บทสรุปซีเกมส์ กรีฑาคว้าเหรียญทองมากสุด 12 เหรียญทอง

เวียดนาม 23 พ.ค. – บทสรุปผลงานซีเกมส์ของทัพนักกีฬาไทย ตลอดการแข่งขันซีเกมส์ ที่เวียดนาม มีทั้งทำผลงานได้ตามเป้าและพลาดเป้าหมาย โดยสมาคมกรีฑา คว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยมากที่สุดถึง 12 เหรียญทอง


สมาคมกรีฑา เป็นสมาคมกีฬาที่คว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยมากที่สุดถึง 12 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ตามเป้าที่วางไว้ และยังเป็นกีฬาที่เรียกความสนใจและจับตาลุ้นในการทำลายสถิติของ “เทพบิว”ภูริพล บุญสอน ลมกรดวัย 16 ปี ที่ลงเล่นกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกในชีวิตของตัวเอง ที่กวาดไป 3 เหรียญทอง ในวิ่ง 100 เมตร, วิ่ง200 เมตร ที่ทำลายสถิติของตัวเองในรอบคัดเลือกที่ทำไว้ 20.41 วินาที รวมถึงทำลายสถิติซีเกมส์เดิมของรุ่นพี่ เหรียญชัย สีหะวงษ์ เคยทำไว้ด้วยเวลา 20.69 วินาที ที่ประเทศบรูไน ในรอบ 23 ปีลงได้ หลังรอบชิงชนะเลิศทำสถิติ 20.37 วินาที และผลัด 4 x100 ม.

อีกคนเป็น จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 19 ปี ที่ลงเล่นในนามทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองมากที่สุดของนักกีฬาไทย 4 เหรียญทอง จาก 400 เมตร, 800 เมตร, วิ่งผสม 4×400 เมตร,ผลัด 4×400 เมตร และยังเป็นนักกรีฑาคนแรกในรอบ 21 ปี ที่คว้าได้ 4 เหรียญทอง ต่อจาก สุภาวดี ขาวเผือก ในซีเกมส์ปี 1999


ยกน้ำหนัก ชิงชัย 14 เหรียญทอง จอมพลังไทยที่หวนคืนสู่สังเวียนซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2017 ที่มาเลเซีย กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ครองเจ้าเหรียญทองยกน้ำหนักซีเกมส์ได้สำเร็จ ด้วยผลงาน 6 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง หลังจากเคยครองเจ้าซีเกมส์มาแล้วเมื่อ 9 ปีที่แล้วในซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมา ด้วยผลงาน 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง

สำหรับ 6 เหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ ได้มาจาก 2 จอมพลังสาวแชมป์โลก 2021 ธรรญธร สุขข์เจริญ รุ่น 45 กิโลกรัมหญิง , สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง , วิษณุ จันทรี รุ่น 67 กิโลกรัมชาย , ณัฐวุฒิ สืบสวน รุ่น 81 กิโลกรัมชาย , ดวงอักษร ใจดี รุ่น +71 กิโลกรัมหญิง และรุ่งสิริยา ปัญญะ รุ่น +89 กิโลกรัมชาย

สมาคมเทเบิลเทนนิส คว้าเหรียญทองเกินเป้าที่วางไว้ 2 เหรียญทอง แต่กลับสร้างประวัติศาสตร์ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 โดยทำได้ 4 เหรียญทอง จากประเภททีมหญิง ที่สร้างประวัติศาสตร์โค่นสิงคโปร์ คว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้เป็นครั้งแรก โดยทีมชาย ไม่น้อยหน้าที่คว้าเหรียญทองมาครองได้ในรอบ 21 ปี หลังจากล่าสุดคว้าได้ในประเภทนี้เมื่อซีเกมส์ ปี 2001, และยังคว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยว และหญิงคู่ ส่วนเหรียญเงินคว้ามาได้ 2 เหรียญเงิน จากชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว และ 2 เหรียญทองแดง จากคู่ผสมทั้ง 2 เหรียญ ซึ่งทำให้คว้าเหรียญมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การแข่งขันซีเกมส์ ที่แข่งขันกันมา 31 ครั้ง ในรอบ 63 ปี


แบดมินตันทีมชาติไทย ก็ทำผลงานไม่น้อยหน้า คว้ามาได้เกินเป้าหมายถึง 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดยทั้ง 4 เหรียญมาจากผลงานประเภททีมชาย ที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งแรกในรอบ 47 ปี และทีมหญิง ที่คว้าแชมป์สมัยที่ 8, หญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 ของโลก ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดฯสาวไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวซีเกมส์ และ ชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 18 ของโลกที่เอาชนะแชมป์โลกจากสิงคโปร์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดฯหนุ่มไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ชายเดี่ยวซีเกมส์

ว่ายน้ำไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ ฉลามหนุ่มและเงือกสาวทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองได้มากที่สุดในรอบ 9 ปี หลังคว้ามาได้ 4 เหรียญทอง มากกว่าเป้าหมายที่ประเมินไว้ที่ 2 เหรียญทอง โดย 4 เหรียญทองที่ทำได้มาจากเงือกสาวไทย ประกอบด้วย “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด 2 เหรียญทองจากฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิงและผีเสื้อ 50 เมตรหญิง , “หมอนอิง”เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก จากกบ 200 เมตรหญิง และ “เงือกเนย” กมลชนก ขวัญเมือง จากเดี่ยวผสม 400 เมตรหญิง นอกจากนี้ ทัพว่ายน้ำไทยยังคว้าได้อีก 9 เหรียญเงิน และ 9 เหรียญทองแดง

ลอนเทนนิสสมาคม เป็นอีกชนิดกีฬาที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินเป้าที่วางไว้ 2 เหรียญทอง โดยคว้าไปได้ถึง 4 เหรียญทอง จากประเภททีมชาย ทีมหญิง, หญิงเดี่ยว และหญิงคู่ 3 เหรียญเงิน จากหญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และคู่ผสม 2 เหรียญทองแดง จากชายเดี่ยว และคู่ผสม ทำให้ทีมเทนนิสไทย กลับมาเป็นเจ้าคอร์ต หรือ เจ้าเหรียญทอง อีกครั้ง และเป็นการครองเจ้าเหรียญทองกีฬาชนิดนี้เป็นสมัยที่ 8

ส่วนเซปักตะกร้อ ในซีเกมส์ครั้งนี้ ไทยยังคงไร้เทียมทาน ทั้งชายและหญิง ที่กวาดมาตามเป้า 6 เหรียญทองเต็ม เริ่มจากตะกร้อ ทีมชุดชาย คว้าเหรียญทองสมัยที่ 18 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนประเภททีมเดี่ยว คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 15 ส่วนเหรียญทองที่ 3 ก็เป็นตะกร้อ 4 คนชาย ขณะที่ทีมตะกร้อมหญิงไทยก็ไม่น้อยหน้า ทีมชุดหญิง ผงาดคว้าเหรียญทอง ได้เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน ทีมเดี่ยวหญิง คว้าเหรียญทองสมัยที่ 11 ปิดท้ายคว้ายิ่งใหญ่จากตะกร้อ 4 คนหญิง

นักตบลูกยางสาวทีมชาติไทย ยังไร้คู่ต่อกร ในภูมิภาคอาเซียน หลังโชว์ฟอร์มสุดหรูป้องกันแชมป์สำเร็จ คว้าเหรียญทองซีเกมส์ หนที่ 15 ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพเวียดนาม อย่างเร้าใจ 3 เซตรวด โดยสาวไทยเข้ารอบชิงชนะเลิศซีเกมส์หนแรกตั้งแต่ปี 1985 แต่ไปแพ้ฟิลิปปินส์ จากนั้นสาวไทยพัฒนาเรื่อยมา จนคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1989 ที่มาเลเซีย และยังป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง ปี 1991 ที่ฟิลิปปินส์ ด้วยการเอาชนะอินโดนีเซีย แต่กลับมาแพ้ฟิลิปปินส์ปี 1993 ที่สิงคโปร์ จากนั้นเริ่มเข้ายุคความยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่ซีเกมส์เชียงใหม่ปี 1995 สาวไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 3 และไร้พ่ายตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน การคว้าแชมป์สมัยที่ 15 ครั้งนี้ ตรงกับเป้าหมายที่สมาคม ตั้งไว้ 1 เหรียญทอง จากทีมหญิงในร่ม และอีก 1 เหรียญทองจากวอลเลย์บอลชายหาด ทีมหญิง ที่เอาชนะอินโดนีเซีย ป้องกันแชมป์ได้อีก 1 สมัย หลังจากที่ทำได้ในปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

ขณะที่สมาคมกีฬามวยสากลไทย ซึ่งเป็นสมาคมใหญ่ เป็นความหวังของกีฬาสากล ผลงานไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ จาก 5 เหรียญทอง แต่กลับทำได้เพียง 4 เหรียญ จากการเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้ 6 รุ่น โดยรุ่น 63 กิโลกรัม สมชาย วงษ์สุวรรณ 1 ในตัวเต็งไม่ทำให้แฟนมวยผิดหวัง จากนั้น รุ่น 69 กิโลกรัม บรรจง สินสิริ เอาชนะนักชกจาก อินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองที่ 2ให้ทีมขุนพลทีมชาติไทย ต่อด้วย รุ่น 91กิโลกรัม “เจ้ายักษ์” จักรพงษ์ ยมโคตร เอาชนะอาร์เอสซี อ่อง เพรัก จากกัมพูชา ในยกแรก คว้าเหรียญทองที่ 3 อย่างง่ายดาย ส่วนเหรียญทอง ที่ 4 ได้จาก รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง”น้องหวาน”จุฑามาศ รักสัตย์ ที่เอาชนะ เตรียน ธี เดียม เกียว นักชกเจ้าภาพ เวียดนาม

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เวียดนาม เจ้าภาพ ครองเจ้าเหรียญทองด้วยผลงาน 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง ขณะที่ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ได้อันดับ 2 มี 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง อันดับ 3 อินโดนีเซีย 69 เหรียญทอง อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ 52 เหรียญทอง และอันดับ 5 สิงคโปร์ 47 เหรียญทอง

ที่สุดซีเกมส์ 2021 … 9 เรื่อง

  1. โดดเด่นที่สุด : เจ้าบิว ภูริพล เจ้าหนูลมกรดวัย 16 ปี คว้า 3 ทอง และ จอซชัวร์ คว้า 4 ทอง นำทัพกรีฑา คว้าเหรียญทองมากที่สุด
  2. เจอปัญหามากที่สุด : สมาคมกีฬาปันจักสีลัต ฟรอนท์ตัวหนังสือลิขสิทธิ์ และวอล์คเอาท์ เจอการตัดสินไม่เป็นธรรม
  3. มันเขี้ยวที่สุด : บัวขาว บัญชาเมฆ ผจก.ทีมคิ๊กบ็อกซิ่ง อยากขึ้นเวทีซะเอง
  4. สะใจที่สุด : บีช จุฑาธิป ตะโกนสะใจหลังปั่นชนะเวียดนามในบ้าน
  5. ยอดเยี่ยมที่สุด : น้องเทนนิส จอมเตะเบอร์หนึ่งของโลก เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เตะขาดคว้าทอง
  6. ชัวร์ที่สุด : ทัพตะกร้อไทย ส่ง 6 รายการกวาดเรียบ 6 ทอง เหรียญอื่นไม่เอา ส่วน”เจ้าปุ้ย พรชัย” เก็บเพิ่ม 18 ทองซีเกมส์ ในวัย 41 ปี
  7. เก๋าที่สุด : ต๋อง ศิษย์ฉ่อย อดีตนักสอยคิวมือ 3 ของโลก คว้าทองซีเกมส์แรกของตนเองในวัย 52 ปี
  8. ผิดหวังที่สุด : นักฟุตบอลทีมชาย-หญิง ทีมชาติไทย พ่ายเจ้าภาพเวียดนาม 0-1 อกหักได้เพียงเหรียญเงิน
  9. Happy ที่สุด : กองเชียร์เวียดนาม ทีมฟุตบอลชาย เฉือนชนะ คู่ปรับ ทีมชาติไทย คว้าเหรียญทอง และเวียดนามยังครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ กวาดไป 205 เหรียญทอง
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]