“แต้ว” ไม่เสียใจได้ทองแดงมวยสากลโอลิมปิก ยอดอัดฉีดเกือบ 9 ล้านบาท

5 ส.ค.-“แต้ว” เผยหลังพ่ายนักชกไอร์แลนด์ ระบุพอใจกับผลงานในรอบนี้แล้ว เพราะทำเต็มที่แล้ว แม้ผลการตัดสินจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง จบการแข่งขันแล้วก็ไม่ได้รู้คาใจอะไร ที่ต้องทำต่อไปคือ กลับไปปรับตัวเราเอง ถ้าไหวเดี๋ยวกลับมาสู้ต่อที่ปารีส

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว2020 ที่โกกุกิกัง อารีน่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น  รุ่นน้ำหนัก 60 กก.หญิง รอบรองชนะเลิศ “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกไทยจากจ.อุดรธานีขึ้นเวทีชกกับเต็ง 1 เคลลี่แฮร์ริงตัน จากไอร์แลนด์คู่ต่อสู้ที่เคยเอาชนะนักชกไทยในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์โลก ปี 2018 ทำให้สถิติ สุดาพร เป็นรองจนต้องออกมาศึกษาแก้เกมคู่แข่งก่อนขึ้นชกมาอย่างเต็มที่


ทันทีที่เปิดฉากการแข่งขันยกแรก ต้นยกทั้งคู่ต่างดูเชิงกันก่อนที่ สุดาพร จะตัดสินใจเดินหน้าเข้าต่อยหมัดเข้าลำตัวหลายครั้ง ขณะที่ แฮร์ริงตัน ก็หาจังหวะออกหมัดต่อยคืนได้หลายหมัดหมดยกนักชกไทยแพ้คะแนน 2-3 

ยกสอง สุดาพร สาวเท้าเดินเข้าหาคู่ต่อสู้บุกออกหมัดต่อยเข้าเป้าแบบจะแจ้งอยู่หลายครั้งจน แฮร์ริงตัน ต้องถอยตั้งรับตลอด หมดยกนี้นักชกไทยกลับมาชนะ 3-2 


มาถึงยกสุดท้าย สุดาพร สวมหัวใจแกร่งบุกตะลุยสาวหมัดใส่คู่ต่อสู้ได้อย่างเฉียบขาดหลายหมัดสร้างเสียงเฮให้กองเชียร์ทั้งในสนามและที่ประเทศไทยได้ตลอด ขณะที่ แฮร์ริงตัน เองก็มีจังหวะปล่อยหมัดแลกกลับคืนได้บ้างจนจบยกสาม กรรมการได้ตัดสินให้ นักชกจากไอร์แลนด์ เป็นผู้ชนะด้วยคะแนนที่เฉือนชัยไปหวุดหวิด 3-2 เสียง

เคลลี่ แฮร์ริงตัน จากไอร์แลนด์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเพื่อชิงเหรียญทองกับ เบทริซ เฟร์เรย์ร่า จากบราซิล ขณะที่นักชกไทย “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ทำได้ดีที่สุดคว้าเหรียญทองแดง และเป็นฮีโร่ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกำปั้นสาวไทยที่คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์คนแรก

หลังการชก สุดาพร กล่าวว่า พอใจกับผลงานในรอบนี้แล้ว เพราะถือว่าตัวเองได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แม้ผลการตัดสินที่ออกมาจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ก็ต้องว่ากันไปตามเกม ส่วนคะแนนที่ออกมา 2-3 เสียง ก็ถือว่าดี ถือว่าสูสีมากและเมื่อดูตามฟอร์มที่ต่อย ก็ต้องบอกว่าไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ และคู่ชกไอร์แลนด์คนนี้ก็เป็นมวยที่ชกยาก เพราะเป็นมวยสเต็ปดี และต่อยยาว ซึ่งจุดที่ทำให้เขามีคะแนนเหนือกว่าก็อาจเป็นเพราะเขาเป็นมวยที่ต่อยยาว แล้วสเต็ปออก ซึ่งก็ทำให้ต่อยยากมากๆ


“จบการแข่งขันแล้วก็ไม่ได้รู้คาใจอะไร ที่ต้องทำต่อไปก็คือ ต้องกลับไปปรับตัวเราเอง และถ้ากลับไปแล้ว เราก็ต้องดูร่างกายก่อนว่ายังไหวไหม ถ้าไหวก็เดี๋ยวกลับมาสู้ต่อที่ปารีส” 

สุดาพร กล่าวอีกว่า ก่อนชกได้โทรคุยกับแม่เพื่อขอพร ซึ่งแม่ก็บอกให้ทำเต็มที่ ผลจะออกมาอย่างไรก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ขอให้ทำเต็มที่พอ  “สุดท้ายหนูอยากขอบคุณแฟนกีฬาไทยทุกคนที่ส่งแรงใจมาเชียร์หนูในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคม ผู้ฝึกสอนมวยทุกคนที่อยู่เบื้องหลังในความสำเร็จของหนูในครั้งนี้ค่ะ” นักชกเหรียญทองแดงโตเกียวเกมส์ 2020 กล่าวทิ้งท้าย

ด้านต้นสังกัด กองทัพเรือ ล่าสุดว่าที่ เรือโทหญิง พุทธรักษา โรคารักษ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ได้เผยว่า หลังจบการแข่งขัน พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้โทรศัพท์ให้กำลังใจ อาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพร สีสอนดี ทันทีพร้อมขอบคุณในความมุ่งมั่นความเสียสละสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติในครั้งนี้ 

ขณะเดียวกัน กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือได้ขออนุมัติรางวัลพิเศษและการบรรจุเข้ารับราชการ ให้แก่ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร ตามหลักเกณฑ์การเสนอขอเลื่อนยศและการให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬาในสังกัดกองทัพเรือ เป็นกรณีพิเศษ ซึ่ง สุดาพร ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี จากคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศาสนาและวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข ซึ่งตามหลักเกณฑ์การขอเลื่อนยศ และเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้น ในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป ให้เสนอขอปรับวุฒิ และแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามหลักเกณฑ์ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี จะเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตร ได้รับการแต่งตั้งยศเป็น เรือตรี

 ส่วนเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้สำหรับ “น้องแต้ว” นั้นในเบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 4.8 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี รวมทั้งยังได้รับเงินอัดฉีดพิเศษจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษ 2 ล้านบาท

นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญโอลิมปิกเกมส์เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี เหรียญทอง เดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาทโดยสุดาพรจะได้รับเงินเดือน 8,000 บาท รวมเป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นเงิน 1,920,000 บาท รวมทั้งสิ้นน้องแต้วรับเงินรางวัลอัดฉีดเบื้องต้นแล้ว 8,720,000 บาท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]