กทม. 2 ส.ค.-“ก้องศักด” ผู้ว่าการ กกท. ชูทัพนักกีฬาคนพิการไทยระดับโลก ต้องรักษามาตรฐานจากอาเซียนพาราเกมส์ สู่พาราลิมปิกเกมส์
“ดร.ก้องศักด ยอดมณี” ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ชูนักกีฬาคนพิการไทยอยู่ในระดับโลก ต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ในกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่อินโดนีเซีย เพื่อต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในระดับพาราลิมปิกเกมส์ต่อไป
การแข่งขันมหกรรรมกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองสุราการ์ตา (โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2565 การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ให้การสนับสนุนทัพนักกีฬาคนพิการไทย และเจ้าหน้าที่รวมทั้งสิ้น 479 คน ร่วมชิงชัย
ทัพนักกีฬาคนพิการไทย แชมป์ 6 สมัย กำลังกวาดเหรียญทองแข่งกับอินโดนีเซียเจ้าภาพ เพื่อไล่ล่าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า เริ่มต้นต้องขอบคุณเจ้าภาพอินโดนีเซีย ที่ดำเนินการจัดการแข่งขัน อาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 11 “โซโล 2022” โดยมีระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพที่ดีพอสมควร แม้ว่าจะต้องประสบปัญหาอยู่บ้าง อาทิ ความไม่แน่นอนเรื่องโปรแกรมการแข่งขัน ซึ่งทำให้ฝ่ายเตรียมนักกีฬาต้องทำงานหนักขึ้น
ดร.ก้องศักด กล่าวอีกว่า สำหรับศึกอาเซียน พาราเกมส์ครั้งที่ 11 นี้ ต้องยอมรับว่า เจ้าภาพมีความได้เปรียบเหนือทุกชาติ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมทุกด้าน มีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และการเลือกชนิดและประเภทกีฬาที่มีการชิงชัย นักกีฬาของอินโดนีเซียมีตัวเลือกค่อนข้างมาก ซึ่งกีฬาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อสังคมของอินโดนีเซียสูงมากด้วย และมีความต้องการจะเป็นเจ้าเหรียญทอง ดังนั้น ทัพนักกีฬาไทยควรจะต้องรักษาระดับมาตรฐานของตัวเองเอาไว้ในการชิงชัยเพื่อตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเช่นกัน
“ผมไม่อยากให้เราตั้งเป้าว่าเราจะต้องชนะเป็นอันดับที่ 1 ครองเจ้าเหรียญทองเท่านั้น แต่นักกีฬาไทยจะต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ และต่อยอดไปสู่ความสำเร็จที่เราเคยอยู่ในระดับโลก และเป็นแชมป์พาราลิมปิกเกมส์ ในหลายชนิดกีฬาไทยนั้นเหนือกว่าอินโดนีเซีย แต่ยังมีอีกหลายชนิดกีฬาที่ยังเป็นรอง แต่ก็สู้กับอินโดนีเซียได้อย่างสูสี แม้ว่าเจ้าภาพจะมีความได้เปรียบอยู่มาก”.-สำนักข่าวไทย