ชัวร์ก่อนแชร์: มือกราดยิงในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนข้ามเพศ จริงหรือ?

30 มิถุนายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

  1. เป็นการยกตัวอย่างเหตุกราดยิงที่มีแต่ผู้ก่อการเป็นคนข้ามเพศ
  2. สถิติพบว่า 96% ของผู้ก่อเหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกาคือชาย Cisgender

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :


มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทาง Twitter ในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าเหตุกราดยิง 4 ครั้งในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Aberdeen shooting ปี 2018 Denver shooting ปี 2019 Colorado Springs shooting ปี 2022 และ Nashville school shooting ปี 2023 ล้วนมีผู้ก่อการเป็นคนข้ามเพศ (Trans) และคนที่ไม่ระบุเพศ (Non-binary) แสดงให้เห็นว่าขบวนการเรียกร้องสิทธิคนข้ามเพศยุคใหม่ ได้เปลี่ยนนักเคลื่อนไหวทางสังคมให้กลายเป็นผู้ก่อการร้าย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

Aberdeen shooting ปี 2018 คือเหตุกราดยิงที่ศูนย์กระจายสินค้าบริษัทยา Rite Aid ที่เมืองแอเบอร์ดีน รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 3 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยผู้ก่อการร้ายคือ สโนชา โมสลีย์ ชายข้ามเพศวัย 26 ปี ซึ่งทำการยิงตัวเองในที่เกิดเหตุ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล


Denver shooting ปี 2019 คือเหตุกราดยิงที่โรงเรียนในเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยหนึ่งในสองผู้ก่อการร้ายคือ อเล็ก แม็คคินนีย์ ชายข้ามเพศวัย 16 ปี ได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

Colorado Springs shooting ปี 2022 คือเหตุกราดยิงที่สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ในเมืองโคโลราโด สปริงส์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 5 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 ราย ทนายความของ แอนเดร์สัน ลี อัลดริช ผู้ก่อการร้ายวัย 22 ปี ยืนยันว่าลูกความของเขาเป็นคนที่ไม่ระบุเพศ (Non-binary)

Nashville school shooting ปี 2023 คือเหตุกราดยิงที่โรงเรียนในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 6 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยผู้ก่อการร้ายคือ ไอเดน ฮอลล์ ชายข้ามเพศวัย 28 ปี ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญในที่เกิดเหตุ

แม้ทั้ง 4 เหตุการณ์ จะมีผู้ก่อเหตุเป็นคนข้ามเพศ (Trans) และคนที่ไม่ระบุเพศ (Non-binary) ทั้งหมด แต่เมื่อเทียบโดยภาพรวมแล้ว ผู้ก่อเหตุกราดยิงในสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่ ก็คือคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศสอดคล้องกับเพศกำเนิดหรือ Cisgender

Gun Violence Archive หน่วยงานที่รวบรวมสถิติเหตุรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2013 พบว่า ทศวรรษที่ผ่านมามีเหตุกราดยิงที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่า 4 คน จำนวนมากกว่า 4,400 ครั้ง โดยพบว่ามีผู้ก่อการร้ายที่ระบุว่าเป็นคนข้ามเพศไม่ถึงสิบราย หรือเพียง 0.11%

Secret Service National Threat Assessment Center (NTAC) หน่วยงานที่ศึกษาวิจัยเหตุก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา พบว่าระหว่างปี 2016-2020 มีเหตุก่อการร้ายในที่สาธารณะที่ส่งผลให้มีผู้ได้รับอันตรายมากกว่า 3 คนขึ้นไป จำนวน 173 ครั้ง มีเพียง 3 รายหรือ 2% ที่เป็นคนข้ามเพศ โดย 96% ของผู้ก่อการร้ายคือเพศชาย และอีก 5 รายเป็นเพศหญิง

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.reuters.com/article/factcheck-trans-nonbinary-shooter/fact-check-majority-of-us-mass-shooters-are-cis-men-not-transgender-or-non-binary-people-idUSL1N363273
https://en.wikipedia.org/wiki/Aberdeen,_Maryland_shooting
https://en.wikipedia.org/wiki/2019_STEM_School_Highlands_Ranch_shooting
https://en.wikipedia.org/wiki/Colorado_Springs_nightclub_shooting
https://en.wikipedia.org/wiki/2023_Nashville_school_shooting

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พงศ์กวิน” นำประชุม คบต. เห็นชอบมาตรการดูแลแรงงานกัมพูชา

ก.แรงงาน 8 ก.ค. – “พงศ์กวิน” นำประชุม คบต. เห็นชอบมาตรการดูแลแรงงานกัมพูชา ลดผลกระทบภาคธุรกิจ-นายจ้างชายแดน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงมหาดไทย พิจารณาดำเนินมาตรการผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน วันนี้ (8 กรกฎาคม 2568) จึงได้จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดน (Border Pass) ทั้งที่มีอายุหรือหมดอายุ ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุด ดังนี้ ผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการทำงานได้อีก 6 เดือน หรือจนกว่าด่านจะเปิด รวมทั้งยกเว้นโทษเปรียบเทียบปรับ สำหรับกรณีอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด และ 5. เมื่อสถานการณ์ชายแดนกลับสู่ภาวะปกติ ให้คนต่างด้าว อยู่ต่อได้อีก 7 วัน เพื่อเตรียมตัวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ แนวทางทั้ง […]

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]

มติสภาฯ 253 ต่อ 67 เสียง ถอนร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ

ฐสภา 9 ก.ค. – สภาฯ ลงมติ ถอนร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ตาม ครม. เสนอ เจอฝ่ายค้านถามเหตุผล เป็นเพราะกลัวเสียงไม่พอหรือ “เท้ง” จี้รับปากจะไม่นำร่างกลับมาอีก ด้าน “จุลพันธ์” แจง เพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ตอบไม่ได้นำกลับมาพิจารณาอีกหรือไม่ การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เป็นการพิจารณาตามระเบียบวาระ คือร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยนายวันมูหะมัดนอร์ แจ้งว่า ครม.ได้มีหนังสือมายังสภาฯ ขอถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ออกจากระเบียบวาระการประชุม ซึ่งตามข้อบังคับที่ 61 กำหนดว่าการถอนร่าง พ.ร.บ.ที่ประธานสั่งบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมแล้ว จะกระทำได้เมื่อได้รับการยินยอมจากที่ประชุม ดังนั้นตนขอถามสมาชิกว่าเห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ทำให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า ตนอยากทราบเหตุผลที่แท้จริงที่ครม. ขอถอนร่างนี้ออกจากการพิจารณาของสภาฯ ตนทราบดีว่าวันนี้อย่างไรรัฐบาลก็ถือเสียงข้างมากดังนั้นไม่ว่าพวกตนจะลงมติอย่างไร ครม.ก็สามารถที่จะถอนร่างนี้ออกจากการพิจารณาของสภาฯได้อยู่แล้ว แต่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าการถอนร่างในวันนี้เป็นการถอนร่างที่รัฐบาลได้เล็งเห็นแล้วว่ากฎหมายฉบับนี้มีปัญหา อาจจะถอนออกไปเพื่อที่จะกลับไปศึกษาอย่างรอบคอบตามข้อทักท้วงของภาคประชาสังคมรวมถึงภาคส่วนอื่นๆก่อน […]