ชัวร์ก่อนแชร์: 3 เหตุผลที่รัสเซียจำเป็นต้องรุกรานยูเครน จริงหรือ?

1 มีนาคม 2566
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : Factcheck.org / Usatoday (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ประเภทข่าวปลอม : ข้อมูลเท็จ

บทสรุป:


  1. ไม่มีหลักฐานว่าชาวยูเครนส่วนใหญ่สนับสนุนระบอบนาซี
  2. ไม่มีรายงานเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในภูมิภาคดอนบาส
  3. ไม่พบว่ายูเครนมีแผนพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลเท็จแพร่จากประเทศรัสเซีย เมื่อแถลงการณ์ของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า ปฏิบัติการทางการทหารของกองทัพรัสเซียในประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปี 2022 เป็นเรื่องจำเป็น โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลดอาวุธและปลดแอกยูเครนจากระบบนาซี (Demilitarize and Denazify), ยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยูเครนผู้ฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคดอนบาส และขัดขวางแผนการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐบาลยูเครน

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:


จากการตรวจสอบโดยศูนย์ Fact Checking ในต่างประเทศ พบว่าคำกล่าวอ้างของผู้นำรัสเซียล้วนไม่เป็นความจริง โดยแยกเป็นประเด็นดังนี้

1. ยูเครนสนับสนุนระบอบนาซี – ไม่เป็นความจริง

ชัยชนะของกองทัพแดง (Red Army) ของสหภาพโซเวียต รวมกับกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร ที่มีเหนือกองทัพนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 คืออดีตอันเกรียงไกรของของสหภาพโซเวียต

ในวันนี้ ชัยชนะของนาซีและฮิตเลอร์กลายเป็นวาทกรรมทางการเมืองที่รัฐบาลรัสเซียนำมาใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการรุกรานดินแดนของยูเครน โดยนำระบอบนาซีมาเป็นข้ออ้าง

คำกล่าวอ้างดังกล่าว ถูกประณามโดยแวดวงนักประวัติศาสตร์ เพราะมองว่าเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์และลบหลู่เหยื่อนับล้านที่ถูกสังหารโดยกองทัพนาซี รวมถึงกองกำลังของกองทัพแดง ที่สละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นจำนวนมาก

แม้ในปัจจุบัน กลุ่มนาซีใหม่ (Neo Nazi) จะยังคงมีบทบาทในสังคมของยูเครน แต่อิทธิพลของกลุ่มมีเพียงเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ องค์กรแนวคิดขวาจัดยังเป็นสิ่งที่พบได้ในหลายประเทศ ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดกับยูเครนเพียงชาติเดียว เช่น กลุ่มคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan) ในสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ในรัสเซียเองก็มีสมาชิกกลุ่มนาซีใหม่อยู่เป็นจำนวนมาก หากรัสเซียต้องการโค่นล้มระบอบนาซี ควรเริ่มจากการแก้ปัญหาในประเทศตัวเองเสียก่อน

จุดเชื่อมโยงยูเครนกับนาซีที่ชัดเจนที่สุด คือการก่อตั้ง กองกำลังอาซอฟ (Azov battalion) กองกำลังติดอาวุธในเมืองมาริอูพอล ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในสงครามปกป้องดินแดนภาคตะวันออกของยูเครนจากการรุกรานของกองทัพรัสเซียเมื่อปี 2014

กำลังอาซอฟก่อตั้งโดยผู้นำ 2 รายที่ประกาศตนว่าเป็น Neo Nazi และยังมีผู้ประสานงานของกลุ่มที่มีแนวคิด White Supremacist ที่เชื่อว่าชนผิวขาวเป็นชาติพันธุ์ที่สูงส่งกว่าชนชาติอื่น ๆ

ความสำเร็จในการกอบกู้เมืองมาริอูพอลจากกองทัพรัสเซียเมื่อปี 2014 ทำให้กองกำลังอาซอฟได้รับการเชิดชูจากชาวยูเครนอย่างล้นหลาม ต่อมาได้รับการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ ภายใต้กระทรวงมหาดไทยของยูเครน

แม้กองกำลังที่เชิดชูระบอบนาซีจะได้รับการนิยมเยี่ยงวีรบุรุษในยูเครน แต่นักวิเคราะห์มองว่ากระแสดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองของสมาชิกในกลุ่ม แต่เป็นความนิยมจากวีรกรรมในสมรภูมิที่กลุ่มอาซอฟได้ต่อสู้กับกองทัพต่างชาติที่รุกรานบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง

กองกำลังอาซอฟ (Azov battalion)

นอกจากนี้ กองกำลังอาซอฟถือเป็นเพียงหน่ายทหารเล็ก ๆ ในกองทัพยูเครน จากรายงานของสำนักข่าว BBC เมื่อปี 2022 ระบุว่า ยูเครนมีกำลังพล 250,000 นาย ในจำนวนนั้นแบ่งเป็นกำลังพลในกองกำลังรักษาดินแดนจำนวน 50,000 นาย และมีกำลังผลของกองกำลังอาซอฟเพียง 1,000 นายเท่านั้น

ในบทสัมภาษณ์ต่อเว็บไซต์ USA Today เมื่อปี 2015 โฆษกของกองกำลังอาซอฟยอมรับว่า ในกลุ่มมีผู้อ้างตัวเป็นนาซีอยู่ประมาณ 10% ถึง 20% อย่างไรก็ดี ทหารหน้าใหม่ที่เข้ามาเป็นสมาชิกในภายหลัง ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแนวคิดทางการเมืองของกลุ่ม แต่ต้องการมีส่วนร่วมในกองกำลังที่เชี่ยวชาญด้านการปกป้องดินแดนของยูเครนเป็นหลัก

ส่วนบทบาทของนักการเมืองขวาจัด ก็แทบไม่มีอิทธิพลในรัฐสภาของยูเครนเช่นเดียวกัน

Svoboda คือพรรคการเมืองขวาจัดในยูเครน เคยได้รับคะแนนเสียงในรัฐสภาสูงถึง 10.4% เมื่อปี 2012

แต่คะแนนนิยมของพรรคก็ลดต่ำลงทุกปี โดยปี 2014 คะแนนเสียงลดลงเหลือ 6% ในปี 2019 คะแนนเสียงลดลงเหลือ 2% จนปัจจุบัน สมาชิกของพรรค Svoboda ครองที่นั่งในรัฐสภาของยูเครนเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้นจาก 450 ที่นั่ง

นอกจากนี้ การที่ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของยูเครน ซึ่งเป็นผู้มีเชื้อสายชาวยิว สามารถชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 73% คืออีกหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า ชาวยูเครนส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้สนับสนุนระบอบนาซีอย่างที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

สถิติผู้เสียชีวิตในดอนบาสระหว่างปี 2014 ถึง 2021 โดย UNCHR

2.มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้ฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคดอนบาส – ไม่เป็นความจริง

แม้การปะทะระหว่างกองทัพยูเครนและกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในแคว้นดอนบาส จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในปี 2014 แต่หน่วยงานด้านมนุษยธรรมยืนยันว่า ไม่พบหลักฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในดอนบาสแต่อย่างใด

สถิติผู้เสียชีวิตของประชาชนในดอนบาสที่เปิดเผยโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNCHR) ยืนยันว่า หลังจากเหตุปะทะในปี 2014 สถิติการเสียชีวิตของประชาชนในแคว้นดอนบาสลดลงอย่างต่อเนื่อง การอ้างว่ามีเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในดอนบาสจึงไม่มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นความจริง

3. ยูเครนมีแผนพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ – ไม่เป็นความจริง

เมื่อครั้งที่ยูเครนประกาศเอกราชหลังแยกตัวจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1991 ยูเครนเคยครอบครองอาวุธนิวเคลียร์นับพันหัวรบ แต่ 3 ปีหลังจากนั้น ยูเครนได้ลงนามในสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และยกเลิกการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด เพื่อแลกกับการขอรับความคุ้มครองจากรัสเซีย, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ ยูเครนยังไม่มีศักยภาพด้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากขาดแคลนแร่ที่จำเป็นทั้งแร่ยูเรเนี่ยมและพลูโตเนียม รวมถึงไม่มีเทคโนโลยีและเงินทุนที่เพียงพอในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ จึงไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ายูเครนมีแผนพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์แต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง:

https://www.factcheck.org/2022/03/the-facts-on-de-nazifying-ukraine/
https://www.usatoday.com/story/news/factcheck/2022/03/30/fact-check-why-putins-claims-justifying-war-ukraine-baseless/7089270001/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]