ชัวร์ก่อนแชร์: สมมุติฐานดูสเบิร์ก : HIV ≠ AIDS จริงหรือ?

04 ธันวาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

AIDS Denialism คือแนวคิดการปฏิเสธโรคเอดส์ ทั้งการเชื่อว่าโรคเอดส์เป็นเรื่องลวงโลก ไวรัส HIV ไม่มีอยู่จริงหรือไม่ใช่สาเหตุของการก่อให้เกิดโรคเอดส์


หนึ่งในแนวคิด AIDS Denialism ที่อื้อฉาวที่สุด ได้แก่ Duesberg Hypothesis หรือ สมมุติฐานดูสเบิร์ก ซึ่งมีแนวคิดหลัก ๆ ที่เชื่อว่า ไวรัส HIV ไม่เป็นอันตราย และ ไม่ใช่สาเหตุของการป่วยเป็นโรคกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์

บทสรุป :

  1. ในอดีตมีนักวิทยาศาสตร์ไม่น้อยที่มีแนวคิด AIDS Denialism หรือการไม่เชื่อว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคเอดส์
  2. สมมุติฐานดูสเบิร์กเคยถูกใช้กำหนดนโยบายรับมือโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโรคเอดส์มากกว่า 3 แสนราย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


สมมุติฐานดูสเบิร์ก ตั้งตามชื่อของ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก นักชีววิทยาระดับโมเลกุลชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา วัย 86 ปี

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก สร้างชื่อเสียงในวงการวิทยาศาสตร์จากการวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งในทศวรรษที่ 1970’s ได้รับ Academic Tenure (การจ้างงานศาสตราจารย์แบบถาวรหรือสิทธิในการดำรงตำแหน่ง) จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ตอนอายุ 36 ปี ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Academy of Sciences) ตอนอายุ 49 ปี

อย่างไรก็ดี ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก เริ่มมีข้อขัดแย้งกับวงการวิทยาศาสตร์มากขึ้นในทศวรรษที่ 1980’s ซึ่งเป็นช่วงที่โรคเอดส์เริ่มแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในสหรัฐอเมริกา

Inventing the AIDS Virus

กระทั่งปี 1996 ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ได้ตีพิมพ์หนังสือที่ชื่อว่า Inventing the AIDS Virus ซึ่งเนื้อหาเต็มไปด้วยแนวคิด AIDS Denialism ที่ขัดแย้งข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์จำนวนมาก

ทั้งการระบุว่าเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อ ไวรัส HIV ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการป่วยเป็นโรคเอดส์ สาเหตุการแพร่ระบาดในประเทศพัฒนาแล้วมาจากการใช้สารเสพติดของกลุ่มชายรักชาย ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปรสิตอื่น ๆ ส่วนสาเหตุการแพร่ระบาดในประเทศกำลังพัฒนา มาจากปัญหาการขาดสารอาหารและสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย เช่นเดียวกับการใช้ยาต้านไวรัสบางชนิด

โรคเอดส์กับการใช้ยาเสพติด

หลักฐานที่ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ใช้อ้างว่าสารเสพติดคือสาเหตุทำให้โรคเอดส์ระบาดในสหรัฐอเมริกาและยุโรปช่วงทศวรรษที่ 1980’s คือสถิติการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการระบาดของโรคเอดส์ในช่วงเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านระบาดวิทยาพบว่าในช่วงปี 1990-2002 สถิติการเสียชีวิตจากสารเสพติดที่มีฝิ่นเป็นองค์ประกอบ สูงกว่าช่วงปี 1979-1990 ถึง 3 เท่า แต่ในทางกลับกันสถิติการเสียชีวิตจากโรคเอดส์ลดลงอย่างมากหลังจากปี 1990 เป็นต้นมา

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่เปรียบเทียบการป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์ในกลุ่มตัวอย่างที่ใช้สารเสพติด โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีผลตรวจไวรัส HIV เป็นบวกและลบ ซึ่งพบว่ามีเพียงกลุ่มตัวอย่างที่มีผลตรวจไวรัส HIV เป็นบวกและใช้สารเสพติดเท่านั้น ที่ป่วยเป็นโรคฉวยโอกาสจากโรคเอดส์

งานวิจัยปี 2008 ยังพบว่าการใช้สารเสพติดประเภท กัญชา โคเคน ยาบ้า และป๊อปเปอร์ ไม่ส่งผลต่อปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 หรือ CD8 จึงสรุปได้ว่าการใช้สารเสพติดไม่มีความเกี่ยวข้องกับการป่วยเป็นโรคเอดส์แต่อย่างใด

ผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์ในไทย

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ยังใช้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส HIV ในประเทศไทยช่วงต้นทศวรรษที่ 1980’s มาสนับสนุนสมมุติฐานของตนเอง

ดูสเบิร์กอ้างว่า แม้ประเทศไทยจะมีผู้มีผู้ติดเชื้อ HIV จำนวนมาก แต่มีผู้ป่วยโรคเอดส์ระหว่างปี 1984-1991 เพียง 123 ราย คือหลักฐานว่าการติดเชื้อ HIV ไม่มีความสัมพันธ์กับการป่วยเป็นโรคเอดส์

แต่ผลสำรวจโดย ทิม บราวน์ นักฟิสิกส์ทฤษฎีจากศูนย์ East–West Center มหาวิทยาลัยฮาวาย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย พบว่าการแพร่ระบาดของไวรัส HIV ระหว่างปี 1988-1993 มีความสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ในเมืองไทยอย่างชัดเจน และเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าโรคเอดส์มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HIV

Duesberg Hypothesis กับการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้

แม้จะถูกต่อต้านจากแวดวงวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2000 ทาโบ อึมบากี ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ในขณะนั้น ได้แต่งตั้งให้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์กและกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่มีแนวคิดการปฏิเสธโรคเอดส์บางราย มาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ของแอฟริกาใต้ เพื่อกำหนดนโยบายด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ซึ่งระบาดอย่างหนักในประเทศ

ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก มองว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ แท้จริงแล้วคือสิ่งที่หน่วยงานอนามัยระดับโลกอย่างองค์การอนามัยโลกอุปโลกน์ขึ้นมาเอง เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการระดมทุนช่วยเหลือ โดยได้ความร่วมมือจากแพทย์ท้องถิ่นที่หวังประโยชน์จากเงินบริจาค

ส่วนอาการป่วยที่คล้ายกับระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องที่พบอย่างแพร่หลายในแอฟริกาใต้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก อธิบายว่าแท้จริงแล้วมีสาเหตุจากปัญหาการขาดสารอาหาร การดื่มน้ำปนเปื้อน การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดสุขอนามัย และปัจจัยจากการติดเชื้ออื่น ๆ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของชุมชนในเขตชนบท

อย่างไรก็ดี ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในแอฟริกามักพบในชุมชนเขตตัวเมืองมากกว่าชุมชนในเขตชนบทซึ่งมีปัญหาด้านการขาดสารอาหารและสุขอนามัยมากกว่าชุมชนเขตตัวเมือง แม้ปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายในเวลาต่อมา แต่การแพร่ระบาดของโรคเอดส์กลับเพิ่มขึ้นในแอฟริกา ดังนั้นปัญหาการขาดสารอาหารและสุขอนามัยจึงไม่ใช่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ตามที่กล่าวอ้าง

การเลือก ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และกลุ่มที่มีแนวคิด AIDS Denialism มาอยู่ในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านไวรัส HIV และโรคเอดส์ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และแพทย์จำนวนกว่า 5,000 ราย ร่วมกันลงชื่อในปฏิญญาเดอร์บาน (Durban Declaration) เพื่อยืนยันว่า มีหลักฐานที่ชัดเจนและเป็นเอกฉันท์ ที่พิสูจน์ได้ว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเอดส์

ผลจากการนำผู้มีแนวคิด AIDS Denialism มากำหนดนโยบายแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวนมากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสตามเวลาที่เหมาะสม เป็นสาเหตุให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นถึง 330,000 ราย รวมถึงเหยื่อจำนวนมากที่เป็นเด็กทารก

การสนับสนุนผู้มีแนวคิด AIDS Denialism ทำให้ประธานาธิบดี ทาโบ อึมบากี ถูกวิจารณ์และสูญเสียความน่าเชื่อถือทางการเมืองอย่างหนัก ก่อนที่เขาจะประกาศตัดขาดเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีแนวคิด AIDS Denialism อย่างสิ้นเชิงในปี 2002

แม็กซ์ เอซเซ็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน HIV และโรคเอดส์ แสดงความเห็นต่อบทบาทของ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ว่า “ประวัติศาสตร์จะพิพากษาเขา ถ้าไม่ในฐานะคนบ้าที่เป็นตัวตลกในวงการวิทยาศาสตร์ ก็ในฐานะผู้บงการเหตุสังหารหมู่ผู้ป่วยเอดส์ในแอฟริกา”

การเผยแพร่ AIDS Denialism ในวารสารการแพทย์

ต่อมาในปี 2009 ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และ เดวิด แรสนิก นักชีวเคมีชาวอเมริกัน ได้ร่วมกันเผยแพร่แนวคิด AIDS Denialism ใน Medical Hypotheses วารสารการแพทย์ที่สนับสนุนแนวคิดที่หลากหลายในวงการวิทยาศาสตร์

เนื้อหาที่ตีพิมพ์ย้ำถึงความปลอดภัยของไวรัส HIV โดยระบุว่าไวรัส HIV ไม่สามารถแบ่งตัวในร่างกายมนุษย์ ส่วนการใช้ยาต้านไวรัสกลับเป็นอันตรายและไม่สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

นอกจากนี้ยังอ้างถึงการเพิ่มจำนวนประชากรในแอฟริกาใต้ อันเป็นผลจากนโยบายรับมือการแพร่ระบาดโรคเอดส์ของกลุ่มผู้มีแนวคิด AIDS Denialism อีกด้วย

คณะตรวจสอบงานวิจัยชิ้นนี้พบข้อบกพร่องในกระบวนการวิจัยหลายอย่าง ทั้งการใช้เทคนิค Cherry Picking หรือการเลือกนำเสนอแต่ข้อมูลที่สนับสนุนแนวคิดของตนเอง และจงใจปิดกั้นข้อมูลที่ขัดแย้งกับแนวคิดของตนเอง รวมถึงการนำความเห็นทางวิชาการมาใช้อย่างผิดบริบทอีกด้วย

แม้ ปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะ จะยืนยันว่าไม่ผลประโยชน์ทับซ้อนในการทำงานวิจัยชิ้นนี้ แต่คณะตรวจสอบงานวิจัยพบว่า เดวิด แรสนิก ผู้ร่วมวิจัยเคยทำงานให้กับ แมทเทียส แรท เจ้าของธุรกิจอาหารเสริม รวมถึงวิตามินที่อ้างว่าใช้รักษาโรคเอดส์ ซึ่งการไม่ระบุข้อมูลดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณทางวิชาการ

เกิดกระแสกดดันไปยัง Elsevier สำนักพิมพ์วารสารการแพทย์ชั้นนำ ทำการระงับการตีพิมพ์ผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะ โดยหลังการพิจารณาภายในรวมกับคณะตรวจสอบงานวิจัยจากวารสาร The Lancet สำนักพิมพ์ Elsevier จึงลงความเห็นว่าผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์กและคณะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องและเป็นภัยต่อวงการสาธารณสุขระดับนานาชาติ จึงตัดสินใจระงับการตีพิมพ์ผลงานของปีเตอร์ ดูสเบิร์ก และยุติการเผยแพร่งานวิจัยที่มีแนวคิด AIDS Denialism ทั้งหมด พร้อมทั้งปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบงานวิจัยของ Medical Hypotheses ให้เป็นไปตามมาตรฐานในเวลาต่อมา

มีการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์สอบสวน ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ในข้อหาการประพฤติมิชอบในวิชาชีพและการปิดบังผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ในปี 2010 มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์มีมติยุติการสอบสวน หลังไม่พบหลักฐานเพียงพอในการออกคำสั่งลงโทษ พร้อมอ้างว่าการสอบสวนไม่ได้พิจารณาไปถึงเนื้อหาที่อยู่ในงานวิจัยของปีเตอร์ ดูสเบิร์ก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ดังได้รับการคุ้มครองด้านเสรีภาพทางวิชาการ

AIDS Denialism และ Nobel Disease

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สาเหตุที่ ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีแนวคิด AIDS Denialism ที่เป็นอันตรายที่สุด เนื่องจากเขาได้รับการสนับสนุนจากชื่อเสียงในฐานะนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ไม่ใช่เพราะมีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ

หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ให้การสนับสนุน ปีเตอร์ ดูสเบิร์ก ยังรวมถึง แครี มัลลิส นักชีวเคมีชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมี จากผลงานการคิดค้นกระบวนการสังเคราะห์ชิ้นส่วนดีเอ็นเอในหลอดทดลองที่เรียกว่าปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (Polymerase Chain Reaction หรือ PCR)

แครี มัลลิส ถือเป็นหนึ่งในผู้มีแนวคิด AIDS Denialism ที่ไม่เชื่อว่าไวรัส HIV คือสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเอดส์ และไม่เชื่อว่ากิจกรรมของมนุษย์ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ท่าทีของ แครี มัลลิส ได้รับการเรียกขานเชิงล้อเลียนในวงการวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการป่วยด้วยโรค Nobelitis หรือ Nobel Disease ที่ใช้เรียกผู้ชนะรางวัลโนเบลบางรายที่การแสดงความเห็นขัดแย้งต่อข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในสาขาที่อยู่นอกเหนือความเชี่ยวชาญของตนเอง

AIDS Denialism ในปัจจุบัน

การเผยแพร่แนวคิด AIDS Denialism ยังมีให้เห็นในปี 2023 เมื่อมีการวางจำหน่ายหนังสือ The Real AIDS Epidemic: How the Tragic HIV Mistake Threatens Us All ของนักเขียน รีเบคกา คัลชอว์ ที่เนื้อหาสนับสนุนแนวคิด AIDS Denialism อย่างชัดเจน

ส่งผลให้ GLAAD กลุ่มสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ และ ACT UP กลุ่มรณรงค์ยุติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ รวมตัวกันเพื่อกดดันให้สำนักพิมพ์ Simon & Schuster ยุติการตีพิมพ์หนังสือ The Real AIDS Epidemic แม้ว่าสุดท้ายแล้วตัวหนังสือจะได้รับการตีพิมพ์ในเวลาต่อมาก็ตาม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2023/01/18/fact-check-false-claim-cia-admitted-jfk-assassination/11041561002/
https://en.wikipedia.org/wiki/CIA_Kennedy_assassination_conspiracy_theory
https://edition.cnn.com/2023/06/30/politics/jfk-assassination-documents-national-archives-review/index.html
https://www.foxnews.com/politics/national-archives-completes-review-jfk-assassination-documents-99-publicly-available-white-house

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]