ชัวร์ก่อนแชร์ เลือกตั้ง 66 โดย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ | กัญญาลักษณ์ ยอดเยี่ยมแกร, ปพิชยา นัยเนตร, พีรพล อนุตรโสตถิ์
การยุบสภาในวันที่ 20 มีนาคม 2566 นับเป็นการยุบสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 14 ของประวัติศาสตร์การเมืองไทย หลังเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ซึ่งการยุบสภาในแต่ละครั้ง มีสาเหตุและบริบทแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ดังข้อมูลและข้อเท็จจริงที่รวบรวมมานำเสนอในบทความนี้
รู้จัก “ยุบสภา”
“ยุบสภา” หรือคำเต็มคือ การยุบสภาผู้แทนราษฎร ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Dissolution of Parliament หมายถึง การทำให้การดำรงสภาพของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงพร้อมกันก่อนครบกำหนดตามวาระ โดยพระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกฤษฎีกาตามคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรี มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาพ้นจากตำแหน่งพร้อมกัน เพื่อนำไปสู่จัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่
ประเทศไทย เคยมีการประกาศ “ยุบสภา” มาแล้ว 15 ครั้ง โดยแบ่งเป็น การยุบสภาผู้แทนราษฎร 14 ครั้ง และ การยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 1 ครั้ง
การยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2516
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2516 ราชกิจจานุเบกษาประกาศ พระราชกฤษฎีกายุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีเหตุผลว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจำนวนมากได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกภาพ และประกอบกับสมาชิกที่เหลืออยู่มีจำนวนไม่เพียงพอที่จะเป็นองค์ประชุม จึงยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อจะได้แต่งตั้งขึ้นใหม่ ทั้งนี้ นับเป็นการยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว
ยุบสภา กับ การกำหนดวันเลือกตั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 ระบุว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา และให้กระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน และภายใน 5 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ขณะที่มาตรา 102 ระบุว่า หากอายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง (ตามวาระ) จะต้องมีการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน
เหตุผลในการ “ยุบสภา”
ในการยุบสภาแต่ละครั้ง มักจะมีองค์ประกอบของมูลเหตุ เหตุการณ์ และสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบางครั้งอาจจะสอดคล้องกับเหตุผลที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ใน “พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร” แต่ละฉบับ ในปัจจุบันสามารถค้นหาและเข้าถึงพระราชกฤษฎีกาทุกฉบับได้ผ่านทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
ไทม์ไลน์ การยุบสภาผู้แทนราษฎร ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
พ.ศ. 2481 / ค.ศ. 1938
การยุบสภาครั้งที่ 1
• นายกรัฐมนตรี : พระยาพหลพลหยุหเสนา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 11 กันยายน พ.ศ. 2481
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1106068.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา
เหตุผลที่ระบุในแถลงการณ์โดยสังเขป : เนื่องจากรัฐบาลรู้สึกว่าไม่สามารถจะบริหารราชการของประเทศในความไว้วางใจของสภาฯ ได้ โดยเฉพาะจากกรณีที่มีการเสนอญัตติขอแก้ไขข้อบังคับการประชุม และการปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 68 เกี่ยวกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ โดยเสนอขอให้รัฐบาลจัดทำรายละเอียดของงบประมาณประจำปีในเวลาเสนองบต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เนื่องจากเห็นว่าในการพิจารณารับหลักการขั้นต้นไม่มีความจำเป็นต้องจัดทำรายละเอียดจำนวนหลายร้อยหน้า และก็ได้มีการพิจารณาข้อมูลจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและปรับแก้มาหลายขั้นแล้ว รวมทั้งรายละเอียดบางข้อก็ไม่อาจเปิดเผยได้ ซึ่งปรากฏว่า มีการรวบรัดลงมติรับหลักการ โดยที่รัฐบาลไม่มีโอกาสแถลงชี้แจงอีก คณะรัฐมนตรีจึงมีความประสงค์จะขอลาออก แต่คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เห็นว่าสถานการณ์โลกยังปั่นป่วนคับขัน และประกอบกับจะต้องเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสู่พระนคร รัฐบาลคณะนี้จึงควรบริหารราชการต่อไป นายกรัฐมนตรีจึงยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่
พ.ศ. 2488 / ค.ศ. 1945
การยุบสภาครั้งที่ 2
• นายกรัฐมนตรี : ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 15 ตุลาคม พ.ศ. 2488
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1121780.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : หาทางออกหรือแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง
เหตุผลที่ระบุในแถลงการณ์โดยสังเขป : ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง รัฐบาลเห็นว่า เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันได้รับเลือกตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 เพราะมีพระราชบัญญัติขยายกำหนดเวลาให้อยู่ในตำแหน่งต่ออีก 2 ครั้ง นับว่าเป็นเวลานานเกินควร ย่อมเป็นเหตุให้จิตใจและความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนมากเหินห่างจากเจตนาและความประสงค์อันแท้จริงของราษฎร โดยเฉพาะกรณีที่ สภาฯ ลงมติไม่เห็นชอบและให้ตัดร่างพระราชบัญญัติอาชญากรสงครามที่รัฐบาลเสนอ รัฐบาลจึงนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาให้พระมหากษัตริย์ทรงยุบสภา เพื่อเปิดโอกาสให้ราษฎรได้เลือกตั้งผู้แทนของตนใหม่
พ.ศ. 2519 / ค.ศ. 1976
การยุบสภาครั้งที่ 3
• นายกรัฐมนตรี : หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 12 มกราคม พ.ศ. 2519
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 4 เมษายน พ.ศ. 2519
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1330006.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันประกอบด้วยพรรคการเมืองต่าง ๆ หลายพรรค แต่ไม่มีพรรคใดมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้งมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาจัดรัฐบาล เป็นเหตุให้เกิดอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน และถึงแม้ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่ก็ตามปัญหาดังกล่าวก็ไม่สามารถยุติลงได้ จึงเห็นสมควรให้มีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่
พ.ศ. 2526 / ค.ศ. 1983
การยุบสภาครั้งที่ 4
• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 19 มีนาคม พ.ศ. 2526
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 18 เมษายน พ.ศ. 2526
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1517361.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะรัฐบาลได้เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง 4 ครั้ง ประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีความคิดเห็นก้ำกึ่งกัน หากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามวิธีการใหม่อาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้ จึงสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่
พ.ศ. 2529 / ค.ศ. 1986
การยุบสภาครั้งที่ 5
• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2529
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1566887.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2529 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่อนุมัติ เป็นเหตุให้พระราชกำหนดนั้นตกไป ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองของพรรคการเมืองบางพรรค หากให้สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไปอาจเกิดผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ
พ.ศ. 2531 / ค.ศ. 1988
การยุบสภาครั้งที่ 6
• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 29 เมษายน พ.ศ. 2531
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1584784.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : นับตั้งแต่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
พ.ศ. 2529 เป็นต้นมา พรรคการเมืองหลายพรรคไม่สามารถที่จะดำเนินการในระบอบพรรคการเมืองได้อย่างมีเอกภาพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคการเมืองยังไม่ยอมรับความคิดเห็นข้างมากของสมาชิกในพรรคของตน อันขัดต่อวิถีประชาธิปไตย และก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จึงเห็นสมควรให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ และจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่
พ.ศ. 2535 / ค.ศ. 1992
การยุบสภาครั้งที่ 7
• นายกรัฐมนตรี : นายอานันท์ ปันยารชุน
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 13 กันยายน พ.ศ. 2535
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1625398.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : หาทางออกหรือแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : ภายหลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กราบบังคมทูลฯ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2535 ขอให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะกิจ ในขณะที่ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเมือง เพื่อจะได้ใช้กระบวนการทางรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชน จึงเป็นเวลาอันสมควรที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่
พ.ศ. 2538 / ค.ศ. 1995
การยุบสภาครั้งที่ 8
• นายกรัฐมนตรี : นายชวน หลีกภัย
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1658096.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : สภาผู้แทนราษฎร ณ ขณะนั้นประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองใดมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล จากภาวการณ์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองเกิดความแตกแยกจนไม่สามารถดำเนินการทางการเมืองได้อย่างมีเอกภาพ ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการพัฒนาประเทศ แม้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นอีกก็ตามก็ไม่ ปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวก็ไม่สามารถสิ้นสุดลง จึงเห็นสมควรให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่
พ.ศ. 2539 / ค.ศ. 1996
การยุบสภา ครั้งที่ 9
• นายกรัฐมนตรี : นายบรรหาร ศิลปอาชา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 27 กันยายน พ.ศ. 2539
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1670492.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : สภาผู้แทนราษฎรขณะนั้นประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลเพียงลำพังได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองอีกหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถึงแม้จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้โดยง่าย อีกทั้งยังเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขความขัดแย้งดังกล่าวแต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และกระทบต่อประโยชน์ส่วนรวมจึงเห็นควรที่จะมีการยุบสภา
พ.ศ. 2543 / ค.ศ. 2000
การยุบสภาครั้งที่ 10
• นายกรัฐมนตรี : นายชวน หลีกภัย
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 6 มกราคม พ.ศ. 2544
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/19429.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : หลังคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเพื่อเร่งดำเนินการทั้งหลายให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด และเร่งแก้ไขภาวะวิกฤติของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองลุล่วงไปในระดับหนึ่ง ทางด้านนิติบัญญัติ ก็ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและจัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปีละสองสมัย ครบทั้งแปดสมัยประชุม ตลอดระยะเวลาสี่ปีของอายุสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จนสามารถตราขึ้นใช้บังคับเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปโดยเรียบร้อย จึงเห็นสมควรที่จะคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชนด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎร
พ.ศ. 2549 / ค.ศ. 2006
การยุบสภาครั้งที่ 11
• นายกรัฐมนตรี : พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 เมษายน พ.ศ. 2549
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/182649.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมติเห็นชอบข้างมากเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนโดยเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารราชการแผ่นดินแล้วนั้น ต่อมาเกิดการชุมนุมสาธารณะตั้งข้อเรียกร้องในทางการเมือง ขยายตัวไปในทางที่กว้างขวางและอาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งส่อเค้าว่าจะมีการเผชิญหน้าจนอาจปะทะกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และอาจมีการสอดแทรกฉวยโอกาสจากผู้ที่ประสงค์จะเห็นความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จนลุกลามถึงขั้นก่อการจลาจลวุ่นวายสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้รัฐบาลพยายามดำเนินการขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ แล้วก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาได้ดังนั้นจึงคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปสู่ประชาชนด้วยการยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
พ.ศ. 2554 / ค.ศ. 2011
การยุบสภาครั้งที่ 12
• นายกรัฐมนตรี : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1877734.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : จากวิกฤติการณ์ภายในประเทศทั้งในด้านผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกตกต่ำและเกิดปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ รัฐบาลได้เข้ามาคลี่คลายปัญหาดังกล่าว กระทั่งสามารถฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากภาวะวิกฤตและกลับคืนสู่ภาวะปกติ ด้านปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมก็ได้รับการแก้ไขโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจนผ่อนคลายความรุนแรงลงแล้ว กอปรกับรัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเห็นสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรและจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป
พ.ศ. 2556 / ค.ศ. 2013
การยุบสภาครั้งที่ 13
• นายกรัฐมนตรี : นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1992975.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากเกิดปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ ส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนชื่อเสียงของประเทศชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามคลี่คลายปัญหาด้วยสันติวิธีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและวิถีทางของรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม แต่ไม่อาจยุติปัญหาดังกล่าวได้ จึงเห็นสมควรยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ และให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
พ.ศ. 2566 / ค.ศ. 2023
การยุบสภาครั้งที่ 14
• นายกรัฐมนตรี : พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา มอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนด
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140A022N0000000000100.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : สภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ครบ 4 ปี
เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 และปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วและเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
การยุบสภาแต่ละครั้ง เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังเป็นการส่งสัญญาณแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การใช้อำนาจการตัดสินใจทางการเมืองผ่านการเลือกตั้งทั่วไปในอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้า
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter