“หงส์แดง” ผ่านเข้าชิงดำ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

สเปน 4 พ.ค. – “หงส์แดง” ฟอร์มร้อนแรง หลังบุกชนะ บียาร์เรอัล ถึงถิ่น 3-2 เข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยประตูรวม 5-2 รอพบผู้ชนะระหว่าง แมนฯ ซิตี้ กับ เรอัล มาดริด

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 บียาร์เรอัล ทีมดังจากศึกลา ลีกา สเปน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเกมแรก “หงส์แดง” เปิดบ้านเอาชนะมาได้ก่อน 2-0 เกมนี้ “เรือดำน้ำสีเหลือง” พลาดท่าแพ้อีกครั้ง หลังออกนำไปก่อนในครึ่งแรก 2-0 จาก บูลาย เดีย นาทีที่ 3 และ ฟรองซิส ค็อกเกอแล็ง นาทีที่ 41

ครึ่งหลัง “หงส์แดง” บุกหนัก และยิง 3 ประตูรวด เริ่มจาก ฟาบินโญ นาทีที่ 62 หลุยส์ ดิอาซ นาทีที่ 67 ก่อนที่ ซาดิโอ มาเน ยิงประตูปิดท้ายให้ “หงส์แดง” เอาชนะ 3-2 ในนาทีที่ 74 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ด้วยประตูรวม 2 นัด 5-2 เข้าไปยืนรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ เรอัล มาดริด โดยรอบชิงดำจะมีขึ้นที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ชานกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

เจอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เปิดเผยถึงการแก้เกมช่วงพักครึ่ง ก่อนแซงชนะ บียาร์เรอัล 3-2 ว่า ตอนพักครึ่ง ตนบอกพวกเขาไปว่า ต้องเล่นให้ดีขึ้นในครึ่งหลัง จำเป็นต้องหาพื้นที่ให้ได้มากขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และอย่าเล่นเข้าทางคู่แข่งที่ใช้แท็กติกประกบตัว

กุนซือ “หงส์แดง” กล่าวถึงการเปลี่ยน ดิโอโก โชตา ออก แล้วส่ง หลุยส์ ดิอาซ ลงมาพลิกเกมครึ่งหลังว่า ดิโอโก โชตา ไม่ได้เป็นปัญหาของเราในครึ่งแรก ไม่เลยแม้แต่น้อย แต่เรามี 11 ปัญหาต่างหากในครึ่งแรก นอกจากนี้ คลอปป์ ยังกล่าวว่า การส่ง หลุยส์ ดิอาซ ลงมาแทน ดิโอโก โชตา เพื่อเปลี่ยนเกมว่าไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง แต่เป็นทั้งทีมที่ทำให้ผลงานดีขึ้น

ด้าน อูไน เอเมรี กุนซือของบียาร์เรอัล ยอมรับว่า ลิเวอร์พูล คู่แข่ง สมควรเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ทีมของเขาก็แสดงให้เห็นว่าเป็นทีมที่ดีเหมือนกัน เราทำได้ดีกับ ยูเวนตุส, บาเยิร์น มิวนิก และฟอร์มบางส่วนที่ยอดเยี่ยมกับ ลิเวอร์พูล แต่คืนนี้เราแสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า พวกเราก็คือทีมที่ดีและมีโอกาสจะทำได้เช่นกัน

ส่วนคืนนี้ เวลา 02.00 น. มีเตะอีก 1 คู่ เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ โดย มาดริด ชนะได้ถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุด รวมทุกรายการ หลังเปิดบ้านถล่มเอาชนะ เอสปันญอล 4-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด และผงาดคว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน สมัยที่ 35 มาครองได้สำเร็จ ส่วนผลงานนัดแรก มาดริด แพ้ แมนฯ ซิตี้ 3-4 ความพร้อมในเกมนี้ คาร์โล อันเชลอตติ ยังคงไม่สามารถใช้งาน เอแดน อาซาร์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ แกเร็ธ เบล และ ลูก้า โยวิช ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์อีกด้วย แต่มีข่าวดีคือ ดาวิด อลาบา น่าจะพร้อมช่วยทีมสำหรับเกมนี้ นอกจากนี้จะได้ตัว เอแดร์ มิลิเตา และ นาโช เฟร์นานเดซ พ้นโทษแบนในลีกกลับมาเป็นตัวเลือกในการจัดทัพอีกครั้ง

ทางด้าน แมนฯ ซิตี้ คว้าชัยมา 4 เกมติดต่อกัน รวมทุกรายการ หลังบุกไปถล่มเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ส่วนผลงานนัดแรกในรอบรองชนะเลิศของรายการนี้ เปิดบ้านเฉือนชนะ เรอัล มาดริด 4-3 สภาพทีมในเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังคงไม่มี ไคล์ วอล์กเกอร์ ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ เนธาน อาเก้ และ จอห์น สโตนส์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอีกด้วย แต่มีข่าวดีคือ จะได้ตัว ชูเอา คานเซโล พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย