สรุปไทม์ไลน์ “ยุบสภา” 14 ครั้ง แห่งประวัติศาสตร์การเมืองไทย | FACTSHEET

สรุปไทม์ไลน์ “ยุบสภา” 14 ครั้ง แห่งประวัติศาสตร์การเมืองไทย | ชัวร์ก่อนแชร์ เลือกตั้ง 66
ชัวร์ก่อนแชร์ เลือกตั้ง 66 โดย ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ | กัญญาลักษณ์ ยอดเยี่ยมแกร, ปพิชยา นัยเนตร, พีรพล อนุตรโสตถิ์


การยุบสภาในวันที่ 20 มีนาคม 2566 นับเป็นการยุบสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 14 ของประวัติศาสตร์การเมืองไทย หลังเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ซึ่งการยุบสภาในแต่ละครั้ง มีสาเหตุและบริบทแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ดังข้อมูลและข้อเท็จจริงที่รวบรวมมานำเสนอในบทความนี้

รู้จัก “ยุบสภา”

         “ยุบสภา” หรือคำเต็มคือ การยุบสภาผู้แทนราษฎร ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Dissolution of Parliament หมายถึง การทำให้การดำรงสภาพของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงพร้อมกันก่อนครบกำหนดตามวาระ โดยพระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชกฤษฎีกาตามคำกราบบังคมทูลของนายกรัฐมนตรี มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาพ้นจากตำแหน่งพร้อมกัน เพื่อนำไปสู่จัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่
         ประเทศไทย เคยมีการประกาศ “ยุบสภา” มาแล้ว 15 ครั้ง โดยแบ่งเป็น การยุบสภาผู้แทนราษฎร 14 ครั้ง และ การยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 1 ครั้ง


การยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2516

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2516 ราชกิจจานุเบกษาประกาศ พระราชกฤษฎีกายุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีเหตุผลว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจำนวนมากได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกภาพ และประกอบกับสมาชิกที่เหลืออยู่มีจำนวนไม่เพียงพอที่จะเป็นองค์ประชุม จึงยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อจะได้แต่งตั้งขึ้นใหม่ ทั้งนี้ นับเป็นการยุบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว



ยุบสภา กับ การกำหนดวันเลือกตั้ง

         รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 103 ระบุว่า การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา และให้กระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน และภายใน 5 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ขณะที่มาตรา 102 ระบุว่า หากอายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง (ตามวาระ) จะต้องมีการกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน


เหตุผลในการ “ยุบสภา”

         ในการยุบสภาแต่ละครั้ง มักจะมีองค์ประกอบของมูลเหตุ เหตุการณ์ และสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งในบางครั้งอาจจะสอดคล้องกับเหตุผลที่ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ใน “พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร” แต่ละฉบับ ในปัจจุบันสามารถค้นหาและเข้าถึงพระราชกฤษฎีกาทุกฉบับได้ผ่านทางเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา


ไทม์ไลน์ การยุบสภาผู้แทนราษฎร ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

พ.ศ. 2481 / ค.ศ. 1938
การยุบสภาครั้งที่ 1

• นายกรัฐมนตรี : พระยาพหลพลหยุหเสนา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 11 กันยายน พ.ศ. 2481
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1106068.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา


เหตุผลที่ระบุในแถลงการณ์โดยสังเขป : เนื่องจากรัฐบาลรู้สึกว่าไม่สามารถจะบริหารราชการของประเทศในความไว้วางใจของสภาฯ ได้ โดยเฉพาะจากกรณีที่มีการเสนอญัตติขอแก้ไขข้อบังคับการประชุม และการปรึกษาของสภาผู้แทนราษฎร ข้อ 68 เกี่ยวกับการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ โดยเสนอขอให้รัฐบาลจัดทำรายละเอียดของงบประมาณประจำปีในเวลาเสนองบต่อรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เนื่องจากเห็นว่าในการพิจารณารับหลักการขั้นต้นไม่มีความจำเป็นต้องจัดทำรายละเอียดจำนวนหลายร้อยหน้า และก็ได้มีการพิจารณาข้อมูลจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและปรับแก้มาหลายขั้นแล้ว รวมทั้งรายละเอียดบางข้อก็ไม่อาจเปิดเผยได้ ซึ่งปรากฏว่า มีการรวบรัดลงมติรับหลักการ โดยที่รัฐบาลไม่มีโอกาสแถลงชี้แจงอีก คณะรัฐมนตรีจึงมีความประสงค์จะขอลาออก แต่คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เห็นว่าสถานการณ์โลกยังปั่นป่วนคับขัน และประกอบกับจะต้องเตรียมการรับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสู่พระนคร รัฐบาลคณะนี้จึงควรบริหารราชการต่อไป นายกรัฐมนตรีจึงยุบสภาเพื่อให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่


พ.ศ. 2488 / ค.ศ. 1945
การยุบสภาครั้งที่ 2
• นายกรัฐมนตรี : ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 15 ตุลาคม พ.ศ. 2488
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1121780.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : หาทางออกหรือแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในแถลงการณ์โดยสังเขป : ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง รัฐบาลเห็นว่า เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันได้รับเลือกตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2481 เพราะมีพระราชบัญญัติขยายกำหนดเวลาให้อยู่ในตำแหน่งต่ออีก 2 ครั้ง นับว่าเป็นเวลานานเกินควร ย่อมเป็นเหตุให้จิตใจและความคิดเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนมากเหินห่างจากเจตนาและความประสงค์อันแท้จริงของราษฎร โดยเฉพาะกรณีที่ สภาฯ ลงมติไม่เห็นชอบและให้ตัดร่างพระราชบัญญัติอาชญากรสงครามที่รัฐบาลเสนอ รัฐบาลจึงนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาให้พระมหากษัตริย์ทรงยุบสภา เพื่อเปิดโอกาสให้ราษฎรได้เลือกตั้งผู้แทนของตนใหม่


พ.ศ. 2519 / ค.ศ. 1976
การยุบสภาครั้งที่ 3

• นายกรัฐมนตรี : หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 12 มกราคม พ.ศ. 2519
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 4 เมษายน พ.ศ. 2519
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1330006.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรปัจจุบันประกอบด้วยพรรคการเมืองต่าง ๆ หลายพรรค แต่ไม่มีพรรคใดมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้งมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาจัดรัฐบาล เป็นเหตุให้เกิดอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน และถึงแม้ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นใหม่ก็ตามปัญหาดังกล่าวก็ไม่สามารถยุติลงได้ จึงเห็นสมควรให้มีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่


พ.ศ. 2526 / ค.ศ. 1983
การยุบสภาครั้งที่ 4

• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 19 มีนาคม พ.ศ. 2526
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 18 เมษายน พ.ศ. 2526
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1517361.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคณะรัฐบาลได้เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง 4 ครั้ง ประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีความคิดเห็นก้ำกึ่งกัน หากมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามวิธีการใหม่อาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองได้ จึงสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่


พ.ศ. 2529 / ค.ศ. 1986
การยุบสภาครั้งที่ 5

• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2529
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1566887.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากรัฐบาลได้ออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2529 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่อนุมัติ เป็นเหตุให้พระราชกำหนดนั้นตกไป ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองของพรรคการเมืองบางพรรค หากให้สภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไปอาจเกิดผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ


พ.ศ. 2531 / ค.ศ. 1988
การยุบสภาครั้งที่ 6

• นายกรัฐมนตรี : พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 29 เมษายน พ.ศ. 2531
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1584784.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในรัฐสภา

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : นับตั้งแต่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
พ.ศ. 2529 เป็นต้นมา พรรคการเมืองหลายพรรคไม่สามารถที่จะดำเนินการในระบอบพรรคการเมืองได้อย่างมีเอกภาพ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคการเมืองยังไม่ยอมรับความคิดเห็นข้างมากของสมาชิกในพรรคของตน อันขัดต่อวิถีประชาธิปไตย และก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จึงเห็นสมควรให้มีการยุบสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ และจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่


พ.ศ. 2535 / ค.ศ. 1992
การยุบสภาครั้งที่ 7

• นายกรัฐมนตรี : นายอานันท์ ปันยารชุน
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 13 กันยายน พ.ศ. 2535
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1625398.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : หาทางออกหรือแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : ภายหลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กราบบังคมทูลฯ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2535 ขอให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นการเฉพาะกิจ ในขณะที่ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเมือง เพื่อจะได้ใช้กระบวนการทางรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชน จึงเป็นเวลาอันสมควรที่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นใหม่


พ.ศ. 2538 / ค.ศ. 1995
การยุบสภาครั้งที่ 8
• นายกรัฐมนตรี : นายชวน หลีกภัย
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1658096.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : สภาผู้แทนราษฎร ณ ขณะนั้นประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองใดมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล จากภาวการณ์ที่ผ่านมา พรรคการเมืองเกิดความแตกแยกจนไม่สามารถดำเนินการทางการเมืองได้อย่างมีเอกภาพ ทำให้เกิดอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินและการพัฒนาประเทศ แม้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นอีกก็ตามก็ไม่ ปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวก็ไม่สามารถสิ้นสุดลง จึงเห็นสมควรให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไปขึ้นใหม่


พ.ศ. 2539 / ค.ศ. 1996
การยุบสภา ครั้งที่ 9

• นายกรัฐมนตรี : นายบรรหาร ศิลปอาชา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 27 กันยายน พ.ศ. 2539
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1670492.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : ความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : สภาผู้แทนราษฎรขณะนั้นประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค แต่ไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลเพียงลำพังได้ จำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองอีกหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถึงแม้จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่ก็ไม่สามารถทำได้โดยง่าย อีกทั้งยังเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล แม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขความขัดแย้งดังกล่าวแต่ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และกระทบต่อประโยชน์ส่วนรวมจึงเห็นควรที่จะมีการยุบสภา


พ.ศ. 2543 / ค.ศ. 2000
การยุบสภาครั้งที่ 10
• นายกรัฐมนตรี : นายชวน หลีกภัย
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 6 มกราคม พ.ศ. 2544
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/19429.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : หลังคณะรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเพื่อเร่งดำเนินการทั้งหลายให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด และเร่งแก้ไขภาวะวิกฤติของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองลุล่วงไปในระดับหนึ่ง ทางด้านนิติบัญญัติ ก็ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและจัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรปีละสองสมัย ครบทั้งแปดสมัยประชุม ตลอดระยะเวลาสี่ปีของอายุสภาผู้แทนราษฎร และรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จนสามารถตราขึ้นใช้บังคับเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปโดยเรียบร้อย จึงเห็นสมควรที่จะคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปให้ประชาชนด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎร


พ.ศ. 2549 / ค.ศ. 2006
การยุบสภาครั้งที่ 11

• นายกรัฐมนตรี : พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 เมษายน พ.ศ. 2549
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/182649.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีตามมติเห็นชอบข้างมากเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนโดยเปิดเผยในสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นบริหารราชการแผ่นดินแล้วนั้น ต่อมาเกิดการชุมนุมสาธารณะตั้งข้อเรียกร้องในทางการเมือง ขยายตัวไปในทางที่กว้างขวางและอาจรุนแรงขึ้น รวมทั้งส่อเค้าว่าจะมีการเผชิญหน้าจนอาจปะทะกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และอาจมีการสอดแทรกฉวยโอกาสจากผู้ที่ประสงค์จะเห็นความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จนลุกลามถึงขั้นก่อการจลาจลวุ่นวายสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้รัฐบาลพยายามดำเนินการขอเปิดอภิปรายทั่วไปฯ แล้วก็ยังไม่อาจแก้ปัญหาได้ดังนั้นจึงคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปสู่ประชาชนด้วยการยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป


พ.ศ. 2554 / ค.ศ. 2011
การยุบสภาครั้งที่ 12

• นายกรัฐมนตรี : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1877734.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : จากวิกฤติการณ์ภายในประเทศทั้งในด้านผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกตกต่ำและเกิดปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ รัฐบาลได้เข้ามาคลี่คลายปัญหาดังกล่าว กระทั่งสามารถฟื้นฟูสภาวะเศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากภาวะวิกฤตและกลับคืนสู่ภาวะปกติ ด้านปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมก็ได้รับการแก้ไขโดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจนผ่อนคลายความรุนแรงลงแล้ว กอปรกับรัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ของบ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเห็นสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรและจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป


พ.ศ. 2556 / ค.ศ. 2013
การยุบสภาครั้งที่ 13

• นายกรัฐมนตรี : นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/1992975.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : เพื่อแก้ปัญหาและวิกฤตการณ์ทางการเมือง

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากเกิดปัญหาความขัดแย้งและความแตกแยกของชนในชาติ ส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนชื่อเสียงของประเทศชาติ ทั้งนี้ รัฐบาลได้พยายามคลี่คลายปัญหาด้วยสันติวิธีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและวิถีทางของรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม แต่ไม่อาจยุติปัญหาดังกล่าวได้ จึงเห็นสมควรยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ และให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง


พ.ศ. 2566 / ค.ศ. 2023
การยุบสภาครั้งที่ 14

• นายกรัฐมนตรี : พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
• วันประกาศพระราชกฤษฎีกา : 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
• กำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป : ไม่ระบุในพระราชกฤษฎีกา มอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนด
• ประกาศจากราชกิจจานุเบกษา : https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/140A022N0000000000100.pdf
• สาเหตุและรายละเอียดการยุบสภา : สภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ครบ 4 ปี

เหตุผลที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาโดยสังเขป : เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 และปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงสมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วและเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง


การยุบสภาแต่ละครั้ง เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังเป็นการส่งสัญญาณแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การใช้อำนาจการตัดสินใจทางการเมืองผ่านการเลือกตั้งทั่วไปในอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้า

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]