม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2023/01/18/fact-check-false-claim-cia-admitted-jfk-assassination/11041561002/
https://en.wikipedia.org/wiki/CIA_Kennedy_assassination_conspiracy_theory
https://edition.cnn.com/2023/06/30/politics/jfk-assassination-documents-national-archives-review/index.html
https://www.foxnews.com/politics/national-archives-completes-review-jfk-assassination-documents-99-publicly-available-white-house

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]