สรุปไทม์ไลน์ “ยุบสภา” 14 ครั้ง แห่งประวัติศาสตร์การเมืองไทย | FACTSHEET

สรุปไทม์ไลน์ “ยุบสภา” 14 ครั้ง แห่งประวัติศาสตร์การเมืองไทย | ชัวร์ก่อนแชร์ เลือกตั้ง 66
ชัวร์ก่อนแชร์ เลือกตั้ง 66 โดย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ | กัญญาลักษณ์ ยอดเยี่ยมแกร, ปพิชยา นัยเนตร, พีรพล อนุตรโสตถิ์


การยุบสภาในวันที่ 20 มีนาคม 2566 นับเป็นการยุบสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 14 ของประวัติศาสตร์การเมืองไทย หลังเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ซึ่งการยุบสภาในแต่ละครั้ง มีสาเหตุและบริบทแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ดังข้อมูลและข้อเท็จจริงที่รวบรวมมานำเสนอในบทความนี้

รู้จัก “ยุบสภา”

         “ยุบสภา” หรือคำเต็มคือ การยุบสภาผู้แทนราษฎร ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Dissolution of Parliament หมายถึง การทำให้การดำรงสภาพของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงพร้อมกันก่อนครบกำหนดตามวาระ โดยพระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกฤษฎีกาตามคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรี มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาพ้นจากตำแหน่งพร้อมกัน เพื่อนำไปสู่จัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่
         ประเทศไทย เคยมีการประกาศ “ยุบสภา” มาแล้ว 15 ครั้ง โดยแบ่งเป็น การยุบสภาผู้แทนราษฎร 14 ครั้ง และ การยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 1 ครั้ง


การยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2516

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2516 ราชกิจจานุเบกษาประกาศ พระราชกฤษฎีกายุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีเหตุผลว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจำนวนมากได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกภาพ และประกอบกับสมาชิกที่เหลืออยู่มีจำนวนไม่เพียงพอที่จะเป็นองค์ประชุม จึงยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อจะได้แต่งตั้งขึ้นใหม่ ทั้งนี้ นับเป็นการยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว



ยุบสภา กับ การกำหนดวันเลือกตั้ง

         รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 ระบุว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา และให้กระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน และภายใน 5 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ขณะที่มาตรา 102 ระบุว่า หากอายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง (ตามวาระ) จะต้องมีการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน


เหตุผลในการ “ยุบสภา”

         ในการยุบสภาแต่ละครั้ง มักจะมีองค์ประกอบของมูลเหตุ เหตุการณ์ และสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบางครั้งอาจจะสอดคล้องกับเหตุผลที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ใน “พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร” แต่ละฉบับ ในปัจจุบันสามารถค้นหาและเข้าถึงพระราชกฤษฎีกาทุกฉบับได้ผ่านทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา


ไทม์ไลน์ การยุบสภาผู้แทนราษฎร ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

พ.ศ. 2481 / ค.ศ. 1938
การยุบสภาครั้งที่ 1

• นายกรัฐมนตรี : พระยาพหลพลหยุหเสนา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 11 กันยายน พ.ศ. 2481
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1106068.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา


เหตุผลที่ระบุในแถลงการณ์โดยสังเขป : เนื่องจากรัฐบาลรู้สึกว่าไม่สามารถจะบริหารราชการของประเทศในความไว้วางใจของสภาฯ ได้ โดยเฉพาะจากกรณีที่มีการเสนอญัตติขอแก้ไขข้อบังคับการประชุม และการปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 68 เกี่ยวกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ โดยเสนอขอให้รัฐบาลจัดทำรายละเอียดของงบประมาณประจำปีในเวลาเสนองบต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เนื่องจากเห็นว่าในการพิจารณารับหลักการขั้นต้นไม่มีความจำเป็นต้องจัดทำรายละเอียดจำนวนหลายร้อยหน้า และก็ได้มีการพิจารณาข้อมูลจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและปรับแก้มาหลายขั้นแล้ว รวมทั้งรายละเอียดบางข้อก็ไม่อาจเปิดเผยได้ ซึ่งปรากฏว่า มีการรวบรัดลงมติรับหลักการ โดยที่รัฐบาลไม่มีโอกาสแถลงชี้แจงอีก คณะรัฐมนตรีจึงมีความประสงค์จะขอลาออก แต่คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เห็นว่าสถานการณ์โลกยังปั่นป่วนคับขัน และประกอบกับจะต้องเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสู่พระนคร รัฐบาลคณะนี้จึงควรบริหารราชการต่อไป นายกรัฐมนตรีจึงยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่


พ.ศ. 2488 / ค.ศ. 1945
การยุบสภาครั้งที่ 2
• นายกรัฐมนตรี : ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 15 ตุลาคม พ.ศ. 2488
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1121780.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : หาทางออกหรือแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในแถลงการณ์โดยสังเขป : ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง รัฐบาลเห็นว่า เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันได้รับเลือกตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 เพราะมีพระราชบัญญัติขยายกำหนดเวลาให้อยู่ในตำแหน่งต่ออีก 2 ครั้ง นับว่าเป็นเวลานานเกินควร ย่อมเป็นเหตุให้จิตใจและความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนมากเหินห่างจากเจตนาและความประสงค์อันแท้จริงของราษฎร โดยเฉพาะกรณีที่ สภาฯ ลงมติไม่เห็นชอบและให้ตัดร่างพระราชบัญญัติอาชญากรสงครามที่รัฐบาลเสนอ รัฐบาลจึงนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาให้พระมหากษัตริย์ทรงยุบสภา เพื่อเปิดโอกาสให้ราษฎรได้เลือกตั้งผู้แทนของตนใหม่


พ.ศ. 2519 / ค.ศ. 1976
การยุบสภาครั้งที่ 3

• นายกรัฐมนตรี : หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 12 มกราคม พ.ศ. 2519
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 4 เมษายน พ.ศ. 2519
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1330006.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันประกอบด้วยพรรคการเมืองต่าง ๆ หลายพรรค แต่ไม่มีพรรคใดมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้งมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาจัดรัฐบาล เป็นเหตุให้เกิดอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน และถึงแม้ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่ก็ตามปัญหาดังกล่าวก็ไม่สามารถยุติลงได้ จึงเห็นสมควรให้มีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่


พ.ศ. 2526 / ค.ศ. 1983
การยุบสภาครั้งที่ 4

• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 19 มีนาคม พ.ศ. 2526
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 18 เมษายน พ.ศ. 2526
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1517361.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะรัฐบาลได้เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง 4 ครั้ง ประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีความคิดเห็นก้ำกึ่งกัน หากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามวิธีการใหม่อาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้ จึงสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่


พ.ศ. 2529 / ค.ศ. 1986
การยุบสภาครั้งที่ 5

• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2529
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1566887.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2529 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่อนุมัติ เป็นเหตุให้พระราชกำหนดนั้นตกไป ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองของพรรคการเมืองบางพรรค หากให้สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไปอาจเกิดผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ


พ.ศ. 2531 / ค.ศ. 1988
การยุบสภาครั้งที่ 6

• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 29 เมษายน พ.ศ. 2531
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1584784.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : นับตั้งแต่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
พ.ศ. 2529 เป็นต้นมา พรรคการเมืองหลายพรรคไม่สามารถที่จะดำเนินการในระบอบพรรคการเมืองได้อย่างมีเอกภาพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคการเมืองยังไม่ยอมรับความคิดเห็นข้างมากของสมาชิกในพรรคของตน อันขัดต่อวิถีประชาธิปไตย และก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จึงเห็นสมควรให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ และจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่


พ.ศ. 2535 / ค.ศ. 1992
การยุบสภาครั้งที่ 7

• นายกรัฐมนตรี : นายอานันท์ ปันยารชุน
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 13 กันยายน พ.ศ. 2535
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1625398.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : หาทางออกหรือแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : ภายหลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กราบบังคมทูลฯ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2535 ขอให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะกิจ ในขณะที่ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเมือง เพื่อจะได้ใช้กระบวนการทางรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชน จึงเป็นเวลาอันสมควรที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่


พ.ศ. 2538 / ค.ศ. 1995
การยุบสภาครั้งที่ 8
• นายกรัฐมนตรี : นายชวน หลีกภัย
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1658096.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : สภาผู้แทนราษฎร ณ ขณะนั้นประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองใดมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล จากภาวการณ์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองเกิดความแตกแยกจนไม่สามารถดำเนินการทางการเมืองได้อย่างมีเอกภาพ ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการพัฒนาประเทศ แม้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นอีกก็ตามก็ไม่ ปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวก็ไม่สามารถสิ้นสุดลง จึงเห็นสมควรให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่


พ.ศ. 2539 / ค.ศ. 1996
การยุบสภา ครั้งที่ 9

• นายกรัฐมนตรี : นายบรรหาร ศิลปอาชา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 27 กันยายน พ.ศ. 2539
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1670492.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : สภาผู้แทนราษฎรขณะนั้นประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลเพียงลำพังได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองอีกหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถึงแม้จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้โดยง่าย อีกทั้งยังเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขความขัดแย้งดังกล่าวแต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และกระทบต่อประโยชน์ส่วนรวมจึงเห็นควรที่จะมีการยุบสภา


พ.ศ. 2543 / ค.ศ. 2000
การยุบสภาครั้งที่ 10
• นายกรัฐมนตรี : นายชวน หลีกภัย
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 6 มกราคม พ.ศ. 2544
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/19429.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : หลังคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเพื่อเร่งดำเนินการทั้งหลายให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด และเร่งแก้ไขภาวะวิกฤติของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองลุล่วงไปในระดับหนึ่ง ทางด้านนิติบัญญัติ ก็ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและจัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปีละสองสมัย ครบทั้งแปดสมัยประชุม ตลอดระยะเวลาสี่ปีของอายุสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จนสามารถตราขึ้นใช้บังคับเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปโดยเรียบร้อย จึงเห็นสมควรที่จะคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชนด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎร


พ.ศ. 2549 / ค.ศ. 2006
การยุบสภาครั้งที่ 11

• นายกรัฐมนตรี : พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 เมษายน พ.ศ. 2549
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/182649.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมติเห็นชอบข้างมากเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนโดยเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารราชการแผ่นดินแล้วนั้น ต่อมาเกิดการชุมนุมสาธารณะตั้งข้อเรียกร้องในทางการเมือง ขยายตัวไปในทางที่กว้างขวางและอาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งส่อเค้าว่าจะมีการเผชิญหน้าจนอาจปะทะกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และอาจมีการสอดแทรกฉวยโอกาสจากผู้ที่ประสงค์จะเห็นความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จนลุกลามถึงขั้นก่อการจลาจลวุ่นวายสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้รัฐบาลพยายามดำเนินการขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ แล้วก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาได้ดังนั้นจึงคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปสู่ประชาชนด้วยการยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป


พ.ศ. 2554 / ค.ศ. 2011
การยุบสภาครั้งที่ 12

• นายกรัฐมนตรี : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1877734.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : จากวิกฤติการณ์ภายในประเทศทั้งในด้านผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกตกต่ำและเกิดปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ รัฐบาลได้เข้ามาคลี่คลายปัญหาดังกล่าว กระทั่งสามารถฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากภาวะวิกฤตและกลับคืนสู่ภาวะปกติ ด้านปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมก็ได้รับการแก้ไขโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจนผ่อนคลายความรุนแรงลงแล้ว กอปรกับรัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเห็นสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรและจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป


พ.ศ. 2556 / ค.ศ. 2013
การยุบสภาครั้งที่ 13

• นายกรัฐมนตรี : นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1992975.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากเกิดปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ ส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนชื่อเสียงของประเทศชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามคลี่คลายปัญหาด้วยสันติวิธีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและวิถีทางของรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม แต่ไม่อาจยุติปัญหาดังกล่าวได้ จึงเห็นสมควรยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ และให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง


พ.ศ. 2566 / ค.ศ. 2023
การยุบสภาครั้งที่ 14

• นายกรัฐมนตรี : พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา มอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนด
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140A022N0000000000100.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : สภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ครบ 4 ปี

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 และปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วและเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง


การยุบสภาแต่ละครั้ง เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังเป็นการส่งสัญญาณแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การใช้อำนาจการตัดสินใจทางการเมืองผ่านการเลือกตั้งทั่วไปในอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้า

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ตะวันออกฝ-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก

กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดน่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง […]

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]