ชัวร์ก่อนแชร์ : ตั้ง อ.กระแสสินธุ์ เป็นจังหวัดที่ 78 ของไทย จริงหรือ ?

11 กรกฎาคม 2566


🎯 ตามที่มีการแชร์ข้อความ จัดตั้ง อ.กระแสสินธุ์ เป็นจังหวัดที่ 78 ของไทย จริงหรือ ?

 📌 บทสรุป :  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ


  • จ.สงขลา ไม่มีแนวคิดจัดตั้งจ.กระแสสินธุ์แต่อย่างใด 
  • อ.กระแสสินธุ์มีพื้นที่ขนาดเล็ก และ รายได้เฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์จัดตั้งเป็นจังหวัด

 👉 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า เว็บไซต์ข่าวจริงประเทศไทย ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่จริงแต่อย่างใด ข้อมูลชุดนี้ เริ่มแพร่กระจายในช่วง เดือนกรกฎาคม 2562 ในกลุ่มฟซบุ๊ก “คนใต้ใจเต็ม” และกลับมาส่งต่อกันอีกครั้งใน เดือน กรกฎาคม 2566

👉  ศูนย์ประสานข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย  จ.สงขลา ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. พื้นที่ จ.สงขลา ไม่ปรากฏ ว่ามีแนวความคิดการจัดตั้งจังหวัดกระแสสินธุ์แต่อย่างใด โดยในห้วงที่ผ่านมามีปรากฏแนวความคิดการจัดตั้งจังหวัดนาทวี เท่านั้น
2. อ.กระแสสินธุ์ ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดตั้งเป็นจังหวัดได้ เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดเล็กและรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในพื้นที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ
3. ปัจจุบัน พื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ กำลังดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเชื่อมระหว่าง อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา กับ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เพื่อประโยชน์ทางการคมนาคมและเศรษฐกิจ 

👉 ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งจังหวัดใหม่มีการส่งต่อกันมาตลอด จากฐานข้อมูล ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พบว่า มีการแชร์ข้อมูลที่คล้ายกัน ตั้งแต่ เดือน มีนาคม 2561 เกี่ยวกับการตั้งจังหวัดใหม่ 7 จังหวัด รวมเป็น 83 จังหวัด

👉 จนถึงปัจจุบัน (กรกฎาคม 2566) ยังมีประชาชนเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

👉 สำหรับกรณีนี้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้ตรวจสอบกับ กรมการปกครอง ยืนยันว่า ❌ ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌

👉 การจัดตั้งจังหวัดใหม่ในประเทศไทยนั้น ต้องตรงกับหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี  และมีกระบวนการหลายขั้นตอน ทั้ง การเสนอเรื่องไปยังจังหวัด จากนั้นต้องมีการตั้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อทำแบบสอบถามไปยังประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการต่าง ๆ ว่าเห็นชอบหรือไม่ หากส่วนใหญ่เห็นด้วยถือว่าผ่านเกณฑ์ ทางกระทรวงมหาดไทยจะเสนอต่อที่ประชุม ครม.  เมื่อ ครม.พิจารณาเห็นชอบก็ต้องส่งเรื่องเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดต่อไป

👉 สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจังหวัดใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี 8 ธันวาคม 2524 มี ดังนี้ 

  1. เนื้อที่และสภาพภูมิศาสตร์ จังหวัดที่จะแบ่งแยกควรมีเนื้อที่ประมาณ 10,000 ตร.ก.ม.ขึ้นไป และเมื่อแยกไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่แล้วจังหวัดเดิมควรมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 5,000 ตร.ก.ม. จังหวัดตั้งใหม่ควรมีเนื้อที่ 5,000 ตร.ก.ม.ขึ้นไป
  2. จำนวนอำเภอและกิ่งอำเภอในเขตการปกครอง จังหวัดที่จะแบ่งแยกควรมีอำเภอในเขตการปกครองจำนวนไม่น้อยกว่า 12 อำเภอ และกิ่งอำเภอ และเมื่อแยกไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่แล้ว จังหวัดเดิมควรมีอำเภอและกิ่งอำเภอในเขตการปกครองไม่น้อยกว่า 6 อำเภอและกิ่งอำเภอ ส่วนจังหวัดที่ตั้งใหม่ควรมีอำเภอและกิ่งอำเภอไม่น้อยกว่า 6 อำเภอและกิ่งอำเภอ
  3. จำนวนประชากร จังหวัดที่จะแบ่งแยกควรมีจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า 600,000 คน และเมื่อแยกไปแล้ว จังหวัดเดิมควรมีจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า 300,000 คน จังหวัดตั้งใหม่ควรมีประชากรไม่น้อยกว่า 300,000 คน
  4. ลักษณะพิเศษของจังหวัด
  5. ผลดีในการให้บริการประชาชน
  6. ปัจจัยเกี่ยวกับสถานที่ราชการที่มีอยู่แล้วและความพร้อมในด้านอื่น
  7. ปัจจัยเกี่ยวกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่
  8. ความคิดเห็นของประชาชนและจังหวัด
  9. รายได้ของจังหวัดเดิม เช่น ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีสรรพากร เป็นต้น มีจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000,000 บาท และเมื่อแยกไปจัดตั้งจังหวัดใหม่แล้วจังหวัดเดิมควรมีรายได้คงเหลือไม่น้อยกว่า 2,500,000 บาท ส่วนรายได้ของจังหวัดใหม่ก็ควรมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2,500,000 บาทเช่นกัน
  10. หลักเกณฑ์อื่น ๆ เช่น เหตุผลทางประวัติศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรมของท้องถิ่นและนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น

    ❌ดังนั้นข้อความที่แชร์กันนี้ ไม่เป็นความจริง งดส่งต่อข้อมูลที่สร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง❌

11 กรกฎาคม  2566
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์ และ เสาวภาคย์ รัตนพงศ์

อ้างอิง : หลักเกณฑ์การตั้งจังหวัดใหม่


ข้อความที่แชร์กันเรื่อง อ.กระแสสินธุ์เป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศไทย
จัดตั้งจังหวัด
’กระแสสินธ์ุ’
เป็นจังหวัดที่ 15 
ของภาคใต้ หรือจังหวัดที่ 78 ของประเทศ
จังหวัดกระแสสินธุ์ จังหวัดที่ 78
โครงการพัฒนาพื้นที่แหลมทองแห่งเมืองสองเล
ตลอดระยะเวลามากกว่า 60 ปี ที่พื้นที่ทางภาคใต้ ไม่ได้มีการเพิ่มจังหวัดใหม่ ในขณะที่ภูมิภาคอื่นมีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด ทำให้พื้นที่บางอำเภอในภาคใต้ ความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นอยู่ของประชากรในพื้นที่กลับถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ประชากรในพื้นที่ต้องอพยพถิ่นฐานไปทำมาหากินที่อื่นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความเป็นจริงพื้นที่ดังกล่าวเคยมีความรุ่งเรืองมาก่อนในอดีต และมีศักยภาพพอที่จะพัฒนาให้กลับมาเจริญรุ่งเรือง และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยต่อไป จึงมีแผนพัฒนาพื้นที่บางอำเภอในภาคใต้ดังนี้


1. รวบรวมพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณของทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย จำนวน 8 อำเภอ เช่น  อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธ์ุ อำเภอระโนด อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ และ อำเภอชะอวด (เหตุผลที่ต้องมีอำเภอชะอวดเพราะต้องการทางรถไฟ เพื่อพัฒนาเป็นสถานีชุมทางรถไฟของจังหวัด) จาก 8 อำเภอ ซึ่งมีพื้นที่รวมกันประมาณ 3,188 ตารางกิโลเมตร มีประชากรในพื้นที่ ประมาณ 509,147คน (ขนาดใกล้เคียงกับ จังหวัดพัทลุง พื้นที่ 3,425 ตร กม.ประชากร 524.857 คน) การรวม 8 อำเภอเพื่อจัดตั้งเป็น จังหวัดใหม่ เป็นจังหวัดที่ 15 ของภาคใต้ จังหวัดที่ 78 ของประเทศไทย เป็นจังหวัดแรกที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 10 และขอพระบรมราชานุญาต ขอชื่อพระราชทาน จากพระองค์ท่าน

2. ทำการเวณคืนที่ดินเพื่อตัดถนน ขนาด 12 เลน ในอนาคต แต่เริ่มสร้างก่อน 4 เลน เชื่อมระหว่าง อำเภอควนขนุน จากสะพานลอยฟ้า ทะเลน้อย พุ่งตรงผ่านทุ่งนาอำเภอระโนดไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปเชื่อมยังสายเดิมเลียบทะเลอ่าวไทย ตรงบริเวณวัดปากระวะ หรือใกล้เคียง ซึ่งเป็นจุดระหว่างกลางระหว่างอำเภอระโนดกับอำเภอหัวไทร

3. ทำการเวรคืนที่ดิน เพื่อสร้างถนน 12 เลนในอนาคต โดยสร้างก่อน 4 เลน เชื่อมระหว่างอำเภอระโนด ถึง อำเภอเชียรใหญ่ เพื่อเชื่อมกับสายเก่า สงขลา นครศรีธรรมราช บริเวณตัวอำเภอเชียรใหญ่โดยผ่านทุ่งนา อำเภอระโนด อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ และ ทำเส้นทางแยกเพื่อเช่ือมต่อไปยังชุมชน อำเภอชะอวด โดยตัดผ่านทุ่งนา อำเภอชะอวด เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟ ที่จะพัฒนาเป็นสถานีชุมทางรถไฟของจังหวัด

4. จัดตั้งมหาวิทยาลัยประมงแห่งชาติ ซึ่งสามารถเป็นมหาวิทยาลัยประมงหลักทั้งทางนำ้จืดและนำ้เค็ม เนื่องจากเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพื้นที่จำนวนมากติดทั้งทะเลนำ้จืดและ ทะเลนำ้เค็ม จึงต้องการพัฒนาคนในพื้นที่ให้มีความชำนาญเฉพาะทาง ในด้านการประมงทั้งนำ้จืดและนำ้เค็ม และเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางประมง เพื่อรองรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์นำ้แห่งชาติ เพื่อการส่งออกไปยังจังหวัดอื่นๆและต่างประเทศ

5. ขุดลอกทะเลสาปสงขลา และคลองสำคัญในพื้นที่ เพื่อสานต่อโครงการพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้มีการขุดคลองระบายนำ้ขนาดใหญ่พร้อมสร้างประตูระบายนำ้ไว้ที่ อำเภอหัวไทร ปากพนัง และ เพื่อใช้ทะเลสาปสงขลาเป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ในขณะเดียวกัน ผลประโยชน์ที่ได้จากการขุดลอกทะเลสาปคือ ดินและทรายนำ้จืดจำนวนมหาศาล( ดินจากท้องทะเลสาปเป็นดินปนทราย มีความหนาแน่นสูง เหมาะในการใช้เพื่อถมที่ได้เป็นอย่างดี) ซึ่งสามารถเอาดินที่ขุดขึ้นมาใช้เพื่อถมพื้นที่ก่อสร้างสนามบิน ศาลากลางจังหวัด และหน่วยงานราชการอื่น ซึ่งช่วยให้ประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างได้เป็นอย่างมาก 

6. ปรับปรุงสถานีรถไฟ อำเภอชะอวด เป็นสถานีชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ ประจำจังหวัด เพื่อการขนส่งสินค้า และ รองรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่จะมีในอนาคต

7. วางผังเมืองใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นเมืองยุคใหม่จริงๆ เนื่องจากพื้นที่เดิมส่วนใหญ่เป็นไร่นา ง่ายที่จะแบ่งโซนอย่างชัดเจน ซึ่งมีการจัดพื้นที่ในส่วนงานราชการ งานสาธารณสุข งานชลประทาน พื้นที่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การศึกษา การขนส่ง และ ส่วนที่อยู่อาศัยใหม่ สำหรับพื้นที่ดั้งเดิมให้อนุรักษ์ไว้เป็นที่ท่องเที่ยวเพื่อชมความเป็นอยู่แบบบ้านเมืองยุดเดิมๆ ที่ส่วนใหญ่ใช้การคมนาคมทางนำ้

8. ในอนาคต สร้างสนามบินภายในประเทศ บริเวณตำบลตะเครียะ หรือ ใกล้เคียง บริเวณริมทะเลสาบสงขลา เพื่อความสะดวกในการบิน ตามมาตรฐานสนามบินทั่วโลกที่มักสร้างริมทะเล สนามบินภายในประเทศแห่งนี้ใช้เพื่อรองรับผู้โดยสารของคนในพื้นที่จังหวัดที่จัดตั้งใหม่และจังหวัดพัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง เพราะจุดก่อสร้างสนามบินนี้อยู่ระหว่างกลางของสนามบินหาดใหญ่และนครศรีธรรมราช

เหตุผลและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในการแบ่งพื้นที่ของ 8 อำเภอเพื่อจัดตั้งเป็นจังหวัดใหม่ เป็นจังหวัดที่ 15 ของภาคใต้

1.พื้นที่ดังกล่าวเป็นชัยภูมิที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่นๆคือพื้นที่ดังกล่าวติดทะเลทั้งสองด้านคือติดทะเลนำ้จืดขนาดใหญ่ และคิดทะเลนำ้เค็มฝั่งอ่าวไทยที่มีชายหาดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย จากหลายๆรัฐบาลที่ผ่านมาอาจให้ความสำคัญกับพื้นที่ดังกล่าวน้อยทั้งๆที่จากภูมิประเทศที่แตกต่าง น่าจะใช้ความแตกต่างในชัยภูมิ เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจได้

2.พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเกษตรกรรมง่ายในการเวรคืน ง่ายต่อการวางผังเมือง ง่ายในการพัฒนา และ สามารถพัฒนาให้เป็นจังหวัดอย่างด้านการวางผังเมืองและโครงสร้างสาธารณูปโภคที่ดี ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดินในทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี 

3.พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากตัวจังหวัด ห่างไกลจากความเจริญรุ่งเรือง บ้านเมืองพัฒนาไปอย่างมากแต่พื้นที่ดังกล่าวพัฒนาน้อยลง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพไปทำมาหากินที่อื่น เหลือแต่พื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม ทั้งที่บางอำเภอในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อก่อนเคยเจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งทำรายได้ให้กับจังหวัด แต่ปัจจุบันจนภาวะเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวกลับย่ำแย่ลง ปีแล้วปีเล่า ไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนเดิมอีกเลย

4.พื้นที่ดังกล่าวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือมีทะเลสาปนำ้จืด และทะเลนำ้เค็ม ขบาบทั้งสองด้าน จึงเหมาะที่จะพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว สามารถจัดกิจกรรม หรือ กีฬาทางนำ้ได้หลายอย่าง มีเกาะแก่งที่สวยงามในทะเลสาป มีชายหาดทรายขาวที่สวยงามและยาวกว่า 100 กิโลเมตรที่สามารถพัฒนาได้ ปัจจุบันไม่มีคนมาท่องเที่ยวเพราะการเดินทางที่ไกลมากร่วม 200 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจากสนามบินจากตัวจังหวัด 

5.พื้นที่ดังกล่าวราคาที่ดินยังตำ่มากเหมาะที่จะพัฒนา และ ใช้เงินในการเวรคืนต่ำ คุ้มค่ากับการลงทุนของรัฐที่สามารถเพิ่มมูลค่าเพิ่มของที่ดินให้สูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้เกิดแรงกระตุ้นการลงทุน เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และเป็นการดึงดูดให้ประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง หรือที่อื่นย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่จังหวัดใหม่นี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายของประชากร และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้เกิดขึ้นอีกอีกมาย
ข้อความที่แชร์กันเรื่อง “ประกาศ เช้านี้ ชาวไทยตื่นขึ้นมา มี 83 จังหวัด แล้วจ้า!
    จังหวัดใหม่ มาอีก 7 จังหวัด ทราบหรือยังครับ เรามีจังหวัด รวมทั้งหมด 83 จังหวัด ในประเทศไทยแล้ว  เพราะมีการจัดตั้งจังหวัดใหม่อีก 7 จังหวัด เพิ่มผู้บริหารอีก 7 คน และตำแหน่งต่าง ๆ ตามหน่วยงาน
1. จังหวัดบัวใหญ่ แยกมาจาก นครราชสีมา มี 8 อำเภอ 
อ.บัวใหญ่
อ.คง
อ.ประทาย
อ.โนนแดง
อ.บ้านเหลื่อม 
อ.แก้งสนามนาง
อ.สีดา  
อ.บัวลาย
2. จังหวัดเดชอุดม แยกมาจากอุบลราชธานี มี 5 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 
อ.เดชอุดม
อ.บุณฑริก
อ.นาจะหลวย
อ.น้ำยืน
อ.ทุ่งศรีอุดม
กิ่ง อ.น้ำขุ่น 
กิ่ง อ.นาเยีย
 3. จังหวัดกันทรลักษณ์ แยกออกมาจากศรีสะเกษ มี 6 อำเภอ 3 กิ่งอำเภอ 
อ.กันทรลักษ์
อ.ขุนหาญ
อ.เบญจลักษ์
อ.ศรีรัตนะ
อ.ไพรบึง
อ.โนนคูณ
กิ่ง อ.เขาพระวิหาร
กิ่ง อ.ศรีเมืองทอง 
กิ่ง อ.ทับทิมสยาม
4. จังหวัดชุมแพ แยกมาจาก ขอนแก่น มี 6 อำเภอ 
อ.ชุมแพ
อ.ภูเวียง
อ.สีชมพู
อ.หนองนาคำ
อ.ภูผาม่าน และ 
อ.ภูเขียว ของ    จ.ชัยภูมิ 
มาจัดตั้งเป็น จ.ชุมแพ
5. จังหวัดนางรอง แยกมาจาก บุรีรัมย์  มี 10 อำเภอ 
อ.นางรอง
อ.ชำนิ
อ.หนองหงส์
อ.บ้านกรวด
อ.เฉลิมพระเกียรติ
อ.โนนสุวรรณ
อ.ปะคำ
อ.หนองกี่ 
อ.ละหานทราย 
อ.โนนดินแดง
6. จังหวัด นาทวี แยกมาจาก สงขลา มี 8 อำเภอ
อ.นาทวี
อ.จะนะ
อ.เทพา
อ.สะบ้าย้อย
อ.คลองหอยโข่ง
อ.สะเดา
อ.นาหม่อม
อ.หาดใหญ่
7. จังหวัดท่าศาลา แยกจากนครศรีธรรมราช มี 6  อำเภอ
อ. ท่าศาลา
อ. พรหมคีรี
อ. นพพิตำ
อ. สิชล
อ. ขนอม
อ. ดอนสัก  (สุราษฎร์ธานี) 
จำกันไว้ดี ๆ คงเริ่มเปลี่ยนแผนที่ เปลี่ยนชื่อป้ายกันเร็ว ๆ นี้ “

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย