‘สุรสิทธิ์-ณัฐณิชา’แชมป์ขนไก่ ‘ภัทรธร-ปัณฑิตา’ซิวปิงปองปิด”BBG Princess Cup”

นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสและแบดมินตัน “BBG Princess Cup 2022” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประจำปี 2565 พร้อมมอบรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศในแต่ละประเภท ณ บริเวณรอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม


ภายในงานมี น.ส.ปิยวรรณ ภูมิแก้ว ผู้จัดการสโมสรกีฬาบีบีจี กล่าวรายงานการแข่งขัน โดยได้รับเกียรติจาก นาวาเอกพิเศษ สมศักดิ์ ตรีธาร อุปนายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย, ดร.วิชญะ เครืองาม กรรมการและประธานฝ่ายส่งเสริมสนับสนุนแบดมินตันเพื่อมวลชน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ, นายสัมฤทธิ์ อนุภักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่-ฝ่ายพัฒนาสังคมและกีฬา กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล และคุณหมิง ชิง จาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคเตอร์ สปอร์ตส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมอบรางวัลให้กับนักกีฬาชนะเลิศแต่ละประเภทด้วย

การแข่งขันเป็นการชิงชัยวันสุดท้าย โดยไฮไลต์อยู่ที่แบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “จ๊อบ” สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล วัย 20 ปี ซึ่งมือวางอันดับ 5 จากสโมสรพรหมลิขิต แบดมินตัน ลงสนามดวลกับเพื่อนร่วมรุ่นที่มีดรีกรีทีมชาติไทยอย่าง “อิฐ” วรท อุไรวงค์ มืออันดับ 1 จาก อบจ.ปราจีนบุรี โดยผลปรากฏว่า สุรสิทธิ์ ใช้การตีขึ้นลูก และเล่นเกมบุกได้ดุดันเฉียดขาดกว่า ไล่ตบทำแต้มโค่นเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-13, 21-14


สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล ครองแชมป์รายการนี้รุ่นทั่วไปเป็นครั้งแรก โดย สุรสิทธิ์ เปิดเผยว่า คู่แข่งในรอบชิงเป็นเพื่อนที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เยาวชน และไล่บี้กันมาตลอด ซึ่งก็ได้วางแผนในการคุมจังหวะเกมนี้ให้ได้ แต่คิดว่าเรามีเกมบุกเข้าทำได้เด็ดขาด ทำให้คว้าชัยชนะไปได้ ส่วนรายการนี้เข้าร่วมป็นครั้งที่ 2 แล้ว และปีนี้สามารถคว้าแชมป์ครั้งแรกได้ด้วย ก็ถือเป็นรายการพิเศษที่น่าจดจำของตัวเอง

“การคว้าแชมป์รายการนี้ถือว่าทำให้มีกำลังใจในการแข่งขันรายการต่อไป เพราะว่าก่อนหน้านี้สภาพผมก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ พอมาโชว์ผลงานได้ดีในรายการนี้ก็รู้สึกมั่นใจขึ้น ทำให้เรามีกำลังใจในการซ้อม และการแข่งขัน ส่วนเป้าหมายต่อไปก็อยากติดทีมชาติ เพราะเคยทำพลาดมาแล้ว 2 ครั้งในการคัดเลือกตัวทีมชาติก่อนหน้านี้ ซึ่งครั้งหน้าก็คิดว่าจะทำผลงานได้ดี” สุรสิทธิ์ กล่าว

ส่วนแบดมินตัน ประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “อิง” ณัฐณิชา จตุพนาพร นักตบลูกขนไก่สาวมือวางอันดับ 3 จากสมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี ลงสนามดวลกับ ราเชล จุน หลิง ชาน จากสโมสรแบดมินตัน บ้านทองหยอด ซึ่งผลการแข่งขันเป็นทางด้านของ ณัฐณิชา ที่ตบได้อย่างแน่นอนกว่าเอาชนะไปได้ 2-0 เกม 21-16, 21-12 คว้าแชมป์ฝ่ายหญิงไปได้


ขณะที่เทเบิลเทนนิส ประเภทชายเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “ดั๊ก” ภัทรธร ภัสระ นักตบหนุ่มทีมชาติ มืออันดับ 1 ประเทศไทย และดีกรีเหรียญทองประเภททีมชาย กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม จากสโมสรราชนาวี ลงเจอกับ “ภูมิ” วีรภัทร พุฒิคุณเกษม อดีตเยาวชนทีมชาติจากมหาวิทยาลัยธนบุรี โดยเกมนี้ ภัทรธร ที่ประสบการณ์เหนือกว่า ใช้การเสิร์ฟสปิน และการตบซ้ายพิฆาตเฉียบขาดเอาชนะไป 3-0 เกม 11-6, 12-10, 13-11 คว้าแชมป์ชายเดี่ยวสำเร็จ

หลังการแข่งขัน ภัทรธร ภัสระ เปิดเผยว่า เป็นการคว้าแชมป์ชายเดี่ยวรุ่นทั่วไปรายการนี้เป็นครั้งแรก หลังจากเข้าร่วมชิงชัยเป็นครั้งที่ 3 ก่อนหน้าเคยได้แชมป์รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และรองแชมป์รุ่นทั่วไป ซึ่งก็พอใจที่เล่นได้ตามมาตรฐาน ตามเกมของตัวเอง แต่ก็ต้องพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ รายการนี้แม้จะเป็นเต็งหนึ่ง แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันในรอบที่ผ่านๆ มา

“การแข่งขันรายการนี้ถือว่ามีส่วนหลายอย่างในการพัฒนานักกีฬาเทเบิลเทนนิสไทย เพราะว่าเปิดการโอกาสให้ทุกคนทั่วประเทศที่เล่นปิงปองได้เข้ามาร่วมการแข่งขัน และนักกีฬาได้ออกมาแสดงศักยภาพว่าเรามีการพัฒนาถึงตรงไหนบ้าง เพราะถ้าไม่มีจัดแข่งเลย นักกีฬาก็ไม่ได้มาแข่งกัน และไม่รู้ว่าแต่ละพัฒนาถึงไหนกันแล้ว” ภัทรธร กล่าว

ประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นทั่วไป รอบชิงชนะเลิศ “ปิงปอง” ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล เยาวชนทีมชาติจากสโมสรกีฬาเซ็นทรัล ซึ่งเล่นลีกอาชีพในประเทศออสเตรียกับสโมสรลินซ์ ใช้ความสดบดความเก๋า ไล่โค่นเอาชนะรุ่นพี่ “แป๋ว” นันทนา คำวงศ์ นักตบลูกเด้งสาวจอมเก๋าวัย 41 ปี อดีตทีมชาติไทยที่เคยผ่านโอลิมปิกเกมส์ 5 สมัยจากสโมสรธารสุวรรณ ได้เป็นครั้งแรกด้วยสกอร์ 3-2 เกม 5-11, 11-7, 9-11, 11-4, 11-8 ทำให้ ปัณฑิตา คว้าแชมป์ไปได้อย่างเซอร์ไพรส์

หลังการแข่งขัน ปัณฑิตา กล่าวว่า การที่มีโอกาสได้ไปเล่นลีกอาชีพที่ออสเตรียช่วยให้พัฒนาการเล่นของตัวเอง เหมือนเราได้ออกไปเปิดโลก เพราะเทคนิคนักกีฬาแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน และมีส่วนที่ช่วยให้เอาชนะพี่แป๋วได้เป็นครั้งแรก ซึ่งในครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะการตีลูกต่อเนื่องของเราทำได้ดีขึ้น และไม่ตีเสียง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แชมป์นี้เป็นครั้งแรกที่ได้แชมป์รุ่นทั่วไปในรายการนี้จากการเข้าร่วมชิงชัย 4 ครั้ง ซึ่งก็รู้สึกดีใจมาก

ด้านคู่ที่น่าสนใจในเทเบิลเทนนิส ประเภทรุกกี้ ชายเดี่ยว “ยีนส์” ชัยชนะ ยวงเกตุ นักตบลูกเด้งจากสโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย ชนะ ศิวรานนท์ นพคุณ จากสโมสรบดินทรเดชาฯ สมุทรปราการ 3-1 เกม 9-11, 11-8, 11-9, 11-4 ทำให้ ศิวรานนท์ คว้าแชมป์รุกกี้ไปครอง

ชัยชนะ กล่าวว่า เข้าร่วมรายการนี้ครั้งแรก และคว้าแชมป์ได้ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะได้ซ้อมหนัก 2 เดือนก่อนมาแข่ง และเกินคาดมาก สำหรับรายการนี้ถือเป็นรายการที่ดีที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาได้มีเวทีแข่งขัน และนักกีฬาหลายคนก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการแข่งขันเพื่อคว้าถ้วยพระราชทาน

นายเอกภพ เดชเกรียงไกรสร ประธานสโมสรกีฬาบีบีจี กล่าวปิดการแข่งขันว่า การแข่งขันตลอด 4 วันที่ผ่านมา ทำให้ตระหนักได้ว่า ความสำคัญที่สุดของการแข่งขันคือการมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขัน เพราะการมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันนั้น จะทำให้นักกีฬาได้ประสบการณ์ ซึ่งนำไปพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต ขอให้นักกีฬาทุกคนภูมิใจแม้ว่าในการแข่งขันครั้งนี้จะแพ้หรือชนะก็ตาม ขอให้นำความรู้สึกเหล่านี้เป็นแรงผลักดันจิตใจ เพื่อให้ก้าวเติบโตต่อไปในอนาคต และในโอกาสนี้ต้องขอบคุณผู้สนับสนุน และผู้ร่วมจัดการแข่งขันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอแสดงความชื่นชมต่อนักกีฬา อีกทั้งกองเชียร์ที่ได้สละเวลา แรงกายแรงใจ ทำให้การแข่งขันครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

สรุปนักกีฬาที่คว้าแชมป์การแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสและแบดมินตัน “BBG Princess Cup 2022” ดังนี้

  • เทเบิลเทนนิส
    ประเภทชายเดี่ยวทั่วไป ภัทรธร ภัสระ (สโมสรราชนาวี)
    ประเภทหญิงเดี่ยวทั่วไป ปัณฑิตา ภิญโญไพศาล (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
    ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี ณภัทร ธรรมาธิคม (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
    ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
    ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี ภูเบศ อาภาสัตย์ (สโมสรกีฬาเซ็นทรัล)
    ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ (สโมสรธารสุวรรณ)
    ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 15 ปี ไล ยอง ฮาน (สโมสรพิน ปิงปอง แบร์ริ่ง 30)
    ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 15 ปี ภัตศราภรณ์ วงละคร (สโมสรธารสุวรรณ)
    ประเภทเยาวชนชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี นิมิตร สร้อยพวง (มหาวิทยาลัยธนบุรี)
    ประเภทเยาวชนหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี กุลภัสสร์ วิจิตรวิริยะกุล (สโสรกีฬาเซ็นทรัล)
    ประเภทรุกกี้ชาย ชัยชนะ ยวงเกตุ (การท่าเรือแห่งประเทศไทย)
    ประเภทรุกกี้หญิง มัลลิกา หงษ์ทอง (ไอทีซี โกลบอล)

แบดมินตัน
ประเภทชายเดี่ยวทั่วไป สุรสิทธิ์ อริยะบารนีกุล (พรหมลิขิต แบดมินตัน)
ประเภทหญิงเดี่ยวทั่วไป ณัฐณิชา จตุพนาพร (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทชายคู่ทั่วไป พงศกร ทองคำ และธนวินท์ มาดี (พรหมลิขิต แบดมินตัน/เอ็นพี คอร์ต)
ประเภทหญิงคู่ทั่วไป ลักษิกา กัลละหะ และผไทมาส เหมือนวงศ์ (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทคู่ผสมทั่วไป วิชญพงศ์ กาญจนคีรีวงศ์ และนัทธมน ไล้สวน (บ้านทองหยอด)

ประเภทชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี ณชกร ภู่ศรี (พลสนะแบดมินตัน)
ประเภทหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 19 ปี ธมนวรรณ นิธิอิทธิไกร (ทริปเปิ้ลวี)
ประเภทชายคู่อายุไม่เกิน 19 ปี ธิติสรณ์ กาญจนาวิบูลย์ และปุณณภพ เกียรติกังวาฬไกล (บอยส์ คลับ)
ประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 19 ปี ปริณดา พัฒนวริทธิพันธ์ และนภา สามารถ (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)
ประเภทคู่ผสมอายุไม่เกิน 19 ปี ธนากร มีชัย และทุ้งฟ้า กอปรธรรมกิจ (สมาคมกีฬากรุงเก่า/เจพี อคาเดมี)

ประเภทชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี ธีรานันท์ พสิษฐ์ฐิติพันธิ์ (ศิริภูล)
ประเภทหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 17 ปี ต้นรัก แซ่เฮ้ง (เกตุแก้ว)
ประเภทชายคู่อายุไม่เกิน 17 ปี สิทธิศักดิ์ นาดี และณัฐพงศ์ วิริยะกิจ (แกรนูลาร์)
ประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 17 หทัยทิพย์ มิจาด และฮัซวานีย์ โมมินทร์ (เกตุแก้ว)
ประเภทคู่ผสมอายุไม่เกิน 17 ปี พุฒิเมธ เสมกันทา และณภชนก อุตสานนท์ (สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี/วินแม็กซ์ แบดมินตัน คลับ)

ประเภทชายเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี วรดร สกุลปักษ์ (ซีอาร์ แบดมินตัน)
ประเภทหญิงเดี่ยวอายุไม่เกิน 13 ปี ศาริสา จันทร์แพง (เทศบาลเมืองท่าข้าม)
ประเภทชายคู่อายุไม่เกิน 13 ปี ธนภัทร เกิดศรีพันธุ์ และศุภวิชญ์ เพชรวารินทร์ (แกรนูลาร์/เทศบาลเมืองท่าข้าม)
ประเภทหญิงคู่อายุไม่เกิน 13 ปี จันทรัสม์ มารดากุล และแพรพลอย สุทธิวรยานนท์(ยูนิตี้แอนด์รวิน/เทศบาลเมืองชลบุรี)
ประเภทคู่ผสมอายุไม่เกิน 13 ปี วรดร สกุลปักษ์ และณธิดา บุระมาศ (ซีอาร์ แบดมินตัน/สมาคมกีฬาแบดมินตันจังหวัดปทุมธานี)

ประเภทรุกกี้ คู่ทั่วไป นิลพันธ์ ศรีคล้าย และศิริพงษ์ เหล่านุกูล (ออนลี่แบด)

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย