ชัวร์ก่อนแชร์: Titanic ถูกสลับเรือ ตามแผนล่มเรือเพื่อเงินประกัน จริงหรือ?

03 กรกฎาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

บทสรุป :

หมายเลขอู่ต่อเรือ (Construction Identification Number) ของเรือทั้งสองลำคือสิ่งยืนยันว่าเรือไม่ได้ถูกสลับกัน โดยรหัสของเรือ Olympic คือ 400 ส่วนรหัสของเรือ Titanic คือ 401

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลเท็จแพร่ทาง TikTok โดยอ้างว่า การอับปางของเรือ Titanic เป็นเรื่องลวงโลก เพราะเรือที่จมอยู่ใต้ทะเล แท้จริงแล้วคือเรือ Olympic เรือเดินสมุทรอีกลำของบริษัท White Star Line ที่ถูกสลับกับเรือ Titanic อย่างจงใจก่อนการเดินเรือที่นำไปสู่การอับปาง เนื่องจากเรือ Olympicได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุชนกับเรือรบ HMS Hawke เมื่อปี 1911 หรือหนึ่งปีก่อนเรือ Titanic อับปาง บริษัท White Star Line จึงวางแผนเคลมเงินประกันด้วยการจงใจให้เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม แล้วนำเงินที่ได้จากบริษัทประกันภัยมาสร้างเรือลำใหม่ โดยเหตุผลที่ต้องสลับเรือ Olympic กับเรือ Titanic เนื่องจากวงเงินประกันของเรือ Titanic มีเพียง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา น้อยกว่าทุนสร้างเรือที่มีมูลค่า 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา การจมเรือ Titanic จึงไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับการจมเรือ Olympic ข้ออ้างดังกล่าวกลายเป็นคลิปไวรัลที่ทำยอดชมทาง TikTok กว่า 12 ล้านครั้ง

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จากการตรวจสอบโดยสำนักข่าว AP พบว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวขัดแย้งกับความจริงหลายประการ

ต้นศตวรรษที่ 20 บริษัท White Star Line สายการเดินเรือของประเทศอังกฤษต้องการเป็นก้าวขึ้นมาผู้นำธุรกิจเรือเดินสมุทร และเปิดตัว Olympic-class ocean liner หรือการผลิตเรือเดินสมุทรที่้หรูหราและใหญ่ที่สุดจำนวน 3 ลำ ได้แก่ เรือ Olympic (1911) เรือ Titanic (1912) และเรือ Britannic (1914)

แม้เรือทั้ง 3 ลำจะผลิตโดยบริษัทต่อเรือ Harland and Wolff ในประเทศไอร์แลนด์เหนือเหมือนกันทั้ง 3 ลำ แต่หลักฐานที่ยืนยันว่าเรือแต่ละลำแตกต่างกัน คือหมายเลขอู่ต่อเรือ (Construction Identification Number) โดยจะระบุเอาไว้บนชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเรือ โดยรหัสของเรือ Olympic คือ 400 ส่วนรหัสของเรือ Titanic คือ 401

*เรือ Olympic (ซ้าย) และเรือ Titanic (ขวา)*

หลังจากเรือ Olympic ปลดประจำการในปี 1935 และมีการนำชิ้นส่วนของเรือออกประมูล และพบว่ามีหมายเลขอู่ต่อเรือระบุตัวเลข 400 อย่างชัดเจน ไม่ต่างจากการสำรวจซากเรือ Titanic ที่ยังคงแสดงหมายเลขอู่ต่อเรือเลขที่ 401 อย่างชัดเจนเช่นกัน

มาร์ค เชิร์นไซด์ นักประวัติศาสตร์ทางทะเลและเคยตีพิมพ์งานเขียนเกี่ยวกับเรือ Titanic กล่าวว่า หากแผนการสลับเรือเกิดขึ้นจริง สิ่งนั้นจะต้องถูกตรวจพบระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานก่อนการเดินเรือโดยเจ้าหน้าที่ของอังกฤษ และไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่ามีการสลับเรือเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

เจ.เคนท์ เลย์ตัน ผู้เชี่ยวชาญที่ตีพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับเรือ Titanic หลายเล่ม ชี้แจงว่า อู่ต่อเรือของ Olympic และ Titanic อยู่ในที่แจ้งซึ่งประชาชนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นการสลับเรือไม่มีทางรอดพ้นสายตาของพยานที่มีอยู่มากมาย

นอกจากนี้ หากการสลับเรือเกิดขึ้น จำเป็นต้องนำชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเรือที่ใช้เวลาก่อสร้างนานหลายเดือน มาถอดและประกอบขึ้นใหม่ในเวลาไม่กี่วัน ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้