ทั่วโลกยอมรับ ไทยจัดแบด 3 รายการ ใบเบิกทางกีฬาไทย ในเวทีนานาชาติ

18 ก.พ.-ประสบความสำเร็จ เป็นอย่างดีสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ครั้งประวัติศาสตร์ ระดับเวิลด์ ทัวร์ ซุปเปอร์ 1000 รายการระดับสูงสุดของกีฬานี้ ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ของไทย


ตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในศึก โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ทุกสายตาจากทั่วโลก จับจ้องมาที่เรา
นอกจากผลงานอันยอดเยี่ยมของนักตบลูกขนไก่ไทย นำโดย “บาส” เดชาพล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี คู่ผสม ที่สร้างชื่อกวาด 3 แชมป์ติดต่อกัน ใน 3 สัปดาห์ แล้ว ต้องไม่ลืมว่า “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ หญิงคู่ ยังได้รองแชมป์ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น มาครองอีกด้วย และที่สำคัญอย่างยิ่งคือไทยเราในฐานะเจ้าภาพ สามารถส่งมือเยาวชนที่ดีๆอนาคตไกล ได้สามารถ ตีกับรุ่นพี่ระดับโลก ได้แบบสนุกไม่เสียชื่อ มากกว่า 20คน ต่อไปนี้ นักกีฬาเยาวชนรุ่นนี้ จะไม่กลัวใครแล้วบนเวทีแบดระดับโลก

ขณะเดียวกัน ไทยเรายังได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพ ประสิทธิภาพไปเรียบร้อยว่า การบริการจัดการของเรา ไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะกับมาตรการป้องกันโควิด-19 อันเข้มงวด ในชื่อ “บับเบิ้ล” ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกไปแล้ว ว่าได้ผลเป็นอย่างยิ่ง สำหรับมาตรการ บับเบิ้ล นักกีฬา เจ้าหน้าที่ จาก 22 ชาติ กว่า 850 คน ที่เดินทางมา รวมถึงนักกีฬาไทย ต้องเข้าพักในโรงแรมที่กำหนดไว้ และไม่สามารถออกจากบับเบิ้ลได้ เดินทางไปได้เพียงสนามฝึกซ้อม และแข่งขัน จะมีการตรวจโควิด-19 เข้มข้น ตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้ามาไทย และมีการตรวจอีกในทุก ๆ 3 วัน


การเดินทางไปยังสนามฝึกซ้อม สนามแข่งขัน ใช้รถบัสประเทศละ 1 คัน สนามฝึกซ้อม จะมีผนังกั้น โดยที่แต่ละประเทศ จะซ้อมครั้งละ 45 นาที และ ทำความสะอาดทันที 15 นาที ก่อนที่ประเทศอื่นจะเข้ามาซ้อมต่อสนามแข่งขัน ปกติ ใช้ 4 สนาม แต่ครั้งนี้ มี 3 สนาม เพื่อเว้นระยะห่าง ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ ภายในสนามแข่งขัน จะแบ่งโซน เพื่อลดการสัมผัส นักกีฬาเปลี่ยนลูกแบดมินตัน เอง จากเครื่องบรรจุลูกข้างสนาม ส่วนการสัมภาษณ์ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ทำผ่านระบบออนไลน์

อย่างที่ทราบกันดี มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเจ้าหน้าที่ หลายราย รวมทั้งมีการตรวจพบก่อนที่นักกีฬาจะเดินทางมาไทย ด้วย แต่นั่นก็สะท้อนว่า มาตรการที่ไทย วางไว้ ได้ผล อย่างไม่ต้องสงสัยนำมาซึ่งความปลอดภัยอย่างที่ได้เห็น และผลจากการดำเนินการของไทย ที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทั้งสปอนเซอร์หลัก อย่าง โยเน็กซ์ และ โตโยต้า ที่สนับสนุนการแข่งขัน หนุนหลังสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมฯ แล้ว ยังมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ร่วมด้วยช่วยกันอย่างเต็มที่ และขอปรบมือชื่นชมให้กับคณะทำงาน และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย มดงานทุกท่าน ที่ทำให้การจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการ ดำเนินการภายใต้มาตรการควบคุมโรคและพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 อย่างเคร่งครัดเข้มงวดส่งผลให้ประเทศไทย เป็นที่ยอมรับในทันทีในเวทีกีฬาโลก

เมื่อบรรดาองค์กรกีฬาชั้นแนวหน้าของโลก ส่งหนังสือ แสดงความยินดี และชื่นชมในความสำเร็จ มายัง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันไทย อย่างต่อเนื่อง มากมาย


นอกจาก โธมัส บาค ประธานไอโอซี ที่ให้คุณหญิงปัทมา ส่งรายละเอียด การจัดกีฬาในรูปแบบบับเบิ้ล ให้ จอห์น โคท ประธานคณะกรรมาธิการประสานงานโอลิมปิก โตเกียว 2020 ของไอโอซี ด้วยหวังว่าแนวทางนี้ จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับโตเกียวเกมส์ ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนก.ค.นี้ ที่ญี่ปุ่น

ถือเป็นสัญญาณบวก เมื่อองค์กรกีฬาโลก รับรู้ รับทราบ ก็ถือว่าเป็นใบเบิกทางครั้งสำคัญของประเทศไทย ของกีฬาชนิดต่าง ๆ ของไทย ในเวทีระดับโลก ก็ว่าได้
จากนี้ไป หากกีฬาชนิดไหน หรือไทย ต้องการจัดมหกรรมกีฬาใหญ่ ระดับไหน ต้องเรียกว่า สามารถทำได้ง่ายขึ้น เมื่อมีคุณหญิงปัทมา ช่วยกรุยทางไว้ให้แล้ว
แถมบวกความเชื่อใจ ไว้ใจ ยิ่งในภาวะโรคระบาดโควิดหนัก ไทยเรายังสามารถจัด การแข่งขันระดับโลก แบบทั่วโลกตะลึง ที่สามารถ ให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างปลอดภัย
ทุกอย่างที่จัดวันนี้ นับว่ามีผลต่ออนาคต โดยเฉพาะกับ การที่ไทยเราเสนอตัวจัดกีฬาโอลิมปิก เยาวชน หรือ ยูธโอลิมปิก ปี 2030 กับไอโอซี ก็มีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจ สูงขึ้นไปด้วย

เรียกได้ว่า รัฐบาลลงทุน เอกชน อย่าง โยเน็กซ์​ และ โตโยต้า ช่วยหนุนจัดแบดมินตันครั้งที่ผ่านมา ถือว่าคุ้มค่า มหาศาลช่วยกีฬาอื่น ๆ ได้อีกมากเลยทีเดียว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน