บทสรุปซีเกมส์ กรีฑาคว้าเหรียญทองมากสุด 12 เหรียญทอง

เวียดนาม 23 พ.ค. – บทสรุปผลงานซีเกมส์ของทัพนักกีฬาไทย ตลอดการแข่งขันซีเกมส์ ที่เวียดนาม มีทั้งทำผลงานได้ตามเป้าและพลาดเป้าหมาย โดยสมาคมกรีฑา คว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยมากที่สุดถึง 12 เหรียญทอง


สมาคมกรีฑา เป็นสมาคมกีฬาที่คว้าเหรียญทองให้กับทัพนักกีฬาไทยมากที่สุดถึง 12 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ตามเป้าที่วางไว้ และยังเป็นกีฬาที่เรียกความสนใจและจับตาลุ้นในการทำลายสถิติของ “เทพบิว”ภูริพล บุญสอน ลมกรดวัย 16 ปี ที่ลงเล่นกีฬาซีเกมส์ครั้งแรกในชีวิตของตัวเอง ที่กวาดไป 3 เหรียญทอง ในวิ่ง 100 เมตร, วิ่ง200 เมตร ที่ทำลายสถิติของตัวเองในรอบคัดเลือกที่ทำไว้ 20.41 วินาที รวมถึงทำลายสถิติซีเกมส์เดิมของรุ่นพี่ เหรียญชัย สีหะวงษ์ เคยทำไว้ด้วยเวลา 20.69 วินาที ที่ประเทศบรูไน ในรอบ 23 ปีลงได้ หลังรอบชิงชนะเลิศทำสถิติ 20.37 วินาที และผลัด 4 x100 ม.

อีกคนเป็น จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 19 ปี ที่ลงเล่นในนามทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองมากที่สุดของนักกีฬาไทย 4 เหรียญทอง จาก 400 เมตร, 800 เมตร, วิ่งผสม 4×400 เมตร,ผลัด 4×400 เมตร และยังเป็นนักกรีฑาคนแรกในรอบ 21 ปี ที่คว้าได้ 4 เหรียญทอง ต่อจาก สุภาวดี ขาวเผือก ในซีเกมส์ปี 1999


ยกน้ำหนัก ชิงชัย 14 เหรียญทอง จอมพลังไทยที่หวนคืนสู่สังเวียนซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2017 ที่มาเลเซีย กลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ครองเจ้าเหรียญทองยกน้ำหนักซีเกมส์ได้สำเร็จ ด้วยผลงาน 6 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง หลังจากเคยครองเจ้าซีเกมส์มาแล้วเมื่อ 9 ปีที่แล้วในซีเกมส์ 2013 ที่เมียนมา ด้วยผลงาน 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง

สำหรับ 6 เหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ ได้มาจาก 2 จอมพลังสาวแชมป์โลก 2021 ธรรญธร สุขข์เจริญ รุ่น 45 กิโลกรัมหญิง , สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง , วิษณุ จันทรี รุ่น 67 กิโลกรัมชาย , ณัฐวุฒิ สืบสวน รุ่น 81 กิโลกรัมชาย , ดวงอักษร ใจดี รุ่น +71 กิโลกรัมหญิง และรุ่งสิริยา ปัญญะ รุ่น +89 กิโลกรัมชาย

สมาคมเทเบิลเทนนิส คว้าเหรียญทองเกินเป้าที่วางไว้ 2 เหรียญทอง แต่กลับสร้างประวัติศาสตร์ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 โดยทำได้ 4 เหรียญทอง จากประเภททีมหญิง ที่สร้างประวัติศาสตร์โค่นสิงคโปร์ คว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้เป็นครั้งแรก โดยทีมชาย ไม่น้อยหน้าที่คว้าเหรียญทองมาครองได้ในรอบ 21 ปี หลังจากล่าสุดคว้าได้ในประเภทนี้เมื่อซีเกมส์ ปี 2001, และยังคว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยว และหญิงคู่ ส่วนเหรียญเงินคว้ามาได้ 2 เหรียญเงิน จากชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว และ 2 เหรียญทองแดง จากคู่ผสมทั้ง 2 เหรียญ ซึ่งทำให้คว้าเหรียญมากที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การแข่งขันซีเกมส์ ที่แข่งขันกันมา 31 ครั้ง ในรอบ 63 ปี


แบดมินตันทีมชาติไทย ก็ทำผลงานไม่น้อยหน้า คว้ามาได้เกินเป้าหมายถึง 4 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน โดยทั้ง 4 เหรียญมาจากผลงานประเภททีมชาย ที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งแรกในรอบ 47 ปี และทีมหญิง ที่คว้าแชมป์สมัยที่ 8, หญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 10 ของโลก ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดฯสาวไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวซีเกมส์ และ ชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 18 ของโลกที่เอาชนะแชมป์โลกจากสิงคโปร์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดฯหนุ่มไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ชายเดี่ยวซีเกมส์

ว่ายน้ำไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ ฉลามหนุ่มและเงือกสาวทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองได้มากที่สุดในรอบ 9 ปี หลังคว้ามาได้ 4 เหรียญทอง มากกว่าเป้าหมายที่ประเมินไว้ที่ 2 เหรียญทอง โดย 4 เหรียญทองที่ทำได้มาจากเงือกสาวไทย ประกอบด้วย “เงือกจอย” เจนจิรา ศรีสอาด 2 เหรียญทองจากฟรีสไตล์ 50 เมตรหญิงและผีเสื้อ 50 เมตรหญิง , “หมอนอิง”เพียงขวัญ ปะวะโพตะโก จากกบ 200 เมตรหญิง และ “เงือกเนย” กมลชนก ขวัญเมือง จากเดี่ยวผสม 400 เมตรหญิง นอกจากนี้ ทัพว่ายน้ำไทยยังคว้าได้อีก 9 เหรียญเงิน และ 9 เหรียญทองแดง

ลอนเทนนิสสมาคม เป็นอีกชนิดกีฬาที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินเป้าที่วางไว้ 2 เหรียญทอง โดยคว้าไปได้ถึง 4 เหรียญทอง จากประเภททีมชาย ทีมหญิง, หญิงเดี่ยว และหญิงคู่ 3 เหรียญเงิน จากหญิงเดี่ยว, หญิงคู่ และคู่ผสม 2 เหรียญทองแดง จากชายเดี่ยว และคู่ผสม ทำให้ทีมเทนนิสไทย กลับมาเป็นเจ้าคอร์ต หรือ เจ้าเหรียญทอง อีกครั้ง และเป็นการครองเจ้าเหรียญทองกีฬาชนิดนี้เป็นสมัยที่ 8

ส่วนเซปักตะกร้อ ในซีเกมส์ครั้งนี้ ไทยยังคงไร้เทียมทาน ทั้งชายและหญิง ที่กวาดมาตามเป้า 6 เหรียญทองเต็ม เริ่มจากตะกร้อ ทีมชุดชาย คว้าเหรียญทองสมัยที่ 18 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนประเภททีมเดี่ยว คว้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 15 ส่วนเหรียญทองที่ 3 ก็เป็นตะกร้อ 4 คนชาย ขณะที่ทีมตะกร้อมหญิงไทยก็ไม่น้อยหน้า ทีมชุดหญิง ผงาดคว้าเหรียญทอง ได้เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน ทีมเดี่ยวหญิง คว้าเหรียญทองสมัยที่ 11 ปิดท้ายคว้ายิ่งใหญ่จากตะกร้อ 4 คนหญิง

นักตบลูกยางสาวทีมชาติไทย ยังไร้คู่ต่อกร ในภูมิภาคอาเซียน หลังโชว์ฟอร์มสุดหรูป้องกันแชมป์สำเร็จ คว้าเหรียญทองซีเกมส์ หนที่ 15 ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพเวียดนาม อย่างเร้าใจ 3 เซตรวด โดยสาวไทยเข้ารอบชิงชนะเลิศซีเกมส์หนแรกตั้งแต่ปี 1985 แต่ไปแพ้ฟิลิปปินส์ จากนั้นสาวไทยพัฒนาเรื่อยมา จนคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 1989 ที่มาเลเซีย และยังป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง ปี 1991 ที่ฟิลิปปินส์ ด้วยการเอาชนะอินโดนีเซีย แต่กลับมาแพ้ฟิลิปปินส์ปี 1993 ที่สิงคโปร์ จากนั้นเริ่มเข้ายุคความยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่ซีเกมส์เชียงใหม่ปี 1995 สาวไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งที่ 3 และไร้พ่ายตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน การคว้าแชมป์สมัยที่ 15 ครั้งนี้ ตรงกับเป้าหมายที่สมาคม ตั้งไว้ 1 เหรียญทอง จากทีมหญิงในร่ม และอีก 1 เหรียญทองจากวอลเลย์บอลชายหาด ทีมหญิง ที่เอาชนะอินโดนีเซีย ป้องกันแชมป์ได้อีก 1 สมัย หลังจากที่ทำได้ในปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์

ขณะที่สมาคมกีฬามวยสากลไทย ซึ่งเป็นสมาคมใหญ่ เป็นความหวังของกีฬาสากล ผลงานไม่ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ จาก 5 เหรียญทอง แต่กลับทำได้เพียง 4 เหรียญ จากการเข้ารอบชิงชนะเลิศ ได้ 6 รุ่น โดยรุ่น 63 กิโลกรัม สมชาย วงษ์สุวรรณ 1 ในตัวเต็งไม่ทำให้แฟนมวยผิดหวัง จากนั้น รุ่น 69 กิโลกรัม บรรจง สินสิริ เอาชนะนักชกจาก อินโดนีเซีย คว้าเหรียญทองที่ 2ให้ทีมขุนพลทีมชาติไทย ต่อด้วย รุ่น 91กิโลกรัม “เจ้ายักษ์” จักรพงษ์ ยมโคตร เอาชนะอาร์เอสซี อ่อง เพรัก จากกัมพูชา ในยกแรก คว้าเหรียญทองที่ 3 อย่างง่ายดาย ส่วนเหรียญทอง ที่ 4 ได้จาก รุ่น 48 กิโลกรัมหญิง”น้องหวาน”จุฑามาศ รักสัตย์ ที่เอาชนะ เตรียน ธี เดียม เกียว นักชกเจ้าภาพ เวียดนาม

สรุปเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เวียดนาม เจ้าภาพ ครองเจ้าเหรียญทองด้วยผลงาน 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง ขณะที่ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ได้อันดับ 2 มี 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน และ 136 เหรียญทองแดง อันดับ 3 อินโดนีเซีย 69 เหรียญทอง อันดับ 4 ฟิลิปปินส์ 52 เหรียญทอง และอันดับ 5 สิงคโปร์ 47 เหรียญทอง

ที่สุดซีเกมส์ 2021 … 9 เรื่อง

  1. โดดเด่นที่สุด : เจ้าบิว ภูริพล เจ้าหนูลมกรดวัย 16 ปี คว้า 3 ทอง และ จอซชัวร์ คว้า 4 ทอง นำทัพกรีฑา คว้าเหรียญทองมากที่สุด
  2. เจอปัญหามากที่สุด : สมาคมกีฬาปันจักสีลัต ฟรอนท์ตัวหนังสือลิขสิทธิ์ และวอล์คเอาท์ เจอการตัดสินไม่เป็นธรรม
  3. มันเขี้ยวที่สุด : บัวขาว บัญชาเมฆ ผจก.ทีมคิ๊กบ็อกซิ่ง อยากขึ้นเวทีซะเอง
  4. สะใจที่สุด : บีช จุฑาธิป ตะโกนสะใจหลังปั่นชนะเวียดนามในบ้าน
  5. ยอดเยี่ยมที่สุด : น้องเทนนิส จอมเตะเบอร์หนึ่งของโลก เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก เตะขาดคว้าทอง
  6. ชัวร์ที่สุด : ทัพตะกร้อไทย ส่ง 6 รายการกวาดเรียบ 6 ทอง เหรียญอื่นไม่เอา ส่วน”เจ้าปุ้ย พรชัย” เก็บเพิ่ม 18 ทองซีเกมส์ ในวัย 41 ปี
  7. เก๋าที่สุด : ต๋อง ศิษย์ฉ่อย อดีตนักสอยคิวมือ 3 ของโลก คว้าทองซีเกมส์แรกของตนเองในวัย 52 ปี
  8. ผิดหวังที่สุด : นักฟุตบอลทีมชาย-หญิง ทีมชาติไทย พ่ายเจ้าภาพเวียดนาม 0-1 อกหักได้เพียงเหรียญเงิน
  9. Happy ที่สุด : กองเชียร์เวียดนาม ทีมฟุตบอลชาย เฉือนชนะ คู่ปรับ ทีมชาติไทย คว้าเหรียญทอง และเวียดนามยังครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ กวาดไป 205 เหรียญทอง
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

เร่งแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหนีโจรชิงทอง 163 บาท

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทองคำ 163 บาท มูลค่ากว่า 8.6 ล้านบาท เช้าวันนี้ (15 ส.ค.) ทีมสืบสวน สภ.บางบ่อ ประชุมชุดและไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) มุ่งหน้า จ.ชลบุรี เน้นจุดเสี่ยงตลอดแนวถนนเทพรัตน รวมถึงเส้นทางรองที่เชื่อมต่อออกพื้นที่ โดยวางแนวทางสอบสวนที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ตัวผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะประเด็นชุดไรเดอร์ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้เชิญพยานแวดล้อม พนักงานร้านทอง สอบปากคำอย่างละเอียด ขอเวลาตำรวจทำงาน พร้อมกำชับหากพบตัวคนร้ายให้ใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนักด้วยความรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน.-สำนักข่าวไทย

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]