สมาคมมวยฯ ไม่ติดใจผลตัดสิน “ฉัตร์ชัยเดชา”

ญี่ปุ่น 2 ส.ค. – สุดาพร สีสอนดี เตรียมชกรอบ 8 คนสุดท้าย มวยสากลฯ โตเกียวเกมส์ วันพรุ่งนี้ ชนะการันตีเหรียญทองแดง ขณะที่ “โปรเม” เอรียา และ “โปรแพตตี้” ปภังกร พร้อมลุยกอล์ฟหญิงในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ สมาคมมวยฯ ไม่ติดใจผลตัดสิน “ฉัตร์ชัยเดชา”


นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการทีม ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวย กล่าวหลัง “เจ้าสด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี แพ้ต่อ “ลาซาโร อัลวาเรซ” นักชกจากคิวบา ไปแบบคู่คี่สูสี 2-3 เสียง จนทำให้ตกรอบ 8 คนสุดท้าย มวยสากล โอลิมปิกเกมส์ 2020 ว่าตนพูดในฐานะคนทำมวย คิดว่าเราไม่น่าแพ้ แต่ยอมรับในคำตัดสินของกรรมการในการทำหน้าที่ครั้งนี้ อย่างที่บอกทั้งคู่ต่างมีดีกรีและมีประสบการณ์ที่สูงพอๆ กัน หากเกมไม่ขาด โอกาสที่จะออกหน้าไหนก็ได้ ในเรื่องของการตัดสินตนรับได้ เพราะไอโอซี หรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ได้เน้นย้ำอยู่ตลอดถึงความโปร่งใส แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องชื่นชมสปิริตของ “เจ้าสด” ทำหน้าที่ครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์

ส่วนวันพรุ่งนี้ เวลา 10.50 “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกวัย 29 ปี ดีกรีเหรียญเงินศึกชิงแชมป์โลก จะชกในรอบ 8 คนสุดท้าย พบ แคโรไลน์ ดูบัวส์ จากสหราชอาณาจักร วัย 20 ปี ในรุ่นไลท์เวท 60 กก.หญิง หากชนะจะคว้าเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อย


ด้านความเคลื่อนไหวของทีมขี่ม้าอีเวนติ้งไทย หลังจากที่ 3 นักกีฬาขี่ม้าไทยแข่งขันไม่จบ ในการแข่งขันอีเวนติ้ง วันที่ 2 ประเภทครอสคันทรี โดย “มิ้นต์” อารีย์ณัฎฐา ชวตานนท์ และม้า Boleybawn Prince ประสบอุบัติเหตุ หลังกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเท้า, “บอมบ์” วีรภัฏ ปิฏกานนท์ และม้า Carnival March ตกม้า ส่วน “นัท” กรธวัช สำราญ และม้า Bonero K ปฏิเสธการกระโดด ทำให้แข่งไม่จบ ถูกปรับคนละ 200 คะแนน และหล่นไปอยู่อันดับสุดท้ายที่ 15

นายนารา เกตุสิงห์ ผู้จัดการทีมขี่ม้าทีมชาติไทย ได้ทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทีมขี่ม้า รวมถึงทีมสัตวแพทย์ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง (Jumping) ในวันนี้ เพื่อสวัสดิภาพที่ดีของม้าในอนาคต และการรักษาสภาพร่างกายม้าให้สมบูรณ์ต่อการแข่งขันในระยะยาว ยืนยันม้าและนักกีฬาทุกคนปลอดภัย และไม่มีอาการบาดเจ็บรุนแรง

การแข่งขันปืนสั้นยิงเร็ว 25 เมตร กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สนามอาซากะ ชู้ตติ้ง เรนจ์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 2 สิงหาคม เป็นการแข่งขันสเตจที่ 2 หลังจบวันแรก “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักแม่นปืนหนุ่มไทยวัย 17 ปี ลั่นกระสุนได้อันดับ 14 รวม 286 คะแนน
การยิงวันที่สอง อิสรานุอุดม ยิงทำ 284 คะแนน รวม 2 วัน 570 จบที่อันดับ 20 จากทั้งหมด 26 คน ไม่ติดอันดับ 1-6 ที่จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ


“กัปตัน” ที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นสมัยแรกในชีวิต กล่าวว่า ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่สุดของตนเองที่ได้แข่งขันกับนักกีฬาจากทั่วโลก และจะขอมุ่งมั่นฝึกซ้อมพัฒนาตนเองต่อไป

ด้านความเคลื่อนไหวของกอล์ฟหญิงโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่จะแข่งขันรอบแรก ในวันที่ 4 สิงหาคม ล่าสุดมีการแบ่งก๊วนตีกันเรียบร้อยแล้ว โดย “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ โปรสาวไทยมือ 13 ของโลก จะออกรอบพร้อมกับ ลี มิน จี โปรจากออสเตรเลีย มือ 7 ของโลก และโซเฟีย โปปอฟ มือ 26 ของโลก จากเยอรมนี จะออกรอบในเวลา 08.14 น. ส่วน “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล มือ 21 ของโลก อยู่ในก๊วนเดียวกับ คิม ฮโย จู มือ 6 ของโลก จากเกาหลีใต้ และคาร์โลตา ซิกันดา มือ 35 ของโลก จากสเปน จะออกรอบในเวลา 08.25 น. ออกรอบต่อกัน

การแข่งขันกรีฑาที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตรหญิง ปรากฏว่า จัสมิน คามาโช ควิน ลมกรดวัย 24 ปี จากเปอร์โตริโก วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยสถิติ 12.37 วินาที คว้าเหรียญทอง อันดับ 2 เคนดร้า แฮร์ริสัน จากสหรัฐ 12.52 และเหรียญทองแดง เมแกน แทปเปอร์ จากจาไมกา เวลา 12.55 วินาที

กระโดดไกลไกลชาย มิลเทียดิส เทนโตกลู จากกรีซ ทำสถิติดีที่สุดที่ 8.41 เมตร เท่ากับ ฮวน มิเกล อีเชวาร์เรีย จากคิวบา แต่สถิติครั้งอื่นๆ ของนักกระโดดไกลจากกรีซที่ทำได้ดีกว่าจึงทำให้ เทนโตกลูคว้าเหรียญทองไป ส่วน อิเชวาร์เรีย ได้เหรียญเงิน เหรียญทองแดงตกเป็นของ เมย์เคล มาสโซ จากคิวบา

แบดมินตันหญิงคู่ โอลิมปิกเกมส์ รอบชิงเหรียญทอง เกรเซีย โปลี และอาพริยานี ราฮายู นักตบขนไก่หญิงคู่อินโดนีเซีย คู่มือ 6 ของโลก สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แบดมินตันหญิงคู่ โอลิมปิกเกมส์ เป็นครั้งแรกให้กับประเทศ หลังเอาชนะคู่มือ 3 ของโลกจากจีน เฉิน ชิง เฉิน กับ เจีย อี้ ฟ่าน 2-0 เกม 21-19, 21-15 โดยถือเป็นเหรียญทองแรกของอินโดนีเซียในโอลิมปิกครั้งนี้ และเป็นเหรียญแบดมินตันหญิงคู่โอลิมปิกเหรียญแรก ตอนนี้อินโดนีเซียได้ไปแล้ว 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง เป็นชาติอาเซียนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในตอนนี้

ฟาน ฮัสซัน นักวิ่งระยะไกลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เรียกเสียงปรบมือให้กับแฟนกีฬาอย่างมากในการแข่งขันวิ่ง 1,500 เมตร รอบคัดเลือก ฮัสซันเจ้าของแชมป์โลกรายการ 1,500 และ 10,000 เมตร ในปี 2019 ชนกับนักวิ่งเอธิโอเปียล้มลงแต่ก็ลุกขึ้นมาเร่งสปีดเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 4 นาที 05.17 วินาที ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป

หลังจากที่คริสตินา ทิมานอฟสกายา นักวิ่งทีมชาติเบลารุส ร้องขอการดูแลจากตำรวจญี่ปุ่นและขอลี้ภัย เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่สนามบินฮาเนดะ ในกรุงโตเกียว หลังจากคณะกรรมการโอลิมปิกเบลารุสจะส่งเธอกลับบ้าน เพราะไปตำหนิโค้ชที่ส่งแข่งขันผิดรายการ

มาร์ก อดัมส์ โฆษกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เปิดเผยว่า ไอโอซีจะมีการหารือร่วมกับตำรวจญี่ปุ่นและตัวนักกีฬาถึงวันต่อๆ ไปที่จะอยู่ในญี่ปุ่น และไอโอซีจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เมื่อทิมานอฟสกายาได้ตัดสินใจแล้ว

มีรายงานว่าต้องการลี้ภัยไปอยู่ในประเทศอื่นในทวีปยุโรป พร้อมอ้าแขนรับนักกรีฑาคนนี้ไปอยู่ในประเทศ

สีสันโตเกียวเกมส์ สองนักวิ่ง อิซาห์ เจเว็ต จากสหรัฐ และไนเจล เอมอส จากบอตสวานา วิ่งชนกันเองระหว่างรอบคัดเลือกวิ่ง 800 เมตร จนล้มไปด้วยกัน แต่ยังกอดคอกันเดิน และวิ่งเข้าเส้นชัยไปด้วยกัน เรียกเสียงปรบมือจากทั้งสนาม แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ผ่านสู่รอบชิงชนะเลิศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]