ญี่ปุ่น 31 ส.ค.64-การแข่งขันกรีฑา “พาราลิมปิกเกมส์ 2020” ที่โอลิมปิก สเตเดี้ยม วีลแชร์เรซซิ่ง 1,500 ม. ชาย คลาส ที 54 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมี่ ประวัติ วะโฮรัมย์ นักซิ่งวีลแชร์ทีมชาติ เจ้าของ “แชมป์เก่า”รายการนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พร้อมด้วย ภูธเรศ คงรักษ์ นักวีลแชร์ดาวรุ่งทีมชาติไทย ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองแดงในรายการ วีลแชร์ 5,000 ม. มาครองได้ก่อนหน้านี้ ลงล่าเหรียญทองในรายการนี้ด้วย
โดยเมื่อสัญญาณปล่อยตัวดังขึ้น เป็น มาร์เซล ฮุก นักซิ่งจาก สวิสเซอร์แลนด์ ที่ออกมานำตั้งแต่ช่วงแรก ขณะที่ ประวัติ วะโฮรัมย์ พยายามซิ่งตามจี้มาติดๆ จนมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของ “แชมป์เก่าจากไทย” พยายามเร่งสปีดความเร็วหมายไล่บี้อย่างเต็มที่หมายจะแซงให้ได้ แต่ทว่า มาร์เซล ฮุก แรงไม่ตก ทำให้ไล่ไม่ทัน สุดท้าย ประวัติ ซิ่งเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 2 ด้วยเวลา 2.50.20 นาที ทำให้คว้าเพียงเหรียญเงิน มาครองเท่านั้น
ขณะที่ ภูธเรศ คงรักษ์ ยังโชว์ฟอร์มเฉียบไม่แพ้กัน มาเร่งสปีดให้ช่วง 100 ม.สุดท้าย แซง ยง เซียง จากจีน เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ได้แบบหวิดหวุด ด้วยเวลา 2.50.68 นาที คว้าเหรียญทองแดง มาครองได้สำเร็จ ส่วนเหรียญทอง มาร์เซล ฮุก สถิติ 2.49.55 นาที โดยทำลายสถิติโลก ที่เบรนต์ ลากาตอส จากแคนาดา ทำไว้ที่ 2:51.84 นาที เมื่อปี 2017 อีกด้วย
อย่างไรก็ดีสำหรับ ประวัติ วะโฮรัมย์ และ ภูธเรศ คงรักษ์ ยังเหลือโปรแกรมลงแข่งขันในประเภทลู่อีก 1 รายการ คือ วีลแชร์ 800 ม.ชาย คลาส ที 54 และจะลงแข่งขันรอบคัดเลือก ในวันที่ 2 กันยายน 2564
ขณะที่ในรายการวิ่ง 100 ม.หญิง คลาส ที 47 รอบคัดเลือก ฮีตที่ 1 ที่มี ภัคจิราพร ก๋ากัน ลมกรดพาราสาวทีมชาติไทย ผลปรากฎว่า ลมกรดพาราสาวทีมชาติไทย พยายามเร่งสปีดฝีเท้าอย่างเต็ม เพื่อทำผลงานของตัวเองออกมาให้ดีที่สุด พร้อมสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยมาด้วยเวลา 13.25 วินาที เป็นอันดับที่ 7 ของฮีตที่ 1 และเป็นที่ 14 ในอันดับเวลารวม ทำให้ไม่ผ่านเข้าไปชิงชัยในรอบไฟนอล อย่างไรก็ดี ภัคจิราพร ก๋ากัน ยังเหลือการแข่งขันอีก 1 รายการ ในวิ่ง 200 ม.หญิง คลาสที 47 และจะลงแข่งขันในรอบคัดเลือก ในวันที่ 4 กันยายน 2564-สำนักข่าวไทย