ข้อโต้แย้ง The Last Train from Hiroshima บันทึกผู้รอดชีวิตระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้ง

19 สิงหาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ไม่กี่เดือนหลังจาก The Last Train from Hiroshima หนังสือย้อนรอยชีวิตเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิวางจำหน่ายในเดือนมกราคม 2010 ผลงานของนักเขียน ชาร์ลส์ เปเยกริโน ก็ถูกถอดออกจากร้านหนังสือทั่วสหรัฐอเมริกา ในข้อหาบิดเบือนประวัติศาสตร์

The Last Train from Hiroshima เล่าถึงชีวิตของผู้คนในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ หลังบ้านเมืองถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เมื่อในวันที่ 6 และ 9 สิงหาคมปี 1945


หนังสือเน้นไปที่เรื่องราวน่าเหลือเชื่อของ ทสึโตมุ ยามากุจิ เหยื่อจากระเบิดนิวเคลียร์เพียงรายเดียวที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้การรับรองอย่างเป็นทางการ ในฐานะผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทั้งในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ

ทสึโตมุ ยามากุจิ

ผู้รอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้ง

ทสึโตมุ ยามากุจิ เป็นชาวเมืองนางาซากิ ทำงานเป็นพนักงานของบริษัท Mitsubishi Heavy Industries ในเมืองนางาซากิ


ช่วงฤดูร้อนของปี 1945 เขาได้รับมอบหมายให้เดินทางมาทำงานยังเมืองฮิโรชิมะเป็นเวลา 3 เดือน และเตรียมจะเดินทางกลับในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 แต่เนื่องจากลืมหมายสำคัญติดตัวมาด้วย ทสึโตมุ ยามากุจิ จึงต้องเดินทางกลับไปที่ทำงานอีกครั้ง

ในเวลา 8.15 น. ทสึโตมุ ยามากุจิกำลังเดินอยู่ที่บริเวณท่าเรือ ห่างจากจุดทิ้งระเบิดประมาณ 3 กิโลเมตร เขาได้เห็นเครื่องบินอเมริกันทิ้งระเบิดลงมาพร้อมกับร่มชูชีพด้วยตาตัวเอง จากนั้นไม่นานก็เกิดแสงสว่างไปทั่วท้องฟ้า ร่างเขาถูกผลักจากแรงระเบิด ตาของเขาบอดไปชั่วขณะ เยื่อแก้วหูฉีกขาด ร่างกายท่อนบนซีกซ้ายกลายเป็นแผลไหม้จากกัมมันตภาพรังสี

เมื่อได้สติอีกครั้ง เขาได้ออกตามหาเพื่อนร่วมงานที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ พวกเขาพากันไปพักค้างคืนที่ศูนย์หลบภัยการโจมตีทางอากาศของเมืองฮิโรชิมะ และเดินทางออกจากเมืองฮิโรชิมะด้วยรถไฟในเช้าวันถัดมา จุดหมายปลายทางคือบริษัท Mitsubishi Heavy Industries ในเมืองนางาซากิ

แม้จะได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ทสึโตมุ ยามากุจิ ก็สามารถกลับไปรายงานตัวที่ทำงานในวันที่ 9 สิงหาคม 1945

ระหว่างเวลา 11.00 น. ทสึโตมุ ยามากุจิ กำลังเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองฮิโรชิมะ ให้กับผู้บังคับบัญชาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่ 2 ถูกทิ้งลงในเมืองนางาซากิ

แม้ที่ทำงานจะอยู่ห่างจากจุดทิ้งระเบิดประมาณ 3 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน แต่ ทสึโตมุ ยามากุจิ ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักจากการระเบิดครั้งนี้ แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มีไข้สูง ซึ่งเป็นอาการของเหยื่อที่ได้รับกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดนิวเคลียร์

ชาร์ลส์ เปเยกริโน ผู้เขียนหนังสือ The Last Train from Hiroshima ประเมินว่า มีผู้โดยสารรถไฟเดินทางจากฮิโรชิมะไปยังเมืองนางาซากิประมาณ 300 คน และคาดว่า 90% จะเสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดที่เมืองนางาซากิ จึงเป็นไปได้ว่าจะมีผู้รอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ 2 ครั้งอยู่ประมาณ 30 ราย โดย ทสึโตมุ ยามากุจิ คือหนึ่งในผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ในเหตุการณ์ครั้งนั้น

แต่เดิม ทสึโตมุ ยามากุจิ ไม่เคยเปิดเผยเรื่องราวของการรอดชีวิตจากระเบิดนิวเคลียร์ถึง 2 ครั้งให้เป็นที่รับรู้ กระทั่งบั้นปลายชีวิต ทสึโตมุ ยามากุจิ ได้นำการรอดชีวิตของตนเผยแพร่สู่สาธารณะ ผ่านทางการตีพิมพ์หนังสือและการเดินทางไปเสวนาตามที่ต่างๆ เพื่อรณรงค์ให้สังคมเห็นถึงภัยจากอาวุธนิวเคลียร์

การบิดเบือนประวัติศาสตร์และข้อมูลเท็จ

เรื่องราวของ ทสึโตมุ ยามากุจิ และเหยื่ออีกหลาย ๆ คนในหนังสือ The Last Train from Hiroshima ทำให้ผลงานของ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์หลายสำนัก

แต่หลังจากนั้นไม่นาน The Last Train from Hiroshima ก็ถูกกระแสตีกลับ เมื่อมีการเปิดโปงว่าข้อมูลหลายอย่างไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

หนึ่งในนั้นคือคำกล่าวอ้างของ โจเซฟ ฟูโอโก ผู้เสียชีวิตในปี 2008 ที่อ้างว่าตนเองได้รับการสลับตัวในนาทีสุดท้าย ให้มาเป็นนักบินที่ 3 (Flight Engineer) ของเครื่องบินที่ทำหน้าที่ถ่ายภาพการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมะ

อย่างไรก็ดี อดีตสมาชิกของฝูงบิน 509th Composite Group ในภารกิจการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิ ต่างออกมาปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว โดยไม่พบว่ามีนักบินที่ชื่อ โจเซฟ ฟูโอโก ประจำการในฝูงบิน 509th Composite Group แต่อย่างใด

ฝูงบิน 509th Composite Group

ชาร์ลส์ เปเยกริโน ยังถูกตั้งคำถามเรื่องวุฒิการศึกษา หลังอ้างว่าได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อปี 1982 ก่อนจะถูกปลดในภายหลัง ซึ่ง ชาร์ลส์ เปเยกริโน ชี้แจงผ่านทางเว็บไซต์ส่วนตัวว่า สาเหตุการปลดวุฒิการศึกษา เพราะเขาเคยแสดงความไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีวิวัฒนาการ (Evolutionary Theory) และได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตคืนอีกครั้งในปี 1997 แต่การสอบสวนโดยมหาวิทยาลัยวิกตอเรียในปี 2010 ไม่พบว่า ชาร์ลส์ เปเยกริโน เคยได้รับวุฒิดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ยังถูกตั้งคำถามเรื่องการเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งศูนย์การศึกษาวิทยาศาสตร์อวกาศ Challenger Center อีกด้วย

เรื่องอื้อฉาวของ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ส่งผลให้สำนักพิมพ์ Henry Holt and Company ประกาศยุติการตีพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือ The Last Train from Hiroshima ในเดือนพฤษภาคม 2010

To Hell and Back

กระทั่งในปี 2015 ชาร์ลส์ เปเยกริโน ได้นำเรื่องราวของเหยื่อระเบิดนิวเคลียร์กลับมาถ่ายทอดอีกครั้งในหนังสือเล่มใหม่ที่ชื่อว่า To Hell and Back: The Last Train From Hiroshima

ในเล่มนี้ ชาร์ลส์ เปเยกริโน ได้ทำการลบเนื้อหาที่เป็นข้อถกเถียงจากฉบับเดิม และเพิ่มเติมข้อมูลของเหยื่อรายอื่น ๆ เพื่อให้เรื่องราวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

The Last Train to Nagasaki

ชาร์ลส์ เปเยกริโน เคยเปิดใจว่า แต่เดิมเขาตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า The Last Train to Nagasaki เพื่อเน้นความสำคัญของเหยื่อที่เมืองนางาซากิให้เป็นที่รับรู้เทียบเท่ากับเมืองฮิโรชิมะ แต่ปรากฏว่าไม่มีใครในสำนักพิมพ์รู้ว่านางาซากิหมายถึงอะไร สุดท้ายหนังสือจึงถูกตั้งชื่อเป็น The Last Train from Hiroshima ในที่สุด

แผนการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์

เมื่อต้นปี 2023 เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังชาวแคนาดา แสดงความสนใจที่จะนำ To Hell and Back: The Last Train From Hiroshima มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยมีแผนที่จะออกฉายก่อนภาพยนตร์ Avatar 4 ซึ่งมีกำหนดฉายในปี 2029 นี้

เจมส์ คาเมรอน และ ทสึโตมุ ยามากุจิ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.reuters.com/article/us-book-hiroshima-idUKTRE6220K720100303
https://historynewsnetwork.org/article/123636
https://apjjf.org/2015/13/26/Charles-Pellegrino/4336.html
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Last_Train_from_Hiroshima
https://en.wikipedia.org/wiki/Tsutomu_Yamaguchi
https://collider.com/james-cameron-directing-hiroshima-movie/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]