ชัวร์ก่อนแชร์: Titanic อับปางเพราะอาถรรพ์ Unlucky Mummy จริงหรือ?

05 กรกฎาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

  1. ข้อมูลจากบัญชีสินค้าของเรือ Titanic ยืนยันว่าไม่มีการบรรทุกหีบศพมัมมี่ขึ้นเรือ Titanic แต่อย่างใด
  2. หีบศพ Unlucky Mummy ถูกเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ British Museum จนถึงปัจจุบัน

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :


การอับปางจากการเดินทางเพียงเที่ยวแรก ของเรือที่ได้ชื่อว่า “ไม่มีวันจม” ก่อให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดในหลายรูปแบบ เพื่อพยายามหาคำตอบที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุที่โด่งดังที่สุดในศตวรรษที่ 20

หนึ่งในตำนานที่ถูกเล่าขานมาอย่างยาวนาน อ้างว่า เรือ Titanic ได้บรรทุก Unlucky Mummy หรือมัมมี่แห่งความโชคร้ายไปกับการเดินทางครั้งนั้นด้วย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


“กำเนิดแห่งอาถรรพ์”

จุดเริ่มต้นของตำนาน Unlucky Mummy เล่าว่า เธอคือเจ้าหญิงอาเมนราผู้มีชีวิตอยู่เมื่อ 3,500 ปีที่แล้ว เมื่อเสียชีวิตลง ร่างของเธอถูกทำให้เป็นมัมมี่และบรรจุอยู่ในหีบศพที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ก่อนนำไปฝังยังสุสานที่อยู่ใต้นครลักซอร์ ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์

กระทั่งช่วงปลายทศวรรษที่ 1890’s มีสุภาพบุรุษชาวอังกฤษ 4 รายเดินทางไปร่วมขุดค้นวัตถุโบราณที่นครลักซอร์ และได้รับข้อเสนอการเป็นเจ้าของหีบศพของเจ้าหญิงอาเมนรา

ชายผู้ชนะการประมูลด้วยเงินหลายพันปอนด์ ได้นำหีบศพกลับไปยังโรงแรมของเขา หลายชั่วโมงต่อมา มีคนพบว่าเขากำลังเดินเข้าไปในทะเลทราย และไม่มีใครพบชายคนนั้นอีกเลย

วันต่อมา เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มสุภาพบุรุษทั้ง 4 ราย ถูกคนรับใช้ยิงอย่างไม่ตั้งใจ กระสุนที่แขนสร้างบาดแผลที่รุนแรงจนต้องตัดแขนทิ้ง

ส่วนชายอีก 2 คนที่เดินทางกลับอังกฤษ ก็พบกับโชคร้ายไม่แตกต่างกัน คนหนึ่งพบว่าธนาคารที่เขาฝากเงินเก็บทั้งชีวิตต้องล้มละลาย ส่วนอีกรายล้มป่วยจนต้องออกจากงาน และกลายเป็นพ่อค้าขายไม้ขีดไฟข้างถนน

หีบศพมัมมี่ถูกซื้อต่อโดยนักธุรกิจชาวอังกฤษอีกราย และนำกลับมายังประเทศอังกฤษได้สำเร็จ ก่อนจะพบว่าบ้านของเขาต้องประสบอุบัติเหตุไฟไหม้ และสมาชิกครอบครัว 3 รายต้องบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาจึงแก้ปัญหาด้วยการบริจาคมัมมี่ให้กับพิพิธภัณฑ์ British Museum

Unlucky Mummy

“เสียงสะอื้นออกมาจากหีบศพ”

ระหว่างการเคลื่อนย้ายหีบศพมัมมี่ไปยังพิพิธภัณฑ์ ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อรถบรรทุกที่ขนย้ายมัมมี่อยู่ ๆ ก็ถอยหลังโดยไม่มีสาเหตุและพุ่งชนประชาชนในบริเวณดังกล่าว ส่วนคนงาน 2 คนที่ขนย้ายหีบศพมัมมี่ขึ้นบันได ก็พบกับชะตากรรมที่ไม่ต่างกัน โดยคนหนึ่งหกล้มขาหัก ส่วนอีกคนก็เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุในอีก 2 วันต่อมา

หีบศพมัมมี่ของเจ้าหญิงอาเมนราถูกเก็บรักษาเอาไว้ที่ห้อง Egyptian Room ของ British Museum แต่ไม่นานเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นอีก โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนยันว่าได้ยินเสียงเคาะและเสียงสะอื้นออกมาจากหีบศพ มียามที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่และยามที่ขอลาออกเพราะความหวาดกลัว ส่วนพนักงานทำความสะอวดก็ไม่กล้าเข้าใกล้หีบศพของเจ้าหญิง

ครั้งหนึ่งมีนักท่องเที่ยวทำการเยาะเย้ยหีบศพ ด้วยการนำผ้าขี้ริ้วมาสะบัดที่ภาพใบหน้าบนหีบศพ หลังจากนั้นไม่นานลูกชายของเขาก็เสียชีวิตด้วยโรคหัด

British Museum จึงตัดสินใจนำหีบศพมัมมี่ไปเก็บยังห้องใต้ดิน แต่กลายเป็นว่าคนงานที่ขนย้ายหีบศพต้องล้มป่วย ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลการขนย้ายหีบศพถูกพบเป็นศพบนโต๊ะทำงาน

มีช่างภาพสนใจความอาถรรพ์ของมัมมี่ เดินทางมาถ่ายรูปยัง British Museum เมื่อนำภาพไปล้างยังที่ทำงาน ภาพหีบศพมัมมี่กลับปรากฏใบหน้ามนุษย์แสนสยดสยอง ช่างภาพคนดังกล่าวตัดสินใจเดินทางกลับบ้าน แล้วยิงตัวตายในห้องนอนของตนเอง

สุดท้าย British Museum จึงแก้ปัญหาด้วยการขายหีบศพมัมมี่ให้กับนักสะสมวัตถุโบราณรายหนึ่ง

เฮเลนนา บลาแวตสกี

“เดินทางสู่อเมริกา”

โชคร้ายยังตามหลอกหลอนผู้ครอบครองรายใหม่ ส่งผลให้เขาย้ายหีบศพไปอยู่ในห้องใต้ดิน และเชิญ เฮเลนนา บลาแวตสกี นักเขียนหญิงชาวรัสเซียและผู้หลงใหลในเรื่องลี้ลับมาทำการตรวจสอบหีบศพ

เมื่อเข้ามาถึงบริเวณบ้าน เฮเลนนา บลาแวตสกี สัมผัสถึงบรรยากาศอันน่าหวาดหวั่นโดยทันที และแนะนำให้เจ้าของบ้านย้ายหีบศพมัมมี่ออกไปให้เร็วที่สุด

ไม่นาน หีบศพมัมมี่ก็ได้เจ้าของรายใหม่เป็นนักโบราณคดีชาวอเมริกัน หีบศพมัมมี่จึงถูกเตรียมเดินทางสู่สหรัฐอเมริกา ด้วยเรือลำใหม่ของ White Star Line ที่มีชื่อว่า RMS Titanic

“William Stead”

เรื่องราวสยองขวัญที่นำไปสู่ความเชื่อเรื่องการอับปางของเรือ Titanic เพราะคำสาปมัมมี่ พบว่ามีที่มาจาก วิลเลียม สเตด นักเขียนและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชาวอังกฤษ ผู้ริเริ่มแนวทางนำเสนอข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็หลงใหลเรื่องเร้นลับและสนใจเกี่ยวกับการสื่อวิญญาณด้วยเช่นกัน

วิลเลียม สเตด เป็นผู้เผยแพร่เรื่องอาถรรพ์ของมัมมี่ที่ถูกนำมายังประเทศอังกฤษ โดยอ้างว่าเพื่อนของเขาได้นำมัมมี่จากอียิปต์มาเก็บไว้ในบ้าน ไม่นานจึงพบว่าสิ่งของในห้องที่ใช้เก็บมัมมี่แตกหักทั้งหมด และไม่ว่าจะย้ายไปเก็บไว้ในห้องใด สิ่งของที่อยู่ในห้องเหล่านั้นต่างแตกหักเสียหายเช่นเดียวกัน

ภายหลัง วิลเลียม สเตด ได้มีโอกาสไปเยือนห้อง Egyptian Room ของพิพิธภัณฑ์ British Museum ความสนใจที่มีต่อภาพวาดหน้าหีบศพของมัมมี่ ทำให้เขาเผยแพร่ความเชื่อเรื่องวิญญาณอาฆาตที่สิงสู่ในหีบศพที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังของอังกฤษ

วิลเลียม สเตด

ชะตากรรมได้ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เดินทางไปกับเรือ Titanic ในปี 1912 วิลเลียม สเตด ได้ใช้โอกาสนั้นเล่าเรื่องอาถรรพ์มัมมี่ให้กับผู้ร่วมเดินทางระหว่างร่วมรับประทานอาหาร

แม้สุดท้ายเขาต้องพบจุดจบไปพร้อมกับเรือ Titanic แต่เรื่องเล่าชวนสยองขวัญของเขาได้ส่งผ่านไปยังผู้รอดชีวิตบนเรือ ที่นำเรื่องราวไปเผยแพร่กับหนังสือพิมพ์ที่มาทำข่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นการเชื่อมโยงตำนาน Unlucky Mummy กับการอับปางของเรือ Titanic ในที่สุด

เรื่องฉงนที่เชื่อมโยง วิลเลียม สเตด กับเรือ Titanic ยังมาจากความเชื่อส่วนตัวของเขาที่เคยทำนายเอาไว้ว่า ตนเองจะพบจุดจบด้วยการจมน้ำ

นอกจากนี้ วิลเลียม สเตด ยังเคยตีพิมพ์นิยาย 2 เรื่องที่เปรียบเสมือนคำทำนายการอับปางของเรือ Titanic ได้แก่ How the Mail Steamer went down in Mid Atlantic by a Survivor ที่เล่าถึงการเหตุการณ์เรือเดินสมุทรอับปางและมีเรือกู้ชีพไม่เพียงพอ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และเรื่อง From the Old World to the New ที่เล่าถึงเหตุอับปางของเรือที่ชนภูเขาน้ำแข็ง เป็นสองเรื่องราวที่สอดคล้องกับเหตุอับปางของเรือ Titanic อย่างไม่น่าเชื่อ

เรือ Empress of Ireland

“วิญญาณร้ายยังคงหลอกหลอน”

การจากไปของ วิลเลียม สเตด และการจมลงสู่ทะแลของเรือ Titanic ไม่ได้ทำให้ความอาถรรพ์ Unlucky Mummy ลดทอนลง เมื่อมีการเติมแต่งเรื่องราวให้ชะตากรรมของเรือ Titanic เชื่อมโยงกับวิญญาณร้ายของมัมมี่มากขึ้นไปอีก

ตำนานเล่าว่า นักโบราณคดีชาวอเมริกันที่นำหีบศพมัมมี่ขึ้นเรือ Titanic ได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่บนเรือ ลักลอบนำหีบศพมัมมี่ไปขึ้นเรือกู้ชีพ และพาไปขึ้นเรือ RMS Carpathia เรือเดินสมุทรที่เดินทางมาช่วยผู้รอดชีวิตจากเรือ Titanic หีบศพมัมมี่จึงเดินทางมาถึงนิวยอร์กโดยสวัสดิภาพ

ไม่นาน นักโบราณคดีชาวอเมริกันกันก็ได้รับรู้อาถรรพ์หีบศพมัมมี่ด้วยตนเอง ก่อนตัดสินใจส่งหีบศพมัมมี่กลับคืนประเทศอังกฤษในปี 1914 โดยการขนส่งผ่านเรือ Empress of Ireland ที่เริ่มเดินทางจากเมืองควิเบกประเทศแคนาดาไปสู่จุดหมายที่เมืองลิเวอร์พูลประเทศอังกฤษ แต่การเดินทางต้องสิ้นสุดลงกลางทาง เมื่อเรือ Empress of Ireland ต้องชนเข้ากับเรือขนสินค้าอีกลำ

แม้บทเรียนจากเรือ Titanic จะทำให้ Empress of Ireland เตรียมเรือกู้ชีพเอาไว้เพียงพอกับจำนวนของผู้โดยสาร แต่โชคร้ายที่เรือจมลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เรือกู้ชีพที่เตรียมไว้ 40 ลำถูกนำมาใช้งานจริงเพียง 7 ลำ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 840 ราย

แจ็ค กริมม์ (ขวา)

อาถรรพ์ของ Unlucky Mummy ยังตามหลอกหลอนไปถึงทีมสำรวจซากเรือ Titanic เมื่อความพยายามค้นหาซากเรือ Titanic โดย แจ็ค กริมม์ เศรษฐีน้ำมันจากรัฐเท็กซัสระหว่างปี 1980-1983 ต้องพบกับความล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง จนเกิดความเชื่อว่า เป็นผลจากวิญญาณอาฆาตของ Unlucky Mummy ที่ไม่ต้องการให้ใครมารบกวนสถานที่สิงสถิตสุดท้ายของเธอ

“เรื่องราวที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง”

อย่างไรก็ดี เมื่อนำตำนาน Unlucky Mummy มาเปรียบเทียบกับข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการอับปางของเรือ Titanic จะพบข้อมูลที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหลายประเด็น

ในตำนานได้อ้างถึง เฮเลนนา บลาแวตสกี ผู้แนะนำให้นักสะสมวัตถุโบราณชาวอังกฤษขายหีบศพมัมมี่แก่นักโบราณคดีชาวอเมริกัน ส่งผลให้หีบศพมัมมี่ได้เดินทางขึ้นเรือ Titanic

อย่างไรก็ดี เฮเลนนา บลาแวตสกี มีชีวิตระหว่างปี 1831-1891 ดังนั้นเธอจึงเสียชีวิตก่อนการอับปางของเรือ Titanic ถึง 21 ปี ทำให้ทั้งสองเหตุการณ์ไม่สามารถเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันได้

เมื่อปี 1985 ชาร์ลส์ ฮาส์ ประธานสมาคม Titanic Historical Society ได้ตรวจสอบบัญชีสินค้าที่บรรทุกมากับเรือ Titanic และไม่พบข้อมูลว่า มีการนำหีบศพมัมมี่มาขึ้นเรือ Titanic แต่อย่างใด

นอกจากนี้ Unlucky Mummy ที่ถูกนำมาเชื่อมโยงกับการอับปางของเรือ Titanic ก็ไม่ได้จมไปกับเรือลำไหนตามที่ตำนานกล่าวอ้าง เนื่องจากหีบศพมัมมี่ยังถูกเก็บรักษาอยู่ที่ห้อง Egyptian Room ในพิพิธภัณฑ์ British Museum จนถึงวันนี้

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.snopes.com/fact-check/mummy-titantic/
https://en.wikipedia.org/wiki/Unlucky_Mummy
https://en.wikipedia.org/wiki/W._T._Stead

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย