เปิดใจ อ.ปริญญา หอมเอนก เหยื่อรายแรกของแฮกเกอร์ 9Near | ชัวร์ก่อนแชร์ LIVE

CyberAlert!🚨 โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

“ต้องขอบคุณ คุณแฮกเกอร์ ที่ให้เกียรติผมเป็นคนแรก” อ.ปริญญาเผยหลังข้อมูลถูกขึงสู่สาธารณะ โดนสายโทรเข้ากระหน่ำ ซ้ำโดนยิง SMS ด้วยบอต แนะแฮกเกอร์หันมาพูดคุย นำทักษะความเชี่ยวชาญที่มีกลับมาปกป้องคนไทยด้วยกัน ขณะที่หน่วยงานทุกแห่งควรเรียนรู้จากบทเรียนนี้ และยกระดับความปลอดภัยข้อมูลประชาชน


จากกรณีแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ 9Near.org โดยระบุว่ามีข้อมูลส่วนตัวหลุดรั่วของคนไทย 55 ล้านคน และขีดเส้นตาย 5 เมษายน 2566 เวลา 16.00 น. ให้หน่วยงานที่คิดว่าเป็นผู้ดูแลข้อมูลนั้นติดต่อกลับ ซึ่งล่าสุดเว็บไซต์ดังกล่าวถูกปิดกั้นโดยกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

พื้นที่ส่วนบนสุดของเว็บไซต์ แฮกเกอร์วางคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์ของ “อ.ปริญญา หอมเอนก” ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อแห่งหนึ่งเกี่ยวกับกรณีข้อมูลหลุด 55 ล้านคนดังกล่าว และด้านล่างวิดีโอยังมีข้อมูลส่วนบุคคล ทั้ง ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์มือถือ


ชัวร์ก่อนแชร์ LIVE สัมภาษณ์สด อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 ซึ่งมีหลายประเด็นสำคัญและน่าสนใจ อาทิ

  • รู้สึกขอบคุณแฮกเกอร์ที่ให้เกียรติ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเป็นคนแรก ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยมีความคิดจะดูถูกฝีมือของแฮกเกอร์ เนื่องจากตนก็เคยทำงานลักษณะนี้มาก่อนในอดีตและเข้าใจดี แต่การให้สัมภาษณ์กับสื่อโดยระบุว่า ไม่รู้ว่าแฮกเกอร์จะมีข้อมูล 55 ล้านคนจริงหรือไม่นั้น เป็นการกล่าวไปตามข้อเท็จจริง และยังกล่าวด้วยว่า แฮกเกอร์อาจจะมีข้อมูลมากกว่านั้นก็ได้ เนื่องจากเห็นว่าแฮกเกอร์ผู้ที่อยู่เบื้องหลังน่าจะเป็นแฮกเกอร์ที่ค่อนข้างมีฝีมือ
  • หลายคนตื่นตระหนกว่า “ขนาดระดับอาจารย์ยังถูกแฮก แล้วฉันจะทำอย่างไร ?” เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการที่ข้อมูลหลุดรั่วครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่ตนถูกแฮกแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลส่วนตัวของตนที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะนั้น เป็นข้อมูลที่มีการมอบให้กับหน่วยงาน ห้างร้าน และบุคคลต่าง ๆ มากมาย เช่น สำเนาบัตรประชาชน การแลกบัตรเข้าอาคาร การลงทะเบียนเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน เป็นต้น
  • เมื่อข้อมูลส่วนตัวไปอยู่ในมือใคร หากจะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ได้รับการยินยอม จะมีสองทางเลือก คือ ใช้แบบไม่เปิดเผยโดยเราไม่รู้ เช่น การใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อยิงโฆษณามาหาเรา กับอีกแบบหนึ่ง คือการนำมาเปิดเผยสู่สาธารณะ เช่น กรณีที่ตนตกเป็นผู้เสียหายอยู่นี้
  • ผลจากการที่ข้อมูลส่วนตัวถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ มีผลกระทบหลายด้าน เช่น มีโทรศัพท์จากคนแปลกหน้ามากกว่า 20 สาย นอกจากนั้น ยังมีข้อความ SMS เข้ามามากกว่า 2,000 ข้อความ ซึ่งคาดว่าเป็นการทำงานของโปรแกรมที่ต้องการโจมตีหรือขโมยตัวตน
  • ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน ควรให้ความสำคัญกับการปกป้องดูแลข้อมูลของประชาชนอย่างจริงจังมากขึ้น และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  • สำหรับคำถามในแง่การดำเนินการทางกฎหมายนั้น อ.ปริญญา กล่าวว่า การบังคับใช้กฎหมายในกรณีนี้ หน่วยงานที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือ data controller จำเป็นต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เนื่องจากมีข้อมูลหลุดรั่วออกไป
  • ขณะที่แฮกเกอร์ ก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ทั้งกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ และ กฎหมาย PDPA ซึ่งจะมีโทษค่อนข้างรุนแรง
  • อ.ปริญญา ยังถือโอกาสกล่าวข้อความฝากไปถึงแฮกเกอร์ด้วยว่า อยากเชิญชวนให้หยุดการนำข้อมูลคนไทยมาเผยแพร่หรือปล่อยสู่สาธารณะ เชื่อว่าแฮกเกอร์เป็นคนที่มีฝีมือ อยากให้หันหน้ามาพูดคุยกัน และ นำความรู้ความสามารถมาใช้ปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคนไทยจากชาวต่างชาติดีกว่า
  • ในช่วงท้าย อ.ปริญญา ยังแนะนำแนวปฏิบัติ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนตัวหลุดรั่วสู่สาธารณะ ได้แก่ การตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก และเริ่มจำกัดจัดการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ทำอย่างไร เมื่อข้อมูลส่วนตัวหลุดรั่ว ?

  1. ตั้งสติ เข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้
  2. สำรวจข้อมูลที่รั่ว เช่น
  • ชื่อ นามสกุล
  • วันเดือนปีเกิด (เปลี่ยนไม่ได้)
  • เลขบัตรประจำตัวประชาชน (เปลี่ยนไม่ได้)
  • ที่อยู่
  • เบอร์โทรมือถือ
  1. ตั้งคำถามว่ามีระบบใดที่พิสูจน์ตัวตนด้วยข้อมูลเหล่านี้บ้าง
  • ถ้า username เป็น email ส่วนตัว ห้ามใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นรหัสผ่านเด็ดขาด
  • ยกเลิกบริการที่ผูกกับเบอร์โทรนั้นไว้ชั่วคราว หรือเปลี่ยนเบอร์
  • ทดสอบการพิสูจน์ตัวตนทางโทรศัพท์ – ลองโทรศัพท์ไปที่ค่ายมือถือ/ธนาคาร/บัตรเครดิต ทดลองแจ้งเปลี่ยนข้อมูลที่อยู่ ออกซิมใหม่ ลืมรหัส หากใช้ข้อมูลแค่ 5 ข้อนี้แล้ว เชื่อว่าเป็นตัวเรา ยอมให้เปลี่ยนได้ นับว่าบริการนั้นไม่ปลอดภัย
  1. หากมีคนติดต่อมา และแม้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้…
  • ขอโทรกลับ – มิจฉาชีพจะไม่มีทางให้เบอร์ติดต่อกลับ
  • ไม่หลงเชื่อง่าย ๆ – อาจมีกลอุบายการหลอกลวงต่าง ๆ ในระหว่างการโทรศัพท์แอบอ้าง

สามารถติดตามรับชมเนื้อหาฉบับเต็มได้ที่คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์นี้

[LIVE] ทำอย่างไร ? หากข้อมูลส่วนตัวหลุดรั่ว https://www.youtube.com/watch?v=_Ik6SNZCrvM


อ่านเพิ่มเติม : MCOT DIGITAL : ปริญญา ถอดบทเรียน แนะเลิกใช้ข้อมูลหลุดยืนยันตัวตน

– ทีมข่าวไซเบอร์ ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ –

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]