ชัวร์ก่อนแชร์: Barbenheimer ปรากฏการณ์วงการภาพยนตร์แห่งปี 2023

21 สิงหาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ภาพนาย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา พาลูกชายและลูกสาวไปชมภาพยนตร์ Oppenheimer และ Barbie แบบไม่ยอมตกกระแส บ่งบอกถึงความแรงแบบฉุดไม่อยู่ของ Barbenheimer ปรากฏการณ์วงการภาพยนตร์แห่งปี 2023 เมื่อการฉายชนกันของภาพยนตร์ต่างแนว เรื่องหนึ่งเล่าถึงชีวประวัตินักวิทยาศาสตร์ผู้ให้กำเนิดระเบิดปรมาณู (Oppenheimer) ส่วนอีกเรื่องเล่าการผจญภัยสนุกสนานของตุ๊กตาเด็กผู้หญิง (Barbie) กลายเป็นการฉายภาพยนตร์ที่ได้รับการจับตาไปทั่วโลก

บนโลกออนไลน์เต็มไปด้วยหัวข้อเกี่ยวกับ Barbenheimer ไม่ว่าเสียงชื่นชม เสียงตำหนิ การวิเคราะห์ การจับผิด กลายเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาในชีวิตประจำวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถือเป็นการโพรโมตภาพยนตร์แบบปากต่อปากจากการสนับสนุนโดยกลุ่มแฟนหนัง ที่ต่อให้บริษัทผู้ผลิตทุ่มงบโฆษณามากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถจุดกระแสให้เกิดความสนใจได้ถึงเพียงนี้


จัสติน ทรูโด เกาะกระแส Barbenheimer

จุดเริ่มต้นจากความขัดแย้ง

ไม่น่าเชื่อว่า จุดกำเนิดของปรากฏการณ์ Barbenheimer จะเริ่มจากความขัดแย้งระหว่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับหนัง Oppenheimer และ Warner Bros. Pictures บริษัทผู้จัดจำหน่ายหนัง Barbie

คริสโตเฟอร์ โนแลน ถือเป็นผู้กำกับที่ร่วมงานกับ Warner Bros. Pictures มาอย่างยาวนานเป็นเวลาถึง 18 ปี ตั้งแต่ผลงานเรื่อง Insomnia (2002) จนถึง Tenet (2020)


จุดแตกหักของ คริสโตเฟอร์ โนแลน กับ Warner Bros. Pictures เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2020 เมื่อ Warner Bros. Pictures ประกาศจะนำหนัง 17 เรื่องที่เตรียมออกฉายในปี 2021 มาเผยแพร่ผ่านทาง HBO Max บริการสตรีมมิ่งของบริษัท หลังรายได้จากการฉายหนังในโรงภาพยนตร์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

แผนดังกล่าวสร้างความไม่พอใจต่อ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่วิจารณ์ว่าเป็นการทำลายอุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวม

ผลงานของ คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เคยร่วมงานกับ Warner Bros. Pictures

แม้ Warner Bros. Pictures จะล้มเลิกแผนการดังกล่าวในช่วงเดือนพฤษภาคม 2021 แต่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้เริ่มต้นหารือกับบริษัทภาพยนตร์คู่แข่งเจ้าอื่น ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนประกาศในช่วงเดือนกันยายน 2021 ว่า โพรเจ็กต์หนังเรื่องถัดไปของเขาที่มีชื่อว่า Oppenheimer จะจัดจำหน่ายโดย Universal Pictures ค่ายหนังคู่แข่งของ Warner Bros. Pictures

ข้อตกลงที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้รับจาก Universal Pictures ได้แก่

1) ทุนสร้างภาพยนตร์ระดับ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา พร้อมงบโฆษณาประชาสัมพันธ์เทียบเท่ากับทุนสร้างภาพยนตร์
2) สิทธิการควบคุมความคิดสร้างสรรค์โดยสมบูรณ์
3) รายได้ 20% จากการฉายภาพยนตร์
4) ทางค่ายจะไม่เปิดตัวหนังใหม่ในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนและหลังในระหว่างที่ผลงานของเขากำลังเข้าฉายในโรง
5) รับประกันการยืนโรงฉาย 100 วัน ก่อนการเผยแพร่ทางบริการสตรีมมิ่ง

กระทั่งเดือนตุลาคม 2021 Universal Pictures จึงประกาศโปรแกรมฉายของหนัง Oppenheimer เป็นวันที่ 21 กรกฎาคม 2023

วิธีตอบรับของ Warner Bros.

แต่เดิม โปรแกรมการฉายหนังของ Warner Bros. Pictures ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2023 เป็นของหนังตลกเล็ก ๆ เรื่อง Coyote vs. Acme

แต่ในเดือนเมษายน 2022 Warner Bros. Pictures เปลี่ยนโปรแกรมการฉายในวันดังกล่าว ด้วยการนำ Barbie หนังเรือธงของค่ายมาฉายในวันดังกล่าวแทน

การกระทำเช่นนี้ได้รับการจับตาจากแวดวงฮอลลีวูดว่า เป็นการแก้แค้นผู้กำกับคนดังที่หันไปร่วมงานกับค่ายหนังคู่แข่ง เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน เลือกที่จะนำผลงานส่วนใหญ่ออกฉายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเป็นประจำ (ตั้งแต่ The Dark Knight (2008) จนถึง Tenet (2020) ยกเว้น Interstellar ที่ออกฉายปลายปี 2014)

การนำ Barbie ออกฉายในวันเดียวกับ Oppenheimer จึงถือเป็นการท้าทายผู้กำกับคนดังโดยตรง

ผู้บริหาร Warner Bros. ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการล้างแค้น พร้อมยืนยันว่ามีความต้องการไกล่เกลี่ยกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน แต่ผู้เชี่ยวชาญบ็อกซ์ออฟฟิศก็ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้า Warner Bros. ต้องการคืนดีกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน จริง ทำไมถึงไม่ยอมเลื่อนวันฉายหนัง Barbie ออกไปเป็นวันอื่น

แม้มีรายงานว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน รู้สึกหงุดหงิดต่อแผนการขัดขวางของ Warner Bros. แต่บทสัมภาษณ์ต่อสื่อกลับกลายเป็นทิศทางในแง่บวก เมื่อผู้กำกับใหญ่มองว่าการฉายชนกันของหนังใหญ่ต่างแนว ทำให้แฟนภาพยนตร์มีหนังที่หลากหลายให้เลือกชม ถือเป็นผลดีสำหรับโรงภาพยนตร์โดยตรง

Mamma Mia! และ The Dark Knight

Counterprogramming

การฉายชนกันของ Oppenheimer และ Barbie ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Counterprogramming หรือการนำหนังต่างแนวมาลงฉายในวันเดียวกัน เพื่อกระตุ้นความสนใจแฟนภาพยนตร์ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของหนังโดยตรง

ก่อนหน้านี้ Universal Pictures เคยประสบความสำเร็จในการจับหนังต่างแนวมาฉายชนกันในปี 2002 ได้แก่หนังไซไฟฟอร์มยักษ์ Star Wars: Episode II – Attack of the Clones และหนังตลกดราม่า About a Boy ส่งผลให้หนังตลกเล็ก ๆ ของ ฮิวจ์ แกรนต์ ทำเงินทั่วโลกเกินคาดถึง 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา จากทุนสร้าง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

ย้อนไปปี 2008 คริสโตเฟอร์ โนแลน เคยผ่านประสบการณ์ส่งผลงานฉายชนกับหนังแนวเบาสมองมาแล้ว โดยปีนั้นเป็นการฉายชนกันระหว่าง The Dark Knight ผลงานสมัยที่โนแลนยังร่วมงานกับ Warner Bros. และ Mamma Mia! หนังเพลงของค่าย Universal Pictures

มีมจาก Barbenheimer

กระแสบนโลกออนไลน์

ครั้งแรกที่คำว่า Barbenheimer ปรากฏบนโลกออนไลน์ มาจากโพสต์ทาง Twitter ของ Next Best Picture เว็บไซต์เกาะติดข่าวการชิงชัยรางวัลทางภาพยนตร์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2022

หลังจากนั้นไม่มานาน คำว่า Barbenheimer ก็กลายเป็นคำยอดฮิตบนโลกออนไลน์ เกิดกระแสการสร้างมีมจากหนังทั้งสองเรื่องอย่างแพร่หลาย

เมื่อใกล้ถึงวันหนังเข้าฉาย เกิดแนวคิดสนับสนุนให้มีการชมภาพยนตร์ Oppenheimer และ Barbie แบบแพ็กคู่ ถึงขนาดมองว่าหนังทั้งสองเรื่องควรชมแบบ Double feature หรือการดูหนังสองเรื่องต่อกัน นำไปสู่การนำเสนอทฤษฎีว่าควรดูหนังเรื่องไหนก่อนกัน

การหยุดงานประท้วงของสมาคมนักเขียนบทและสมาคมนักแสดงในฮอลลีวูด

สถานการณ์ฮอลลีวูดก่อน Barbenheimer

ก่อนการฉายของ Oppenheimer และ Barbie ฮอลลีวูดตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ เมื่อภาพยนตร์หลายเรื่องที่คาดว่าจะเป็นหนังฮิตประจำปี กลับทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศน้อยกว่าคาดการณ์ติดต่อกันหลายเรื่อง ตั้งแต่หนังที่ทำเงินไม่ตามเป้าทั้ง Fast X, The Little Mermaid, Mission: Impossible, Ant-Man, Elemental จนถึงผลงานที่ล้มเหลวทางรายได้อย่างสิ้นเชิงอย่าง The Flash และ Indiana Jones and the Dial of Destiny

ปี 2023 ยังเป็นปีที่ฮอลลีวูดเผชิญกับปัญหาการหยุดงานประท้วงของสมาคมนักเขียนบทและสมาคมนักแสดง ส่งผลกระทบต่อโครงการผลิตภาพยนตร์ในอนาคต เมื่อหลายโพรเจ็กต์ต้องประกาศเลื่อนการถ่ายทำหรือเลื่อนโปรแกรมการฉายอย่างถ้วนหน้า

21 กรกฎาคม 2023

ก่อนวันฉาย ผู้เชี่ยวชาญบ็อกซ์ออฟฟิศต่างประเมินว่า Barbie และ Oppenheimer จะประสบความสำเร็จในรอบเปิดตัวทั้งคู่ แต่รายได้ในวันฉายจริงกลับสูงกว่าที่ประเมินเอาไว้มาก

Barbie เปิดตัวในฐานะแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศ ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกในทวีปอเมริกาเหนือที่ 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา สูงกว่าการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ที่ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

ส่งผลให้ Barbie กลายเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดประจำปี 2023 และยังเป็นหนังที่กำกับโดยผู้หญิงที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดอีกด้วย

Oppenheimer เปิดตัวในฐานะรองแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศ ทำรายได้สุดสัปดาห์แรกในทวีปอเมริกาเหนือที่ 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา สูงกว่าการคาดการณ์ที่ประเมินไว้ที่ 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

รายได้ 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ส่งให้ Oppenheimer เป็นหนังรายได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ที่พลาดการคว้าแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศ (เป็นรอง Inside Out ที่พลาดแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศให้กับ Jurassic World เมื่อปี 2015)

การเปิดตัวที่ร้อนแรงของ Barbie และ Oppenheimer ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีภาพยนตร์เปิดตัวด้วยรายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในสัปดาห์เดียวกัน

ความสำเร็จของกระแส Barbenheimer ยังส่งผลให้ AMC เครือข่ายโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ทำลายสถิติรายได้จากการฉายหนังในรอบ 103 ปีของการดำเนินกิจการเลยทีเดียว

ความสนใจที่แฟนหนังมีต่อโรงภาพยนตร์ที่ฉาย
ฟิล์ม IMAX 70mm ซึ่งมีเพียง 30 แห่งทั่วโลก

ความสนใจที่แฟนหนังมีต่อ Oppenheimer ยังมาจากการรับชมผ่านจอฉายในระบบ IMAX

แม้ในสหรัฐอเมริกาจะมีจอ IMAX ทั้งประเทศที่ 411 แห่ง แต่รายได้จากการฉายที่โรง IMAX คิดเป็นรายได้ถึง 26% ของรายได้เปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากตั๋วถูกจำหน่ายหมดเกือบทุกรอบ แม้แต่ในรอบฉายรอบตี 1 และรอบ 6 โมงเช้าก็ตาม

ริช เกลฟอนด์ ซีอีโอของ IMAX กล่าวถึง Oppenheimer ว่าเป็นความปรากฏการณ์ที่ไม่มีหนังเรื่องไหนเทียบได้ กระแสนิยมต่อการชมภาพยนตร์บนจอ IMAX เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก แม้แต่รอบฉายตอนตี 4 ก็ยังจำหน่ายตั๋วจนหมด มีแฟนหนังบางรายเดินทางข้ามรัฐเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อมาชม Oppenheimer ในโรงหนังที่ฉายฟิล์ม IMAX 70mm ซึ่งมีอยู่เพียง 19 แห่งในสหรัฐอเมริกา และ 30 แห่งทั่วโลกเท่านั้น

ปรากฏการณ์วงการภาพยนตร์แห่งปี 2023

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Boxofficemojo เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2023 ระบุว่า Barbie ทำเงินจากการฉายรอบโลกประมาณ 1,279 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา รั้งตำแหน่งภาพยนตร์รายได้อันดับที่ 2 ของปี 2023 ส่วน Oppenheimer ทำรายได้จากการฉายรอบโลกประมาณ 717 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา รั้งตำแหน่งภาพยนตร์รายได้อันดับที่ 4

จากการสำรวจโดย PostTrak พบว่าในรอบเปิดตัว ผู้ชม 65% ของ Barbie คือแฟนภาพยนตร์เพศหญิง โดย 40% ของผู้ซื้อตั๋วมีอายุน้อยกว่า 25 ปี

ขณะที่ 62% ของผู้ชมในรอบเปิดตัวของ Oppenheimer คือแฟนภาพยนตร์เพศชาย โดย 63% ของผู้ซื้อตั๋วมีอายุมากกว่า 25 ปี

รายงานพบว่า รายได้ 4.98 ล้านดอลลาร์ของ Oppenheimer ในรอบฉายเปิดตัว ยังมาจากแฟนหนัง Barbie ที่ต้องมาดู Oppenheimer เนื่องจากรอบฉายหนัง Barbie ถูกจำหน่ายตั๋วจนหมด

ไมเคิล โอ’เลียรี ประธานและซีอีโอสมาคมผู้ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์แห่งชาติ (NATO) เปิดใจต่อสำนักข่าว AP ว่า สัปดาห์เปิดตัวของ Barbie และ Oppenheimer คือความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์และส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์โดยรวม Barbenheimer กระตุ้นให้คนในสังคมรับรู้ว่ามีกระแสบางอย่างที่ยอดเยี่ยมกำลังเป็นที่กล่าวขวัญ และทุก ๆ คนก็อยากจะมีส่วนร่วมกับมัน

เจฟ โกลด์สตีน ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายในประเทศของ Warner Bros. ยอมรับว่า กระแส Barbenheimer ส่งผลดีต่อหนังทั้ง 2 เรื่อง ทุกคนในวงการภาพยนตร์ล้วนได้ประโยชน์ ถือเป็นการรณรงค์ทางการตลาดที่ยอดเยี่ยมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และจะเป็นที่กล่าวขานในวงการภาพยนตร์ไปตลอดกาล

ข้อมูลอ้างอิง :

https://en.wikipedia.org/wiki/Barbenheimer
https://www.boxofficemojo.com/year/world/?ref_=bo_nb_hm_tab
https://apnews.com/article/barbie-oppenheimer-barbenheimer-box-office-3ff25c0a3acf7b568866c2ff307d0108
https://www.entrepreneur.com/business-news/amc-ticket-sales-make-history-thanks-to-barbie-oppenheimer/456784
https://www.ndtv.com/feature/barbie-with-son-oppenheimer-with-daughter-justin-trudeau-completes-barbenheimer-4282969

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]

โฆษก ทบ. ซัดเขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยทำร้าย 2 ทหารเขมร

2 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก ซัด เขมรบิดเบือน กล่าวหาไทยทำร้าย 2 ทหารเขมรจนพิการและมีปัญหาทางจิต ยันมีหลักฐานชัดทำทุกอย่างภายใต้กติกาสากล จากกรณี สื่อกัมพูชาปั่นข่าวหนักโจมตีกล่าวหาไทย อ้างว่าปฏิบัติโหดกับ 2 ทหารกัมพูชาที่ถูกส่งกลับ จนพิการและมีปัญหาทางจิต พร้อมจะยื่นเรื่องถึงยูเอ็นนั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 11.08 น. วันที่ 2 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีที่ทหารไทยจับกุม และควบคุมตัว ทหารกัมพูชา ภายหลังจากข้อตกลงหยุดยิง โดยกล่าวหาว่าไทยทำร้ายร่างกายอย่างไม่เป็นธรรมทำก่อนส่งกลับนั้น เป็นเพียงคำกล่าวหา บิดเบือนจากฝ่ายกัมพูชา และการหยุดยิงแบบฉับพลัน แต่สถานการณ์ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธต่อกัน ยังไม่สิ้นสุดลงอย่างแท้จริงตามกฎหมายสากล กระบวนการฝ่ายทหารในการควบคุมตัวไว้ก่อน จึงยังสามารถทำได้ตามอนุสัญญาเจนีวา พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในส่วนของกองทัพบก มีแผนและพร้อมที่จะเชิญองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ICRC มาดูความเป็นอยู่ของเชลยศึกที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งอยู่ในกรอบการดำเนินการตามขั้นตอนของอนุสัญญาเจนีวาอย่างสมบูรณ์ และชัดเจน หากกังวลเรื่องความเป็นอยู่ เพราะรู้เท่าทันว่าฝ่ายกัมพูชาจะนำเรื่องนี้ไปบิดเบือนทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายทหารไทย ทางผู้แทน UNHCR และ ICRC จึงสามารถขอเข้ามาดูได้ […]