อเดซานย่า, โวลคานอฟสกี้ ป้องกันแชมป์หรู ศึก UFC 276

อิสราเอล อเดซานย่า สุดยอดนักสู้ชาวไนจีเรีย อาศัยการออกอาวุธที่แม่นยำ และชั้นเชิงการต่อสู้ที่เหนือกว่า เป็นฝ่ายไล่ต้อนเอาชนะคะแนน จาเร็ด กานโนนิเยร์ ผู้ท้าชิงชาวอเมริกัน ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ส่วน อเล็กซานเดอร์ โวลคานอฟสกี้ ก็สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้เช่นกัน หลังเอาชนะคะแนน แม็กซ์ ฮอลโลเวย์ ไปแบบขาดลอย ในศึก UFC 276: ADESANYA VS CANNONIER ณ สังเวียน T-Mobile ARENA ,ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา


คู่เอกของรายการเป็นการชิงแชมป์รุ่นไลต์เวต ระหว่าง อิสราเอล อเดซานย่า เจ้าของแชมป์ชาวไนจีเรีย ที่ขึ้นป้องกันตำแหน่งกับ จาเร็ด คอนโนนิเยร์ เริ่มยกแรกยังดูคู่คี่สูสี ทั้งคู่เน้นการออกอาวุธยาวจากวงนอก ซึ่งก็ยังทำอะไรไม่ถนัดนัด ยกที่ 2 รูปแบบการต่อสู้ยังคล้ายกับยกแรก แต่ดูเหมือนว่า อเดซานย่า จะมีหมัดหน้าที่ยาว และเข้าเป้ามากกว่า อย่างไรก็ตามยกที่ 3 กานโนนิเยร์ แก้เกมมาดีขึ้น มีโอกาสคลุกวงใน ปล่อยหมัดชุดใส่แชมป์โลกแบบสวยๆหลายครั้ง

ยกที่ 4 อเดซานย่า ยังมีหมัดหน้า และอาศัยช่วงชกที่ยาวกว่า ตอดเล็กตอดน้อยเล่นงานใส่ผู้ท้าชิง ส่วน กานโนนิเยร์ ก็หวังใช้การต่อสู้ระยะประชิดเล่นงาน อเดซานย่า แต่ก็ยังเข้าไม่ติด ยกสุดท้าย อเดซานย่า ดูเหนือกว่าชัดเจน และควบคุมเกมการต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


ครบ 5 ยก กรรมการรวมคะแนนก่อนชูมือให้ อิสราเอล อเดซานย่า ป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จด้วยการเอาชนะคะแนน จาเร็ด กานโนนิเยร์ ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวตไว้ได้อย่างสวยงาม พร้อมเพิ่มสถิติเป็นชนะ 23 แพ้ 1

รองคู่เอกเป็นการชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต โดย อเล็กซานเดอร์ โวลคานอฟสกี้ เจ้าของตำแหน่งแชมป์ ชาวออสเตรเลียวัย 33 ปี ป้องกันตำแหน่งกับ แม็กซ์ ฮอลโลเวย์ นักสู้อมเริกัน เชื้อสายซามัววัย 30 ปี

ตลอดยก 1-3 ทั้งคู่ออกมาดวลหมัดกันล้วนๆ และเป็น โวลคานอฟสกี้ ที่ออกอาวุธได้หนักหน่วงและเฉียบคมมากกว่า โดยในยกที่ 2 ฮอลโลเวย์ โดนบวกขวาของ โวลคานอฟสกี้ จนเกิดแผลแตกขนาดใหญ่บริเวณคิ้วขวา


ยกที่ 4 ฮอลโลเวย์ เน้นออกอาวุธยาวมากขึ้น โดยหวังโป้งปิดบัญชีใส่แชมป์โลกให้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สร้างความลำบากใจให้กับ โวลคานอฟสกี้ เลยแม้แต่น้อย เข้าสู่ยกสุดท้าย โวลคอนอฟสกี้ รู้ตัวว่าเหนือกว่าควบคุมเกมการต่อสู้ได้จนจบ

ครบ 5 ยกกรรมการรวมคะแนน ก่อนชูมือให้ อเล็กซานเดอร์ โวลคานอฟสกี้ เอาชนะคะแนนเป็นครั้งที่ 3 เหนือ แม็กซ์ ฮอลโลเวย์ ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์ไว้ได้สำเร็จ พร้อมกับเพิ่มสถิติเป็นชนะ 25 แพ้ 1 และชนะมาติดต่อกันถึง 22 ไฟต์

ผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการศึก UFC 276: ADESANYA VS CANNONIER

คู่หลักในรายการ

คู่เอก – ชิงแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวต
อิสราเอล อเดซานย่า ชนะคะแนน จาเร็ด กานโนนิเยร์

รองคู่เอก – ชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต
อเล็กซานเดอร์ โวลคานอฟสกี้ ชนะคะแนน แม็กซ์ ฮอลโลเวย์

รุ่นมิดเดิลเวต
อเล็ก เปเรย์ร่า ชนะ ฌอน สตริคแลนด์ TKO ยกที่ 1

รุ่นเวลเตอร์เวต
บริอาน บาร์เบเรน่า ชนะ TKO ร็อบบี้ ลอว์เลอร์ ยกที่ 2

รุ่นแบนตั้มเวต
เปโดร มูนญอซ VS ฌอน โอมัลลี่ย์ (ยุติการแข่งขัน ไม่มีการตัดสิน)

คู่ก่อนรายการ
รุ่นไลต์เวต
จาลิน เทอร์เนอร์ ชนะซับมิทชั่น แบรด ริดเดลล์ ยกที่ 1

รุ่นเวลเตอร์เวต
เอียน แกร์รี่ ชนะคะแนน กาเบรียล กรีน

รุ่นเวลเตอร์เวต
จิม มิลเลอร์ ชนะซับมิทชั่น โดนัลด์ เคอร์โรน ยกที่ 2

รุ่นมิดเดิลเวต
ดริซุส ดู เพลสซิส ชนะคะแนน แบรด ตาวาเรส

รุ่นมิดเดิลเวต
อันเดร มูนิซ ชนะคะแนน ยูเรียห์ ฮอลล์

รุ่นฟลายเวตหญิง
เมย์ซี่ บาร์เบอร์ ชนะคะแนน เจสสิก้า อาย

รุ่นแบนตั้มเวตหญิง
ยูเลีย สโตเลียเรนโก้ ชนะซับมิทชั่น เจสซิก้า-โรส คล้าร์ก ยกที่ 1

สำหรับรายการต่อไปจะเป็นการต่อสู้ในศึก UFC FIGHT NIGHT :DOS ANJOS VS FIZIEV คู่เอกเป็นการต่อสู้ในพิกัดรุ่นไลต์เวตระหว่าง ราฟาเอล ดอส อันโญส เสือเฒ่าวัย 37 ปีชาวบราซิลจะพบกับ ราฟาเอล ฟิซิเยฟ เพชรฆาตจากคีร์กิซสถานวัย 29 ปี โดยจะกลับมาแข่งขันกันที่ APEX ARENA ,ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา ช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม นี้ คู่หลักเริ่ม 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

สำหรับกิจกรรม “Toyota Gazoo Racing Motorsport 2022” สนามที่ 2 ไปมันส์กันต่อในรูปแบบสตรีทเซอร์กิต ณ สวนสาธารณะสะพานหิน จ.ภูเก็ต ในระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2565 ร่วมติดตามชมภาพความสนุกและบรรยากาศสุดเร้าใจ พร้อมชมการแข่งขันผ่านทาง Live Streaming ได้ที่ www.facebook.com/ToyotaGazooRacingMotorsportThailand

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย