เตือนภัยสายเที่ยว ! เพจปลอม-บัญชีอวตาร หลอกสำรองค่าที่พักดัง ก่อนเชิดเงินหนี | ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨

วิธีหลอก : แอบอ้างชื่อที่พักดัง ในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง
อุบาย : มีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ
1. ใช้เพจปลอม มิจฉาชีพจะแอบอ้างเป็นแอดมิน มีการคัดลอกเนื้อหาจากเพจจริง โดยอาศัยการยิงโฆษณาเพื่อสร้างความเข้าใจผิด
2. ใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตารแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแนะนำโรงแรม หรือที่พักต่าง ๆ เพื่อโพสต์ข้อความในลักษณะ “มีที่พักราคาดีหลุดจองอยู่”
เมื่อเหยื่อสนใจตลอดจนติดต่อเข้าไปก็จะถูกลวงให้โอนเงินสำรองที่พัก ไปยังบัญชีบุคคลธรรมดา แน่นอนว่าการสำรองดังกล่าวไม่เป็นความจริง หากเหยื่อเดินทางไปเข้าพักยังสถานที่จริงย่อมไม่สามารถเข้าพักได้
ช่องทาง : แอปพลิเคชัน Facebook

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพใช้เพจปลอม-บัญชีอวตารแนะนำที่พัก ก่อนแอบอ้างเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลวงให้โอนเงินสำรองที่พัก ด้าน ‘โฆษก’ ขอให้ประชาชนระมัดระวังมากขึ้น พร้อมแนบวิธีการป้องกัน

กรุงเทพฯ 4 พ.ค. 66 – พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ออกประชาสัมพันธ์เตือนภัย กรณีมิจฉาชีพปลอมช่องทางการติดต่อของที่พักดัง แอบอ้างเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลวงเหยื่อให้โอนเงินสำรองค่าที่พักก่อนชิ่งหนีไป

ฉวยโอกาสฤดูกาลท่องเที่ยว ปลอมช่องทางการติดต่อ แอบอ้างชื่อที่พักดัง




มิจฉาชีพอ้างตนเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่พัก ซึ่งมีรูปแบบของอุบายที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. กรณีเป็นเพจปลอม มิจฉาชีพจะแอบอ้างเป็นแอดมิน ทั้งนี้อาจสร้างเพจขึ้นมาใหม่ หรือเปลี่ยนชื่อเพจที่มีผู้ติดตามอยู่แล้ว ให้เหมือนกันกับเพจที่พักของจริง แน่นอนว่าต้องคัดลอกภาพ Profile, ภาพหน้าปก, เนื้อหา และส่วนลดต่าง ๆ มาใช้เช่นเดียวกันด้วย สำหรับการเลียนแบบข้างต้นคาดว่า อาจยังไม่เพียงพอที่จะล่อลวงให้ประชาชนเข้าถึงหน้าเพจตลอดจนหลงเชื่อได้ มิจฉาชีพจึงอาศัยเทคนิคการยิงโฆษณาเพิ่มเติม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งอันตรายเป็นอย่างยิ่งสำหรับประชาชน ผู้ไม่เคยเข้าถึง หรือรู้จักเพจที่พักของจริงมาก่อน กรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เพจเฟซบุ๊กที่ดูมีความน่าเชื่อถือ มีการลงทุน เพื่อยิงโฆษณาอาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด
2. กรณีเป็นบัญชีอวตาร มิจฉาชีพมักแอบอ้างเป็นเจ้าของที่พัก และแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแนะนำที่พักต่าง ๆ เพื่อโพสต์ข้อความในลักษณะ “มีที่พักราคาดีหลุดจองอยู่” แม้จะไม่ได้ดูมีความน่าเชื่อถือเท่ากับกรณีก่อนหน้านี้ แต่ในความเป็นจริง การแนะนำที่พักในลักษณะดังกล่าวสามารถนำผู้ที่มีความสนใจไปสู่การสำรองที่พัก ตลอดจนเข้าพักจริงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นช่องโหว่สำคัญให้มิจฉาชีพหยิบยืมการหารายได้ของผู้ประกอบการ มาสร้างความเสียหายในสังคมได้

หลงเชื่อ + โอนเงิน = ตกเป็นเหยื่อ
เมื่อประชาชนเกิดความสนใจตลอดจนติดต่อเข้าไป ก็จะถูกลวงให้โอนเงินค่ามัดจำที่พัก หรือเงินสำรองที่พักก่อน หากในขั้นตอนนี้ประชาชนหลงเชื่อ ยอมโอนเงินจริงจะเท่ากับตกเป็นเหยื่อทันที เพราะการสำรองดังกล่าวไม่เป็นความจริง ประกอบกับหลังจากโอนเงินตามขั้นตอนไปแล้ว เพจปลอม หรือบัญชีอวตารนั้น ๆ จะไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย เป็นเหตุให้เหยื่อไม่สามารถเข้าพัก ณ สถานที่จริงตามที่สำรองไว้ได้

โฆษก บช.สอท. ขอให้ประชาชนระมัดระวังเพิ่มขึ้น พร้อมแนบวิธีการป้องกัน
ด้านโฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีดังกล่าวว่า การสำรองที่พัก หรือบริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ประชาชนควรตรวจสอบให้ดี เนื่องจากอาจเป็นช่องทางที่มิจฉาชีพปลอมขึ้นมา เพื่อหลอกเอาทรัพย์สินไป ขอให้ประชาชนระมัดระวัง รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพเหล่านี้ อย่าหลงเชื่อเพียงเพราะมีชื่อเหมือนกันกับที่พักของจริง หรือเคยพบเจอบนเว็บไซต์ค้นหาทั่วไป ซึ่งหมายรวมถึงตามกลุ่มท่องเที่ยว และการส่งต่อกันมาตามสื่อสังคมออนไลน์ด้วย โดยวิธีการป้องกันการถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว มีดังนี้
1. สำรองที่พักผ่านช่องทางที่เป็นทางการ หรือผ่านผู้ให้บริการสำรองที่พักออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ เช่น Booking.com, Agoda, Traveloka หรือผ่านเว็บไซต์ของที่พักโดยตรง
2. หากต้องการที่จะเข้าสู่เพจเฟซบุ๊กใดควรพิมพ์ชื่อด้วยตนเอง และตรวจสอบให้ดีว่ามีชื่อซ้ำ หรือคล้ายกันหรือไม่ ตลอดจนตรวจสอบว่า เพจใดคือเพจจริง
3. เพจเฟซบุ๊กของจริงจะต้องมีเครื่องหมายยืนยันตัวตน หากไม่มีเครื่องหมายดังกล่าวให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นเพจปลอม ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
4. โทรศัพท์ไปสอบถามที่พักก่อนโอนเงินว่า เพจที่พักถูกต้องหรือไม่ และเลขบัญชีถูกต้องหรือไม่
5. เพจเฟซบุ๊กของจริงจะมีส่วนร่วมในการโพสต์เนื้อหา รูปภาพ หรือกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรีวิวที่พักจากผู้เข้าพักจริงด้วย
6. เพจปลอมจะมีผู้ติดตามน้อยกว่าเพจของจริง และมักจะเพิ่งสร้างขึ้นได้ไม่นาน
7. ระมัดระวังการประกาศโฆษณาที่พักราคาถูก หรือที่พักที่อ้างว่าหลุดจอง
8. ตรวจสอบความโปร่งใสของเพจว่า มีการเปลี่ยนชื่อเพจมาก่อนหรือไม่ และผู้จัดการเพจอยู่ในประเทศใด
9. หลีกเลี่ยงการโอนเงินไปยังบัญชีบุคคลธรรมดา โดยบัญชีที่รับโอนควรเป็นบัญชีชื่อที่พัก หรือบัญชีชื่อบริษัท นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบหมายเลขบัญชีทุกครั้งว่า มีประวัติการหลอกลวงหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ Google, blacklistseller.com หรือ chaladohn.com เป็นต้น

ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
ผู้สื่อข่าว : สุวัชรียา จันทร์บัว
พิสูจน์อักษร : จิรัชยา นวลนิ่มน้อย

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]