28 มิ.ย.-ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนนี้ แข่งขัน 2 คู่ เวลา 23.00 น. โครเอเชีย พบ สเปน และ 02.00 น. ฝรั่งเศส พบ สวิตเซอร์แลนด์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้ายคืนนี้มีเตะอีก 2 คู่ เวลา 23.00 น. โครเอเชีย พบ สเปน และเวลา 02.00 น. ฝรั่งเศส พบ สวิตเซอร์แลนด์
โดยคู่แรก โครเอเชีย พบ สเปน ที่พาร์เกน สเตเดียม ในกรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก ซลัตโก ดาลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชีย ที่พาทีมชนะสกอตแลนด์ 3-1 ในนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มดี คืนนี้จะไม่มีอีวาน เปริซิซ ที่ติดโควิด กับ เดยัน ลอฟเรน ที่ได้ใบเหลืองครบโควตาต้องติดโทษแบน ส่วนตัวหลักคนอื่นพร้อมลงสนาม นำโดย ลูกา โมดริช กัปตันทีม, อันเต เรบิซ , มาเตโอ โควาซิช, นิโกลา วลาซิช และบรูโน เป็ตโควิช
ด้านหลุยส์ เอ็นริเก กุนซือทีมกระทิงดุ สเปน ที่ถล่มสโลวาเกีย 5-0 พลิกสถานการณ์เข้ารอบ ด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มอี นัดนี้ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่อาจมีการปรับทีมเล็กน้อย โดยเปา ตอร์เรส ที่เป็นสำรองในนัดล่าสุดน่าจะกลับมาออกสตาร์ทตัวจริง เช่นเดียวกับ ปาโบล ซาราเบีย ส่วนตัวหลักคนอื่นพร้อมลงสนามทั้ง เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, อัลบาโร โมราตา, อายเมริค ลาปอร์กต์, จอร์ดี อัลบา, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ กัปตันทีม และ เคราร์ด โมเรโน โดยทัศนะของ 3 กูรูในเกมคู่นี้ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย และ “พี่ป๋อง” กพล ทองพลับ เห็นตรงกันว่า สเปน จะเอาชนะไปได้
อีกคู่เวลา 02.00 น. ทีมตราไก่ ฝรั่งเศส พบ สวิตเซอร์แลนด์ โดยดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือฝรั่งเศส พาทีมเสมอโปรตุเกส 2-2 ในนัดสุดท้ายรอบแรก ทำสถิติเสมอ 2 นัดติดและไม่แพ้มา 10 นัด ผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม เอฟ
นัดนี้จะไม่มีลูกาส์ ดีญ แบ็กซ้ายจากเอฟเวอร์ตัน ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ตัวหลักคนอื่นพร้อมช่วยทีมทั้ง อูโก้ โยริส นายทวารกัปตันทีม, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน , เอ็นโกโล กองเต้, ปอล ปอกบา, อองตวน กรีซมันน์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และคาริม เบนเซมา
ด้านวลาดิเมียร์ เป็ตโควิช กุนซือทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่พาทีมชนะตุรกี 3-1 ในเกมสุดท้ายรอบแรก ผ่านเข้ารอบในโควตา 1 ใน 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดจากกลุ่ม เอ คาดว่าน่าจะยึดทีมจากเกมล่าสุดเป็นหลัก เพราะทำผลงานได้ดี นำโดย แยนน์ ซอมเมอร์ ลงเฝ้าเสา, นิโก เอลเวดี, มานูเอล อคานจี, ริคาร์โด โรดริเกซ, กรานิต ชากา และสตีเว่น ซูเบอร์ ส่วนเซอร์ดาน ชากิรี่ จะเป็นเพลย์เมกเกอร์ทำเกมรุกให้กับคู่หัวหอก ฮาริส เซเฟโรวิช และ บรีล เอ็มโบโล่
โดยทัศนะของ 3 กูรูในเกมคู่นี้ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ, “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย และ “พี่ป๋อง” กพล ทองพลับ เห็นตรงกันว่า ฝรั่งเศส ที่เหนือกว่าทุกขุมกำลังจะเอาชนะไปได้
ส่วนศึกยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนที่ผ่านมา คู่บิ๊กแมตช์ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ชุดแดง ยังรักษาสถิติเป็น 1 ใน 2 ทีมร่วมกับ อิตาลี ที่ทำสถิติชนะรวดเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน หลังเฉือนเอาชนะ “ทีมฝอยทอง” โปรตุเกส แชมป์เก่า ที่นำทีมโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0 จากประตูสุดสวยของ ธอร์กาน อาซาร์ มิดฟิลด์จากทีมเสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ซัดด้วยขวาเต็มข้อเข้าไปในนาทีที่ 42 แต่เบลเยียม ต้องลุ้นเควิน เดอ บรอยน์ กับ เอแดน อาซาร์ สองจอมทัพของทีมที่ได้รับบาดเจ็บในนัดนี้ ว่าจะกลับมาฟิตทันในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย พบ อิตาลี ในคืนวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ได้หรือไม่ ส่วนโรนัลโด้ ที่ยิงไป 5 ประตูนำเป็นดาวซัลโวหมดลุ้นที่จะทำสถิติยิงประตูสูงสุดในนามทีมชาติแซง อาลี ดาอี ของอิหร่าน ที่ยิงได้ 109 ประตูเท่ากัน
อีกคู่ที่สนามปุสกัส อารีนา กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ที่ชนะมา 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม พบ สาธารณรัฐเช็ก ครึ่งแรกเสมอ 0-0 ครึ่งหลังนาทีที่ 55 เนเธอร์แลนด์ ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ มัตไธส์ เดอ ลิกท์ เจตนาทำแฮนด์บอลถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้เดอ ลิกท์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ถูกไล่ออกจากสนามในรอบน็อกเอาท์ศึกยูโร ด้วยวัย 21 ปี 319 วัน จากนั้นนาทีที่ 68 โทมัส โฮเลส โหม่งให้เช็ก ขึ้นนำ 1-0 ก่อนที่ พาทริก ชิค ดาวยิงจากเลเวอร์คูเซ่น จะยิงประตูที่ 4 ในรายการนี้นาทีที่ 80 ทำให้เขามีลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวในยูโรครั้งนี้ ช่วยให้เช็ก ชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-0 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบ เดนมาร์ก ใน วันที่ 3 กรกฎาคมนี้
ทำให้ผ่านครึ่งทางของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ตอนนี้ได้ 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว ได้แก่ เบลเยียม, อิตาลี , เช็ก และเดนมาร์ก.-สำนักข่าวไทย