ชัวร์ก่อนแชร์ : แอปเปิ้ลไซเดอร์ บำบัด 8 อาการได้ จริงหรือ ?

🎯 ตามที่มีการแชร์ว่า “แอปเปิ้ลไซเดอร์ สามารถบำบัดได้สารพัดโรค ทั้งแก้ท้องเสีย สะอึก อาหารไม่ย่อย ไซนัส เจ็บคอ อ่อนเพลีย ตะคริว และฟันขาว”นั้น


📌 บทสรุป :  ❌ ไม่ควรแชร์  ❌

👉 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญ ดร.ประมวล ทรายทอง ฝ่ายจุลชีววิทยาประยุกต์ และรองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


ที่มีการแชร์ว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์สามารถบำบัดอาการต่าง ๆ หลายอย่าง บางส่วนก็เป็นเรื่องจริง บางส่วนก็จริงเพียงบางส่วน หรือบางข้อความ และบางส่วนก็ไม่เป็นความจริง

👉 1.ท้องเสีย ให้จิบแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำสุกเย็นเจือจางทั้งวัน เพราะแอนตี้ไบโอติกในแอปเปิ้ลไซเดอร์จะช่วยฆ่าเชื้อในลำไส้ได้

ท้องเสียอาจจะเกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อหรืออาหารเป็นพิษจากเชื้อจุลินทรีย์หรือไวรัส หรืออาจเกิดจากกระเพาะหรือลำไล้เป็นแผลแล้วส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย


ดังนั้น หากท้องเสียจากการติดเชื้อหรืออาหารเป็นพิษ สามารถดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำเจือจางเพื่อช่วยในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ เนื่องจากมีรายงานพบว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์มีส่วนยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้

ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ทั้งวันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาและหาสาเหตุของอาการท้องเสีย จะได้แก้อาการให้ตรงจุด เพราะหากดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลต่อการเกิดแผลในกระเพาะได้

👉 2.สะอึก กินแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา เพราะรสเปรี้ยวจี๊ดถึงใจของแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยหยุดอาการได้

การสะอึกเป็นภาวะการหายใจผิดปกติชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นระบบประสาทบริเวณกล้ามเนื้อกะบังลมในขณะที่หายใจออก ทำให้กะบังลมหดตัวผิดจังหวะ ดันลมจากปอดขึ้นไปกระทบกับกล่องเสียง จึงเกิดเป็นเสียงสะอึก

สาเหตุที่ไปกระตุ้นระบบประสาทให้เกิดการสะอึก เช่น กินอาหารรสจัด กินอาหารเร็วเกินไป ดื่มเครื่องดื่มหรืออาหารที่ทำให้เกิดก๊าซมากเกินไป อุณหภูมิในกระเพาะมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน

ทั้งนี้ การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์เจือจางสามารถช่วยลดอาการสะอึกได้ โดยวิธีการดังกล่าวเป็นการทำให้ปุ่มรับรสทำงานหนักขึ้น เพื่อเบี่ยงเบนระบบประสาทอัตโนมัติ แต่ไม่แนะนำในคนที่เกิดการสะอึกซึ่งมีปัญหาโรคแผลในกระเพาะอาหาร เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้

👉 3.อาหารไม่ย่อย ให้ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์และน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 1 แก้วดื่มก่อนอาหาร 30 นาที

แอปเปิ้ลไซเดอร์เมื่อผสมน้ำแล้วดื่มจะช่วยระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้ดี ฟื้นฟูสุขภาพในช่องท้อง เช่น แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น ป้องกันอาการอาหารไม่ย่อย โดยดื่มก่อนกินอาหารมื้อหนัก ๆ เช่น อาหารที่มีเนื้อสัตว์ซึ่งอาจจะย่อยยากอย่างเช่น สเต๊ก หรือพวกอาหารบุฟเฟ่ต์ต่าง ๆ อย่างน้อย 30 นาที จะช่วยให้การย่อยอาหารเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ควรดื่มในขณะท้องว่าง เพราะอาจจะส่งผลให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้

👉 4.ไซนัส ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชาลงในน้ำอุ่น 1 แก้ว ดื่มเพื่อให้จมูกโล่ง

แอปเปิ้ลไซเดอร์มีกรดอินทรีย์ระเหยง่ายที่มีส่วนช่วยสลายและลดเยื่อเมือกในร่างกาย ดังนั้นการนำแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำอุ่น ดื่มเพื่อให้จมูกโล่งอาจมีส่วนช่วยให้จมูกโล่ง ทั้งนี้ควรมีการเจือจางในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งหากมีปริมาณความเข้มข้นของกรดอะซีติกมากเกินไปอาจส่งผลต่อเยื่อบุจมูกได้เช่นกัน

ดังนั้น จึงควรระมัดระวังการผสมน้ำให้มีความเข้มข้นพอเหมาะในการดื่มและการสูดดม

👉 5.เจ็บคอ ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ใน 4 ของแก้ว ลงในน้ำอุ่น 1 ใน 4 ของแก้วเท่ากัน กลั้วคอ เพื่อให้กรดในแอปเปิ้ลไซเดอร์ฆ่าเชื้อในลำคอ

แอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวมีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในช่องปากได้ ทั้งนี้ในการบริโภคควรมีการเจือจางให้เหมาะสมเพื่อลดการเกิดอันตรายของช่องปากและเยื่อบุลำคอ

อย่างไรก็ตาม ก่อนนำแอปเปิ้ลไซเดอร์มาบ้วนปากหรือดื่ม ควรจะต้องทำการเจือจางด้วยน้ำเปล่าในปริมาณที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์หรือตามคำแนะนำบนฉลาก เนื่องจากแอปเปิ้ลไซเดอร์มีฤทธิ์ที่เป็นกรดสูง หากได้รับปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายต่อลำคอและช่องปากได้

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ามีการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ทำความสะอาดบาดแผล และมีการระบุเป็นตำรับยารักษาโรคในคัมภีร์ไบเบิ้ล รวมถึงมีงานวิจัยที่รายงานความสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E. coli) และแบคทีเรียก่อโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย

👉 6.อ่อนเพลียหลังออกกำลังกาย ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชาในแก้วน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่าเย็น ๆ เพราะโพแทสเซียมและเอนไซม์ในแอปเปิ้ลไซเดอร์ช่วยแก้ความอ่อนเพลียได้ชะงัด

การออกกำลังกายนาน ๆ ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย เนื่องจากการเผาผลาญพลังงานในร่างกายและเกิดการสะสมกรดแล็กติก

คนปกติมีกรดแล็กติกในภาวะพัก 1-2 มิลลิโมลต่อลิตร แต่ถ้าอยู่ในภาวะออกกำลังกายหนัก ๆ ปริมาณกรดแล็กติกจะอยู่ที่ 4-20 มิลลิโมลต่อลิตร เมื่อร่างกายสะสมกรดแล็กติกปริมาณมากจะส่งผลให้กล้ามเนื้อมีอาการเมื่อยล้า

ถ้าร่างกายมีกรดแล็กติกมากจนรับไม่ไหวก็อาจทำให้เป็นตะคริวได้ แต่กรดแล็กติกสามารถสลายตัวได้เมื่อกล้ามเนื้อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ

ดังนั้น การลดอาการเมื่อยล้าที่ดีที่สุดจากการออกกำลังกายคือ “การดื่มน้ำ” หรือ “การหายใจสูดออกซิเจน” เข้าไปเพื่อช่วยสลายกรดแล็กติกในร่างกาย

การนำแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำเจือจางเพื่อดื่มอาจจะช่วยแก้ความอ่อนเพลียได้เช่นกัน แต่การดื่มน้ำเวลาออกกำลังกายเราจำเป็นต้องดื่มปริมาณมาก ดังนั้นอาจจะทำให้ปริมาณกรดน้ำส้มเข้าไปสะสมในกระเพาะอาหารจนเป็นแผลได้ วิธีที่ดีที่สุดคือการดื่มน้ำเปล่า

👉 7.แก้ตะคริวขณะหลับ หากมีอาการนี้ให้ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 2 ช้อนโต๊ะและน้ำผึ้งเล็กน้อย ลงในน้ำดื่ม 1 แก้ว จะช่วยหยุดอาการได้

ตะคริวคืออาการหดเกร็งที่ทำให้กล้ามเนื้อปวดและเป็นก้อนแข็ง มักจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โดยที่เราไม่สามารถบังคับได้ ซึ่งจะเป็นอยู่เพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น

ปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดตะคริว แต่เชื่อว่าอาจเกิดจากเอ็นและกล้ามเนื้อไม่ได้ยืดตัวบ่อย ๆ จึงทำให้มีการหดรั้งหรือเกร็งได้ง่ายเมื่อมีการใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นมากเกินไป

นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าอาจเกิดจากเซลล์ประสาทและเส้นประสาทที่ควบคุมการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ หรืออาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อไม่ดี รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ เช่น การดื่มน้ำน้อยเกินไป ผู้ที่มีภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ ภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล กล้ามเนื้ออ่อนล้าหรืออ่อนแรงจากการใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานาน การนอน นั่ง หรือยืน ในท่าที่ไม่สะดวกนาน ๆ

จากสาเหตุที่กล่าวมา การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ผสมน้ำผึ้งอาจจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาหรือช่วยหยุดอาการดังกล่าวได้

👉 8.ช่วยฟันขาว กลั้วปากด้วยแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกเช้า เพื่อช่วยล้างคราบบนฟันและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จากนั้นแปรงฟันตามปกติ

การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ควรระวังผลเสียจากกรดที่มีผลต่อสารเคลือบฟัน เพราะกรดในแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่สูงเกินไป เมื่อกลั้วปากเป็นประจำและเป็นเวลานานอาจทำให้สารเคลือบฟันเสียหาย จะส่งผลต่อสุขภาพฟันและช่องปาก รวมทั้งเยื่อบุในช่องปากและลำคอได้

ดังนั้น การกลั้วปากด้วยแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกเช้า มีส่วนช่วยล้างคราบบนฟันและฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ แต่ทุกครั้งที่กลั้วปากด้วยการดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ ควรบ้วนปากด้วยทุกครั้ง และไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน รวมถึงขณะที่ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ควรใช้หลอดดูดจะดีที่สุด เพื่อเป็นการรักษาสารเคลือบฟัน

👉 คนปกติ ไม่มีอาการเจ็บป่วย ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกวัน มีอันตรายต่อร่างกายมั้ย

เนื่องจากแอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง ต้องเจือจางก่อนนำมาดื่มทุกครั้ง

การดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่เหมาะสมคือวันละ 2 ช้อนชา สูงสุดไม่เกิน 2 ช้อนโต๊ะหรือน้อยกว่า ด้วยการผสมกับน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ให้เจือจางมาก ๆ หรือควรดื่มไม่เกินวันละ 237 มิลลิลิตรต่อวัน เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายต่อร่างกายเช่น เกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ เสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน หรือมีอาการเจ็บกล่องเสียง แสบร้อนในช่องปากและลำคอ

นอกจากนี้ มีรายงานพบว่าผู้ที่ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์วันละ 250 มิลลิลิตร ดื่มติดต่อกันเป็นเวลา 6 ปี อาจเสี่ยงสูงต่ออาการของโรคกระดูกพรุนและเกิดภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ

👉 เด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น ดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้มั้ย อันตรายหรือไม่ อย่างไร

เนื่องมาจากแอปเปิ้ลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง ในกรณีของเด็กเล็ก เด็กวัยรุ่น อาจจะยังไม่เหมาะสม เนื่องจากระบบของอวัยวะและเนื้อเยื่อทางเดินอาหารยังบอบบางเกินไปต่อกรดจากแอปเปิ้ลไซเดอร์ รวมถึงการดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่มีความเป็นกรดสูงโดยไม่ได้เจือจางให้เหมาะสมอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร แสบร้อนในช่องปากและลำคอ และส่งผลต่อกระเพาะและลำไส้รวมถึงสุขภาพโดยรวมได้

นอกจากนี้ ผู้มีปัญหาสุขภาพหรือผู้ป่วยที่กินยาเป็นประจำไม่ควรดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ เนื่องจากมีรายงานว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย ยารักษาโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ดังนั้น ผู้ที่กินยาดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์

👉 แอปเปิ้ลไซเดอร์ คืออะไร ทำจากแอปเปิ้ลหรือ มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง

แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ Apple cider vinegar คือน้ำส้มสายชูที่ได้จากการหมักจากแอปเปิ้ล

ผลไม้อีกหลายชนิดที่ไม่ใช่แอปเปิ้ลสามารถนำมาผลิตแอปเปิ้ลไซเดอร์ได้ อย่างผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น ราสเบอร์รี่ (raspberry) บลูเบอร์รี่ (blueberry) มัลเบอร์รี่ (mulberry) รวมถึงผลไม้ในเมืองไทย เช่น สับปะรด กล้วย มะม่วง มังคุด ลิ้นจี่ น้ำมะพร้าว เป็นต้น

กระบวนการหมัก cider vinegar มี 2 ขั้นตอน โดยเริ่มจากนำผลไม้หรือน้ำผลไม้มาหมักด้วยยีสต์เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ ขั้นตอนต่อมาคือการเปลี่ยนแอลกอฮอล์ที่ได้ไปเป็นกรดอะซีติกหรือกรดน้ำส้มโดยเชื้อแบคทีเรีย

โดยปกติแล้วการหมักที่ดีและมีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีปริมาณกรดน้ำส้มมากกว่า 4% และต้องมีแอลกอฮอล์ตกค้างไม่เกิน 0.5% ซึ่งจากลักษณะดังกล่าวทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม cider vinegar มีรสเปรี้ยวจัด จึงนิยมนำไปใช้ประกอบอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและถนอมอาหาร รวมถึงปัจจุบันมีการนำมาเจือจางดื่มตามที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในปัจจุบันนี้

👉 แอปเปิ้ลไซเดอร์ มีสารอาหารอะไรบ้าง ที่ทำให้เชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

แอปเปิ้ลไซเดอร์มีแร่ธาตุคล้ายคลึงกับน้ำแอลเปิ้ล โดยเฉพาะมีโพแทสเซียมสูง มีแร่ธาตุต่าง ๆ มากกว่า 30 ชนิด มีเพ็กทินที่เป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ เป็นสารสำคัญทางพฤกษเคมีที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์ต่อผู้บริโภค

แร่ธาตุและสารสำคัญในแอปเปิ้ลไซเดอร์อาจมีปริมาณแตกต่างกันตามกระบวนการบ่มหรือการเติมส่วนผสมของแต่ละผู้ผลิต จึงยากที่จะบอกส่วนประกอบที่แน่นอนของแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ขายอยู่ทั่วไปมีปริมาณเท่าไหร่

ทั้งนี้ คุณสมบัติหลักของแอปเปิ้ลไซเดอร์ประกอบด้วยน้ำ กรดอะซีติก และกรดอินทรีย์อื่น ๆ อีกเล็กน้อย จึงอาจจะพูดได้ว่าสารอาหารที่เชื่อว่ามีประโยชน์จากการบริโภคแอปเปิ้ลไซเดอร์น่าจะมาจากกรดอินทรีย์ที่เกิดขึ้นในในกระบวนการหมักมากกว่าแร่ธาตุ วิตามิน และสารสำคัญจากแอปเปิ้ล

ตรวจสอบโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์

เรียบเรียงโดย : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

สามารถรับชมคลิปรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : แอปเปิลไซเดอร์ บำบัด 8 อาการได้ จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย