กรุงเทพฯ 20 พ.ค.- การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พยายามดำเนินการทุกวิถีทางในการต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อให้ทัพนักกีฬาไทยมีความพร้อมสำหรับสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์
ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ สิ่งที่จำเป็นและเป็นความต้องการของประชาชนก็คือวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่รัฐบาลกำลังเร่งจัดหาเข้ามา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ซึ่งในส่วนของวงการกีฬาไทย ที่มีการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานกำกับดูแลภายใต้สังกัดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่หวังจะตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนนักกีฬา และบุคลากรทางการกีฬาภายในสิ้นเดือนนี้ ยังคงต้องรอการพิจารณาและประเมินในหลายๆ ด้านต่อไป
หลังจากล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ขอให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ส่งรายชื่อนักกีฬาทีมชาติไทย และบุคลากรทางการกีฬา จัดลำดับตามความสำคัญเร่งด่วน 6,000 คน ให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งรายชื่อไปยัง กรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ เพื่อกำหนดสถานที่ในการฉีดวัคซีนต่อไป
สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีน ที่คาดว่าจะใช้อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก หากสามารถก่อตั้งและดำเนินการควบคู่ไปกับหน่วยงานหลักของกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าจะมีศักยภาพฉีดได้ประมาณ 300 คนต่อวัน โดยตอนนี้มีนักกีฬาทีมชาติไทยจำนวน 450 คน จาก 26 สมาคมกีฬา ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว แต่สิ่งที่ผู้ว่าการ กกท. เป็นห่วงตอนนี้ คือการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬา ที่เกิดการติดเชื้อมาจากบุคคลภายนอกทั้งวอลเลย์บอล, สนุกเกอร์ และฟุตบอล
การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้รับการยืนยันจากญี่ปุ่นแล้วว่า นักกีฬาทีมชาติไทยที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนจะสามารถเดินทางเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ได้แน่นอน แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของเจ้าภาพอย่างเคร่งครัด ซึ่งตอนนี้สิ่งที่สำคัญนอกจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว ก็ต้องลุ้นให้โอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ สามารถจัดแข่งขันได้ตามโปรแกรมที่วางเอาไว้.-สำนักข่าวไทย