fbpx

ชัวร์ก่อนแชร์: ภาพถ่ายยืนยันการพบ “เอเลี่ยน” ในประวัติศาสตร์ จริงหรือ?

07 กันยายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

ภาพ UFO/UAP และ เอเลี่ยน ที่ถูกแชร์ทุกภาพเกิดจากการสร้างด้วยเทคนิคทางคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ ที่อ้างว่ามีหลักฐานภาพถ่ายที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่ยืนยันการมาถึงของมนุษย์ต่างดาวหรือเอเลี่ยน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ภาพแรกคือภาพถ่ายขาวดำที่อ้างว่าเป็นภาพ UFO/UAP ที่บันทึกเอาไว้ได้ที่เมืองทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีเมื่อปี 1933 ที่เชื่อว่าเป็นภาพถ่ายที่บันทึกการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาวเป็นครั้งแรกของโลก หรือก่อนภาพถ่าย UFO/UAP ที่ถ่ายได้ที่เมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ถึง 14 ปี

ภาพจำลองการพบซาก UFO/UAP ที่ประเทศอิตาลีเมื่อปี 1933

ข่าวการพบ UFO/UAP ในประเทศอิตาลีเมื่อปี 1933 กลายเป็นที่สนใจจากสื่อหลายสำนักในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อ โรแบร์โต ปินอตติ นักวิจัยชาวอิตาลีเปิดเผยว่า เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำฟาสซิสต์ของประเทศอิตาลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ก่อตั้งโครงการวิจัยเกี่ยวกับ UFO/UAP หลังการพบซาก UFO/UAP ตกที่แคว้นลอมบาร์ดี ดินแดนทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1933

โรแบร์โต ปินอตติ อ้างว่า หลังจากประเทศอิตาลีพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลของสหรัฐอเมริกาดำเนินการยึดครอง UFO/UAP และซากของเอเลี่ยน เพื่อนำกลับไปยังประเทศของตนเอง

นักวิจัยชาวอิตาลีเล่าว่า เขาได้รับหลักฐานและเอกสารเกี่ยวกับโครงการวิจัยมาจากแหล่งข้อมูลที่อ้างว่าเป็นญาติของอดีตนักวิจัยที่มีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว

แม้โครงการ UFO/UAP ของเบนิโต มุสโสลินีจะยังไม่อาจพิสูจน์ได้ แต่ภาพถ่ายเชื่อว่าเป็นการบักทึกภาพ UFO/UAP ที่ประเทศอิตาลีเมื่อปี 1933 เป็นเพียงภาพที่ศิลปินทำการจำลองเหตุการณ์ตามคำบอกเล่าเท่านั้น ไม่ใช่ภาพซาก UFO/UAP ของจริง

ภาพที่สองคือภาพ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีของประเทศเยอรมนี กำลังจับมือทักทายกับสิ่งที่ดูคล้ายกับมนุษย์ต่างดาว

จากการตรวจสอบโดย Reuters Fact Check พบว่า ภาพดังกล่าวเกิดจากการดัดแปลงภาพด้วยกระบวนการดิจิตอล โดยภาพต้นฉบับคือภาพที่ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กำลังจับมือกับ เบนิโต มุสโสลินี โดยภาพถ่ายของสองผู้นำกลุ่มอักษะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นำมาจากภาพข่าวหน้าหนึ่งของ Illustrierter Beobachter (Illustrated Observer) หนังสือพิมพ์โฆษณาชวนเชื่อของพรรคนาซี ที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 1938

ภาพที่สามคือภาพถ่ายซาก UFO/UAP ที่ถูกหิมะปกคุลม โดยอ้างว่าถ่ายได้ที่ทวีปแอนตาร์กติกา บริเวณขั้วโลกใต้ในช่วงปี 1945-1950 โดยผู้โพสต์อ้างว่าภาพ UFO/UAP ชิ้นนี้คือหลักฐานยืนยันว่า การที่แอนตาร์กติกาเป็นดินแดนที่ถูกปิดจากโลกภายนอกมาเป็นเวลานาน เนื่องจากถูกใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาซาก UFO/UAP นั่นเอง

จากการตรวจสอบโดย Reuters Fact Check พบว่า ภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นการบันทึกภาพซาก UFO/UAP แท้จริงแล้วนำมาจากภาพที่สร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี AI ก่อนนำไปลดความคมชัดของภาพเพื่อให้เข้าใจผิดว่าเป็นภาพที่บันทึกเอาไว้มานานแล้ว

แซค ฮิชแมน เจ้าของบัญชี Facebook ที่ชื่อว่า AI Art Universe และ AI Generated Art เล่าว่าภาพต้นฉบับเป็นผลงานที่เขาใช้ AI ช่วยในการผลิต และรู้สึกผิดหวังที่งานสร้างสรรค์ของตนถูกนำไปใช้เผยแพร่ข่าวปลอม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.dailymail.co.uk/news/article-12252381/Italian-researcher-shares-evidence-files-secret-UFO-crash-Italy.html
https://www.reuters.com/article/factcheck-hitler-alien-altered-idUSL1N33Y1T6
https://www.reuters.com/article/factcheck-antarctica-ai/fact-check-images-of-spaceship-in-antarctica-were-created-by-a-digital-artist-idUSL1N3581MW

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้