“โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์”ครองโพเดียมแชมป์โลก 2 ปีซ้อน

โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ทีมแข่งรถสัญชาติไทย ภายใต้การสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประสบความสำเร็จป้องกันแชมป์ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ทีมแข่งรถจากประเทศไทยคว้าแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รับถ้วยรางวัลอันดับ 1 และ 3 ในรุ่น SP 3 ด้วยรถยนต์ Toyota Corolla Altis GR Sport สมศักดิ์ศรีดีกรีแชมป์เก่า ในการแข่งขันมาราธอนทางเรียบ 24 ชม. สุดโหดระดับตำนาน “49th ADAC Total 24h-Race Nurburgring 2021” ได้สำเร็จ ด้วยสถิติใหม่ความเร็วต่อรอบสูงสุด 10.00.596 นาที พร้อมรับรางวัลพิเศษ ‘Ambassador of the Year’ จาก ADAC 24h Nurburgring Series ณ เมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี


สำหรับการแข่งขัน “49th ADAC Total 24h-Race Nurburgring 2021” โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ เป็นทีมแข่งรถจากประเทศไทยทีมเดียวที่เข้าร่วมแข่งขันในมาราธอน 24 ชม. สุดโหดระดับตำนาน ที่ขึ้นชื่อทั้งความหฤโหด อันตราย และขับยาก โดยทีมลงสนามในรุ่น Super Production 3 (SP3) โดยใช้รถ Toyota Corolla Altis GR Sport จำนวน 2 คัน โดยรถหมายเลข 119 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ มานัต กุละปาลานนท์ และรถหมายเลข 120 ขับโดย เฉิน เจี้ยน หงษ์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และ นาโอกิ คาวามูระ ลงสนามพิสูจน์สมรรถนะและความแกร่งทรหดของทั้งคนและรถ เริ่มจากการควอลิฟายด์ รถหมายเลข 119 อยู่ในอันดับที่ 2 และหมายเลข 120 อยู่ในอันดับที่ 4

ก่อนเข้าสู่ช่วงแข่งขันบนเส้นทางสุดโหดที่มีระยะทางต่อรอบกว่า 25 กม. 73 โค้งอันตรายที่คดเคี้ยวไปตามหุบเขาและหมู่บ้าน กับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แค่ชั่วโมงแรกของการแข่งขันฝนก็ตกลงมาไม่ขาดสาย รถหลายคันเกิดอุบัติเหตุ แต่การแข่งขันยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นและยากลำบาก เข้าสู่ต้นชั่วโมงที่ 7 ของการแข่งขันผู้จัดตัดสินใจประกาศธงแดง ให้ยุติการแข่งขันชั่วคราว เนื่องจากฝนที่ตกลงมาทำให้ผิวแทร็กเปียกลื่น และมีหมอกที่ลงหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ เป็นอุปสรรคต่อทัศนวิสัยในการขับ ทำให้ต้องหยุดการแข่งขันเพื่อความปลอดภัยของนักแข่งทุกคน


หลังการรอคอยกว่า 13 ชม. สภาพสนามยังคงมีหมอกหนาและพื้นผิวยังมีความชื้น แต่ก็มีแสงสว่างเพียงพอต่อการแข่งขัน ผู้จัดจึงอนุญาตให้มีการแข่งขันต่อได้ ทันทีที่การสตาร์ทเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง รถหมายเลข 119 และ 120 กลับสู่สนาม กับเวลา 3 ชั่วโมงครึ่งที่เหลืออยู่ของการแข่งขัน เป้าหมายคือทำให้ดีที่สุดภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด รถหมายเลข 120 โดยการขับของ เฉิน เจี้ยน หงษ์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และ นาโอกิ คาวามูระ ก็สามารถเข้าสู่ธงหมากรุกคว้าโพเดียมชนะเลิศอันดับ 1 ในรุ่น SP 3 และ 73 Overall รวม 47 รอบสนาม Best Lap 10.18.039 และรถหมายเลข 119 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ มานัต กุละปาลานนท์ คว้าอันดับ 3 ในรุ่น SP3 และ 87 Overall รวม 45 รอบสนาม Best Lap 10.00.596 จากรถที่เข้าร่วมแข่งขันในปีนี้รวม 120 คัน ทำให้ธงชาติไทยได้มีโอกาสโบกสะบัดต่อหน้านักแข่งรถ และผู้ชมการแข่งขันจากทั่วโลกอีกครั้ง

และอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่เป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ปี ทำให้คณะผู้จัดการแข่งขันมอบรางวัลเกียรติยศ ‘Ambassador of the Year’ จาก ADAC 24h Nurburgring Series ให้กับนายสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีม Toyota Gazoo Racing Team Thailand ในฐานะบุคคลที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และมีส่วนร่วมในการผลักดันให้การแข่งขัน 24 ชม. นูร์เบอร์กริง ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศไทย และช่วยยกระดับวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตไทยให้เป็นที่รู้จักในรายการระดับโลกอีกด้วย นับเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศครั้งนี้

หลังจบการแข่งขัน นายสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งสังกัด โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ กล่าวว่า “รายการ 24 ชม. นูร์เบอร์กริง เป็นการแข่งขันที่มหัศจรรย์มากๆ เราเริ่มต้น 8 ปีที่แล้ว จากรถและทีมจากประเทศไทยที่ไม่มีใครรู้จัก แต่พวกเราก็ไม่เคยหยุดยั้งยังทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทั้งการพัฒนารถให้มีสมรรถนะในการขับที่ดีเพิ่มมากขึ้น รวมถึงวางแผนสำหรับทุกส่วนในการแข่งขันที่ต้องปรับให้ทันท่วงทีอยู่เสมอ แม้ในช่วงที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อันกดดันของโรคระบาดโควิด-19 ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความตั้งใจที่จะกลับมาแข่ง และวันนี้ผลแห่งความทุ่มเทและมุ่งมั่นก็ได้รับการพิสูจน์ออกมา คือ ทีมรักษาแชมป์คว้าอันดับ 1 และอันดับ 3 ขึ้นโพเดียมต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และผู้จัดมีมติเอกฉันท์มอบรางวัล ‘Ambassador of the Year’ จาก ADAC 24h Nurburgring Series ให้กับผม นับเป็นเกียรติประวัติที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง


ผมและทีมงานทุกคนขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ให้โอกาสและสนับสนุนให้พวกเราได้มาพิสูจน์สมรรถนะความแกร่งของรถยนต์จากสายการผลิตในประเทศไทย และความทรหดของทีมแข่งรถไทย และขอบคุณแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกท่านที่ติดตามให้กำลังใจมาตลอด ผมยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย และพร้อมที่จะผลักดันให้นักแข่งรุ่นใหม่ได้มีโอกาสลงแข่งขันในระดับนานาชาติมากขึ้น เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักแข่งชาวไทยบนเวทีระดับโลกต่อไปอย่างไม่สิ้นสุดครับ”

ทั้งนี้ การแข่งขัน ณ ประเทศเยอรมนี นักแข่งและทีมงานทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมถึงมาตรการการกักตัวในการเดินทางกลับเข้าประเทศด้วย

สำหรับแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ร่วมติดตามชมภาพความสำเร็จของทีมแข่งรถหนึ่งเดียวจากประเทศไทย “โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์” ในการรักษาแชมป์และสร้างประวัติศาสตร์ครั้งยอดเยี่ยมในการแข่งขัน “ADAC Total 24h-Race Nurburgring 2021” จากเมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี เพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย