ชัวร์ก่อนแชร์ : ตั้ง อ.กระแสสินธุ์ เป็นจังหวัดที่ 78 ของไทย จริงหรือ ?

11 กรกฎาคม 2566


🎯 ตามที่มีการแชร์ข้อความ จัดตั้ง อ.กระแสสินธุ์ เป็นจังหวัดที่ 78 ของไทย จริงหรือ ?

 📌 บทสรุป :  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ


  • จ.สงขลา ไม่มีแนวคิดจัดตั้งจ.กระแสสินธุ์แต่อย่างใด 
  • อ.กระแสสินธุ์มีพื้นที่ขนาดเล็ก และ รายได้เฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์จัดตั้งเป็นจังหวัด

 👉 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า เว็บไซต์ข่าวจริงประเทศไทย ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่จริงแต่อย่างใด ข้อมูลชุดนี้ เริ่มแพร่กระจายในช่วง เดือนกรกฎาคม 2562 ในกลุ่มฟซบุ๊ก “คนใต้ใจเต็ม” และกลับมาส่งต่อกันอีกครั้งใน เดือน กรกฎาคม 2566

👉  ศูนย์ประสานข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย  จ.สงขลา ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1. พื้นที่ จ.สงขลา ไม่ปรากฏ ว่ามีแนวความคิดการจัดตั้งจังหวัดกระแสสินธุ์แต่อย่างใด โดยในห้วงที่ผ่านมามีปรากฏแนวความคิดการจัดตั้งจังหวัดนาทวี เท่านั้น
2. อ.กระแสสินธุ์ ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดตั้งเป็นจังหวัดได้ เนื่องจากมีพื้นที่ขนาดเล็กและรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในพื้นที่อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ
3. ปัจจุบัน พื้นที่ อ.กระแสสินธุ์ กำลังดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเชื่อมระหว่าง อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา กับ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เพื่อประโยชน์ทางการคมนาคมและเศรษฐกิจ 

👉 ข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งจังหวัดใหม่มีการส่งต่อกันมาตลอด จากฐานข้อมูล ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ พบว่า มีการแชร์ข้อมูลที่คล้ายกัน ตั้งแต่ เดือน มีนาคม 2561 เกี่ยวกับการตั้งจังหวัดใหม่ 7 จังหวัด รวมเป็น 83 จังหวัด

👉 จนถึงปัจจุบัน (กรกฎาคม 2566) ยังมีประชาชนเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

👉 สำหรับกรณีนี้ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้ตรวจสอบกับ กรมการปกครอง ยืนยันว่า ❌ ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ ❌

👉 การจัดตั้งจังหวัดใหม่ในประเทศไทยนั้น ต้องตรงกับหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี  และมีกระบวนการหลายขั้นตอน ทั้ง การเสนอเรื่องไปยังจังหวัด จากนั้นต้องมีการตั้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อทำแบบสอบถามไปยังประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการต่าง ๆ ว่าเห็นชอบหรือไม่ หากส่วนใหญ่เห็นด้วยถือว่าผ่านเกณฑ์ ทางกระทรวงมหาดไทยจะเสนอต่อที่ประชุม ครม.  เมื่อ ครม.พิจารณาเห็นชอบก็ต้องส่งเรื่องเข้ามาสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดต่อไป

👉 สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจังหวัดใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี 8 ธันวาคม 2524 มี ดังนี้ 

  1. เนื้อที่และสภาพภูมิศาสตร์ จังหวัดที่จะแบ่งแยกควรมีเนื้อที่ประมาณ 10,000 ตร.ก.ม.ขึ้นไป และเมื่อแยกไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่แล้วจังหวัดเดิมควรมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 5,000 ตร.ก.ม. จังหวัดตั้งใหม่ควรมีเนื้อที่ 5,000 ตร.ก.ม.ขึ้นไป
  2. จำนวนอำเภอและกิ่งอำเภอในเขตการปกครอง จังหวัดที่จะแบ่งแยกควรมีอำเภอในเขตการปกครองจำนวนไม่น้อยกว่า 12 อำเภอ และกิ่งอำเภอ และเมื่อแยกไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่แล้ว จังหวัดเดิมควรมีอำเภอและกิ่งอำเภอในเขตการปกครองไม่น้อยกว่า 6 อำเภอและกิ่งอำเภอ ส่วนจังหวัดที่ตั้งใหม่ควรมีอำเภอและกิ่งอำเภอไม่น้อยกว่า 6 อำเภอและกิ่งอำเภอ
  3. จำนวนประชากร จังหวัดที่จะแบ่งแยกควรมีจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า 600,000 คน และเมื่อแยกไปแล้ว จังหวัดเดิมควรมีจำนวนประชากรไม่น้อยกว่า 300,000 คน จังหวัดตั้งใหม่ควรมีประชากรไม่น้อยกว่า 300,000 คน
  4. ลักษณะพิเศษของจังหวัด
  5. ผลดีในการให้บริการประชาชน
  6. ปัจจัยเกี่ยวกับสถานที่ราชการที่มีอยู่แล้วและความพร้อมในด้านอื่น
  7. ปัจจัยเกี่ยวกับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่
  8. ความคิดเห็นของประชาชนและจังหวัด
  9. รายได้ของจังหวัดเดิม เช่น ภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีสรรพากร เป็นต้น มีจำนวนไม่น้อยกว่า 5,000,000 บาท และเมื่อแยกไปจัดตั้งจังหวัดใหม่แล้วจังหวัดเดิมควรมีรายได้คงเหลือไม่น้อยกว่า 2,500,000 บาท ส่วนรายได้ของจังหวัดใหม่ก็ควรมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2,500,000 บาทเช่นกัน
  10. หลักเกณฑ์อื่น ๆ เช่น เหตุผลทางประวัติศาสตร์ การเมือง และวัฒนธรรมของท้องถิ่นและนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น

    ❌ดังนั้นข้อความที่แชร์กันนี้ ไม่เป็นความจริง งดส่งต่อข้อมูลที่สร้างความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง❌

11 กรกฎาคม  2566
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์ และ เสาวภาคย์ รัตนพงศ์

อ้างอิง : หลักเกณฑ์การตั้งจังหวัดใหม่


ข้อความที่แชร์กันเรื่อง อ.กระแสสินธุ์เป็นจังหวัดที่ 78 ของประเทศไทย
จัดตั้งจังหวัด
’กระแสสินธ์ุ’
เป็นจังหวัดที่ 15 
ของภาคใต้ หรือจังหวัดที่ 78 ของประเทศ
จังหวัดกระแสสินธุ์ จังหวัดที่ 78
โครงการพัฒนาพื้นที่แหลมทองแห่งเมืองสองเล
ตลอดระยะเวลามากกว่า 60 ปี ที่พื้นที่ทางภาคใต้ ไม่ได้มีการเพิ่มจังหวัดใหม่ ในขณะที่ภูมิภาคอื่นมีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด ทำให้พื้นที่บางอำเภอในภาคใต้ ความเจริญรุ่งเรือง และความเป็นอยู่ของประชากรในพื้นที่กลับถดถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ประชากรในพื้นที่ต้องอพยพถิ่นฐานไปทำมาหากินที่อื่นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความเป็นจริงพื้นที่ดังกล่าวเคยมีความรุ่งเรืองมาก่อนในอดีต และมีศักยภาพพอที่จะพัฒนาให้กลับมาเจริญรุ่งเรือง และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยต่อไป จึงมีแผนพัฒนาพื้นที่บางอำเภอในภาคใต้ดังนี้


1. รวบรวมพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณของทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย จำนวน 8 อำเภอ เช่น  อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ อำเภอกระแสสินธ์ุ อำเภอระโนด อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่ และ อำเภอชะอวด (เหตุผลที่ต้องมีอำเภอชะอวดเพราะต้องการทางรถไฟ เพื่อพัฒนาเป็นสถานีชุมทางรถไฟของจังหวัด) จาก 8 อำเภอ ซึ่งมีพื้นที่รวมกันประมาณ 3,188 ตารางกิโลเมตร มีประชากรในพื้นที่ ประมาณ 509,147คน (ขนาดใกล้เคียงกับ จังหวัดพัทลุง พื้นที่ 3,425 ตร กม.ประชากร 524.857 คน) การรวม 8 อำเภอเพื่อจัดตั้งเป็น จังหวัดใหม่ เป็นจังหวัดที่ 15 ของภาคใต้ จังหวัดที่ 78 ของประเทศไทย เป็นจังหวัดแรกที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 10 และขอพระบรมราชานุญาต ขอชื่อพระราชทาน จากพระองค์ท่าน

2. ทำการเวณคืนที่ดินเพื่อตัดถนน ขนาด 12 เลน ในอนาคต แต่เริ่มสร้างก่อน 4 เลน เชื่อมระหว่าง อำเภอควนขนุน จากสะพานลอยฟ้า ทะเลน้อย พุ่งตรงผ่านทุ่งนาอำเภอระโนดไปทางทิศตะวันออกเพื่อไปเชื่อมยังสายเดิมเลียบทะเลอ่าวไทย ตรงบริเวณวัดปากระวะ หรือใกล้เคียง ซึ่งเป็นจุดระหว่างกลางระหว่างอำเภอระโนดกับอำเภอหัวไทร

3. ทำการเวรคืนที่ดิน เพื่อสร้างถนน 12 เลนในอนาคต โดยสร้างก่อน 4 เลน เชื่อมระหว่างอำเภอระโนด ถึง อำเภอเชียรใหญ่ เพื่อเชื่อมกับสายเก่า สงขลา นครศรีธรรมราช บริเวณตัวอำเภอเชียรใหญ่โดยผ่านทุ่งนา อำเภอระโนด อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ และ ทำเส้นทางแยกเพื่อเช่ือมต่อไปยังชุมชน อำเภอชะอวด โดยตัดผ่านทุ่งนา อำเภอชะอวด เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟ ที่จะพัฒนาเป็นสถานีชุมทางรถไฟของจังหวัด

4. จัดตั้งมหาวิทยาลัยประมงแห่งชาติ ซึ่งสามารถเป็นมหาวิทยาลัยประมงหลักทั้งทางนำ้จืดและนำ้เค็ม เนื่องจากเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพื้นที่จำนวนมากติดทั้งทะเลนำ้จืดและ ทะเลนำ้เค็ม จึงต้องการพัฒนาคนในพื้นที่ให้มีความชำนาญเฉพาะทาง ในด้านการประมงทั้งนำ้จืดและนำ้เค็ม และเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางประมง เพื่อรองรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์นำ้แห่งชาติ เพื่อการส่งออกไปยังจังหวัดอื่นๆและต่างประเทศ

5. ขุดลอกทะเลสาปสงขลา และคลองสำคัญในพื้นที่ เพื่อสานต่อโครงการพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้มีการขุดคลองระบายนำ้ขนาดใหญ่พร้อมสร้างประตูระบายนำ้ไว้ที่ อำเภอหัวไทร ปากพนัง และ เพื่อใช้ทะเลสาปสงขลาเป็นที่เพาะพันธุ์สัตว์น้ำและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ในขณะเดียวกัน ผลประโยชน์ที่ได้จากการขุดลอกทะเลสาปคือ ดินและทรายนำ้จืดจำนวนมหาศาล( ดินจากท้องทะเลสาปเป็นดินปนทราย มีความหนาแน่นสูง เหมาะในการใช้เพื่อถมที่ได้เป็นอย่างดี) ซึ่งสามารถเอาดินที่ขุดขึ้นมาใช้เพื่อถมพื้นที่ก่อสร้างสนามบิน ศาลากลางจังหวัด และหน่วยงานราชการอื่น ซึ่งช่วยให้ประหยัดงบประมาณในการก่อสร้างได้เป็นอย่างมาก 

6. ปรับปรุงสถานีรถไฟ อำเภอชะอวด เป็นสถานีชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ ประจำจังหวัด เพื่อการขนส่งสินค้า และ รองรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่จะมีในอนาคต

7. วางผังเมืองใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นเมืองยุคใหม่จริงๆ เนื่องจากพื้นที่เดิมส่วนใหญ่เป็นไร่นา ง่ายที่จะแบ่งโซนอย่างชัดเจน ซึ่งมีการจัดพื้นที่ในส่วนงานราชการ งานสาธารณสุข งานชลประทาน พื้นที่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การศึกษา การขนส่ง และ ส่วนที่อยู่อาศัยใหม่ สำหรับพื้นที่ดั้งเดิมให้อนุรักษ์ไว้เป็นที่ท่องเที่ยวเพื่อชมความเป็นอยู่แบบบ้านเมืองยุดเดิมๆ ที่ส่วนใหญ่ใช้การคมนาคมทางนำ้

8. ในอนาคต สร้างสนามบินภายในประเทศ บริเวณตำบลตะเครียะ หรือ ใกล้เคียง บริเวณริมทะเลสาบสงขลา เพื่อความสะดวกในการบิน ตามมาตรฐานสนามบินทั่วโลกที่มักสร้างริมทะเล สนามบินภายในประเทศแห่งนี้ใช้เพื่อรองรับผู้โดยสารของคนในพื้นที่จังหวัดที่จัดตั้งใหม่และจังหวัดพัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียง เพราะจุดก่อสร้างสนามบินนี้อยู่ระหว่างกลางของสนามบินหาดใหญ่และนครศรีธรรมราช

เหตุผลและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในการแบ่งพื้นที่ของ 8 อำเภอเพื่อจัดตั้งเป็นจังหวัดใหม่ เป็นจังหวัดที่ 15 ของภาคใต้

1.พื้นที่ดังกล่าวเป็นชัยภูมิที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่นๆคือพื้นที่ดังกล่าวติดทะเลทั้งสองด้านคือติดทะเลนำ้จืดขนาดใหญ่ และคิดทะเลนำ้เค็มฝั่งอ่าวไทยที่มีชายหาดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย จากหลายๆรัฐบาลที่ผ่านมาอาจให้ความสำคัญกับพื้นที่ดังกล่าวน้อยทั้งๆที่จากภูมิประเทศที่แตกต่าง น่าจะใช้ความแตกต่างในชัยภูมิ เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจได้

2.พื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นเกษตรกรรมง่ายในการเวรคืน ง่ายต่อการวางผังเมือง ง่ายในการพัฒนา และ สามารถพัฒนาให้เป็นจังหวัดอย่างด้านการวางผังเมืองและโครงสร้างสาธารณูปโภคที่ดี ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดินในทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี 

3.พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากตัวจังหวัด ห่างไกลจากความเจริญรุ่งเรือง บ้านเมืองพัฒนาไปอย่างมากแต่พื้นที่ดังกล่าวพัฒนาน้อยลง ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพไปทำมาหากินที่อื่น เหลือแต่พื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม ทั้งที่บางอำเภอในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อก่อนเคยเจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งทำรายได้ให้กับจังหวัด แต่ปัจจุบันจนภาวะเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวกลับย่ำแย่ลง ปีแล้วปีเล่า ไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาเจริญรุ่งเรืองเหมือนเดิมอีกเลย

4.พื้นที่ดังกล่าวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือมีทะเลสาปนำ้จืด และทะเลนำ้เค็ม ขบาบทั้งสองด้าน จึงเหมาะที่จะพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยว สามารถจัดกิจกรรม หรือ กีฬาทางนำ้ได้หลายอย่าง มีเกาะแก่งที่สวยงามในทะเลสาป มีชายหาดทรายขาวที่สวยงามและยาวกว่า 100 กิโลเมตรที่สามารถพัฒนาได้ ปัจจุบันไม่มีคนมาท่องเที่ยวเพราะการเดินทางที่ไกลมากร่วม 200 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจากสนามบินจากตัวจังหวัด 

5.พื้นที่ดังกล่าวราคาที่ดินยังตำ่มากเหมาะที่จะพัฒนา และ ใช้เงินในการเวรคืนต่ำ คุ้มค่ากับการลงทุนของรัฐที่สามารถเพิ่มมูลค่าเพิ่มของที่ดินให้สูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว ทำให้เกิดแรงกระตุ้นการลงทุน เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ และเป็นการดึงดูดให้ประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง หรือที่อื่นย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่จังหวัดใหม่นี้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายของประชากร และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆให้เกิดขึ้นอีกอีกมาย
ข้อความที่แชร์กันเรื่อง “ประกาศ เช้านี้ ชาวไทยตื่นขึ้นมา มี 83 จังหวัด แล้วจ้า!
    จังหวัดใหม่ มาอีก 7 จังหวัด ทราบหรือยังครับ เรามีจังหวัด รวมทั้งหมด 83 จังหวัด ในประเทศไทยแล้ว  เพราะมีการจัดตั้งจังหวัดใหม่อีก 7 จังหวัด เพิ่มผู้บริหารอีก 7 คน และตำแหน่งต่าง ๆ ตามหน่วยงาน
1. จังหวัดบัวใหญ่ แยกมาจาก นครราชสีมา มี 8 อำเภอ 
อ.บัวใหญ่
อ.คง
อ.ประทาย
อ.โนนแดง
อ.บ้านเหลื่อม 
อ.แก้งสนามนาง
อ.สีดา  
อ.บัวลาย
2. จังหวัดเดชอุดม แยกมาจากอุบลราชธานี มี 5 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 
อ.เดชอุดม
อ.บุณฑริก
อ.นาจะหลวย
อ.น้ำยืน
อ.ทุ่งศรีอุดม
กิ่ง อ.น้ำขุ่น 
กิ่ง อ.นาเยีย
 3. จังหวัดกันทรลักษณ์ แยกออกมาจากศรีสะเกษ มี 6 อำเภอ 3 กิ่งอำเภอ 
อ.กันทรลักษ์
อ.ขุนหาญ
อ.เบญจลักษ์
อ.ศรีรัตนะ
อ.ไพรบึง
อ.โนนคูณ
กิ่ง อ.เขาพระวิหาร
กิ่ง อ.ศรีเมืองทอง 
กิ่ง อ.ทับทิมสยาม
4. จังหวัดชุมแพ แยกมาจาก ขอนแก่น มี 6 อำเภอ 
อ.ชุมแพ
อ.ภูเวียง
อ.สีชมพู
อ.หนองนาคำ
อ.ภูผาม่าน และ 
อ.ภูเขียว ของ    จ.ชัยภูมิ 
มาจัดตั้งเป็น จ.ชุมแพ
5. จังหวัดนางรอง แยกมาจาก บุรีรัมย์  มี 10 อำเภอ 
อ.นางรอง
อ.ชำนิ
อ.หนองหงส์
อ.บ้านกรวด
อ.เฉลิมพระเกียรติ
อ.โนนสุวรรณ
อ.ปะคำ
อ.หนองกี่ 
อ.ละหานทราย 
อ.โนนดินแดง
6. จังหวัด นาทวี แยกมาจาก สงขลา มี 8 อำเภอ
อ.นาทวี
อ.จะนะ
อ.เทพา
อ.สะบ้าย้อย
อ.คลองหอยโข่ง
อ.สะเดา
อ.นาหม่อม
อ.หาดใหญ่
7. จังหวัดท่าศาลา แยกจากนครศรีธรรมราช มี 6  อำเภอ
อ. ท่าศาลา
อ. พรหมคีรี
อ. นพพิตำ
อ. สิชล
อ. ขนอม
อ. ดอนสัก  (สุราษฎร์ธานี) 
จำกันไว้ดี ๆ คงเริ่มเปลี่ยนแผนที่ เปลี่ยนชื่อป้ายกันเร็ว ๆ นี้ “

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]