ตร.ไซเบอร์ ทลายแก๊งนายทุนจีน หลอกส่งของเก็บเงินปลายทาง | ชัวร์ก่อนแชร์ CyberAlert!🚨

วิธีหลอก : สุ่มส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ซึ่งเป็นสินค้าไม่ตรงปก และไม่ได้สั่ง
อุบาย : ส่งสินค้าเก็บเงินปลายทางที่ไม่ตรงปก และไม่ได้สั่ง โดยหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อว่า อาจมีบุคคลในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานเป็นคนสั่งก่อนชำระเงินให้ไป
ช่องทาง : การส่งพัสดุ แอบอ้างเป็นบริษัทส่งของต่าง ๆ

ตร.ไซเบอร์บุกทลายแก๊งมิจฉาชีพนายทุนจีน สุ่มส่งสินค้าไม่ตรงปก และไม่ได้สั่ง หลอกเหยื่อที่หลงเชื่อ ให้ชำระเงินปลายทาง เสียหายเป็นจำนวนมาก และยังพบพัสดุที่ถูกตีกลับนับหมื่นกล่อง

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. 66 – พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.), พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท 2 และ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่บางนา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าได้รับความเดือดร้อนจากการที่มีพัสดุเก็บเงินปลายทางมาส่ง ทำให้หลงเชื่อว่า อาจมีบุคคลในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน เป็นคนสั่งก่อนชำระเงินให้ไป ทำให้เดือดร้อน และเกิดความเสียหาย มีผู้หลงเชื่อชำระเงินไปเป็นจำนวนมาก



พบสินค้าหลากหลายรายการ และรายชื่อที่อยู่ของเหยื่อเป็นจำนวนมาก
ตำรวจไซเบอร์ตรวจค้นโกดัง เก็บของ รับของ 2 แห่ง ภายในซอยบางนาตราด 17 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ ซึ่งลักษณะเป็นโกดังให้เช่า โดยโกดังแห่งแรก เป็นโกดังเก็บพัสดุสินค้า จากการตรวจสอบพบพัสดุสินค้าหลายรายการ อาทิ เครื่องสำอาง, รองเท้า, เสื้อผ้า, อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น  นอกจากนี้ยังพบกล่องพัสดุเปล่า ที่เตรียมแพ็คของสุ่มส่งลูกค้า  และสติกเกอร์รายชื่อที่อยู่ของเหยื่อ ที่ถูกทำลายเป็นจำนวนมาก  อีกทั้งตรวจค้นในสำนักงานพบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีรายชื่อของผู้รับถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด และยังมีสินค้าตีกลับอีกนับหมื่นรายการ

โกดังที่สอง เป็นโกดังสำหรับแพ็คพัสดุที่รอทำการส่ง พบชั้นวางกล่องพัสดุที่ถูกตีกลับ และกระสอบใส่กล่องพัสดุที่ถูกตีกลับกว่าหมื่นกล่อง  รวมทั้งบาร์โค้ดที่ใช้สำหรับส่งของพัสดุ 

นอกจากนี้ทั้งสองจุดสามารถควบคุมตัวผู้ดูแล คือ นางสาวสุรีพร โสภณชัยพร อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ. 225 /2566 ลงวันที่ 24 เมษายน ในความนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และคุมตัว นายตู่ อายุ 27 ปี พนักงานแพ็คของ

ทำซ้ำ ๆ เป็นวงจรปกติ หวังมีเหยื่อรับสินค้า พัสดุเก็บเงินปลายทาง
นางสาวสุรีพร โสภณชัยพร ผู้ดูแล และนายตู่ พนักงานแพ็คของ ให้การเบื้องต้นอ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นพฤติกรรมการหลอกลวงส่งของเก็บเงินปลายทาง ทั้งในส่วนบาร์โค้ด รายชื่อลูกค้า และโลโก้บริษัทส่งของต่าง ๆ   อ้างเพียงถูกจ้างมาแพ็คของ ติดชื่อส่งพัสดุยังผู้รับ ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งในส่วนรายชื่อ หรือพัสดุ โดยเจ้าของกิจการ ซึ่งเป็นชาวจีนจัดหามาให้ เพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น แต่ให้ข้อมูลว่าสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากประเทศจีน แต่ไม่ทราบวิธีการนำเข้า จากนั้นจะนำชื่อที่อยู่ของผู้รับ จากระบบคอมพิวเตอร์พิมพ์ลงกระดาษ แปะหน้ากล่อง ก่อนจะนำไปส่งต่อยังบริษัทรับส่งพัสดุ เพื่อส่งไปตามที่อยู่ที่ระบุหน้ากล่อง ซึ่งทั้งหมดจะเก็บเงินปลายทางยังผู้รับทุกวัน โดยแต่ละวันจะส่งวันละหลายร้อยกล่อง ที่ผ่านมาก็ถูกตีกลับเกินครึ่ง หากสินค้าถูกตีกลับจะนำมาลอกชื่อหน้ากล่องออก แปะข้อมูลของอีกคนเข้าไปแทนจากนั้นดำเนินการส่งใหม่อีกรอบ ทำซ้ำ ๆ วนไปแบบนี้เป็นวงจรปกติ สำหรับรายชื่อของผู้รับ ไม่ทราบว่า เจ้าของซึ่งเป็นชาวจีนนำมาจากไหน แต่จะมีเข้ามาในระบบเรื่อย ๆ 

ส่งสินค้าไม่ตรงปก และสินค้าที่ไม่ได้สั่ง หลอกเก็บเงินปลายทาง
ผบช.สอท. กล่าวว่า โดยพฤติกรรมของขบวนการนี้ มีสองรูปแบบ คือ จะส่งสินค้าที่ไม่ตรงปก และไม่ได้สั่ง จากนั้นจะเก็บเงินปลายทาง โดยสินค้าส่วนใหญ่ เป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ และเป็นสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์  ซึ่งหากผู้รับปฏิเสธไม่จ่ายเงินปลายทาง ก็จะสามารถตีกลับคืนไปยังต้นทางได้ทันที ส่วนเหยื่อรายไหนที่เผลอรับหรือจ่ายเงินปลายทางนั้นถือเป็นรายได้ของแก๊งมิจฉาชีพ  ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มีรายชื่อระบุหน้ากล่องจะรู้ตัวเองว่า ไม่ได้สั่ง แต่คนในบ้าน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องจะไม่รู้ว่า ไม่ได้สั่ง จึงเผลอจ่ายเงินปลายทาง รับของไว้ให้ ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และมีอยู่ทั่วประเทศ เนื่องจากขบวนการนี้จะทำการสุ่มกระจายรายชื่อเหยื่อ  ส่วนชิ้นไหนถูกบริษัทขนส่งเอกชนตีกลับ ก็จะนำมาลอกรายชื่อกระดาษหน้ากล่องออก แปะทับรายชื่อใหม่ ส่งวนไปสู่เหยื่อรายใหม่ โดยในแต่ละวันทางหัวหน้าขบวนการ จะส่งรายชื่อไม่ต่ำกว่าวันละ 100-200 ราย

ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า จากแนวทางสืบสวน พบว่า ทำมาไม่ต่ำกว่า 5 เดือน มีเงินหมุนเวียนจากการหลอกลวงประชาชนกว่า 20 ล้านบาท อีกทั้งจากการตรวจสอบฐานข้อมูลในรายชื่อ พบรายชื่อเหยื่อกว่า 2.5 หมื่นราย ส่งสำเร็จ 1.6 หมื่นราย และตีกลับ 7 พันราย ชุดสืบสวนได้พิสูจน์ทราบ และรู้ตัวผู้เช่าอาคารดังกล่าว ที่เป็นชาวจีนแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป


ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
ผู้สื่อข่าว : เบญจมา ส้มเช้า
พิสูจน์อักษร : จิรัชยา  นวลนิ่มน้อย


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร