วิกฤติมวยไทย

กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อคนวงการมวยไม่แพ้อาชีพอื่น แม้ขณะนี้จะมีการผ่อนปรนให้เปิดเวทีจัดแข่งขันแบบปิดได้ใหม่ แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อโปรโมเตอร์หมดเงิน ขณะที่นักมวยต้องถอดนวมไปทำอาชีพอื่น


นับตั้งแต่พบการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อนครั้งแรกที่สนามมวยลุมพินี เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว จนต้องมีการปิดสนามมวยทุกแห่ง ได้ส่งผลกระทบต่อวงการมวยเป็นวงกว้าง ทำให้นักมวยพร้อมกับบุคคล และธุรกิจที่เกี่ยวข้องเดือดร้อนกันทั่วหน้า ไม่ว่าโปรโมเตอร์รายเล็ก รายใหญ่

“โบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ทายาท “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ผู้บริหารอาณาจักรมวยไทยค่ายเพชรยินดี เล่าให้ฟังถึงการระบาดรอบแรกว่า ในช่วง 4-5 เดือนแรก ตนในฐานะโปรโมเตอร์ของศึกเพชรยินดี ต้องดูแลนักมวยในสังกัด 60-70 ค่าย เยียวยาด้วยเงินสด เจลแอลกอฮอล์ อุปกรณ์มวย ใช้เงินไป 3 ล้านกว่าบาท แต่พอมีการผ่อนปรนให้กลับมามวยชกได้ในระบบปิดโดยที่ไม่มีผู้ชม จึงไม่มีค่าบัตรค่าผ่านประตู ขณะที่การจัดมวย รายได้หลักมาจากเงินก้อนนี้ เมื่อเก็บค่าบัตรไม่ได้ รายได้ก็เป็นศูนย์ กระทั่งหาทางออกด้วยการมาจัดแข่งขันแบบออนไลน์ ช่วงแรกสปอนเซอร์ก็ไม่เข้า ภาระทั้งหมดจึงตกไปที่บริษัทที่ต้องควักค่าใช้จ่ายเป็นค่าตัวนักมวยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ โชคดีอยู่บ้างที่นักมวยในสังกัดเข้าใจ ด้วยการยอมให้หักค่าตัวลงครึ่งหนึ่งเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ ช่วยกันประคับประคอง จนกระทั่งมีการอนุญาตให้กลับมาชกมวยแบบเปิดได้ คนดูกลับเข้าสนาม เริ่มมีรายได้จากค่าบัตรผ่านประตู รวมทั้งสปอนเซอร์ที่ทยอยเข้ามา แต่เพียงไม่นานถึงช่วงปลายปี โชคร้ายซ้ำเติม เกิดโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก บอกได้เลยว่าคนวงการมวยไม่เคยหนักขนาดนี้มาก่อน


ค่ายเพชรยินดี ที่มีธุรกิจหลักจากการจัดมวยไทย 2 เวทีมาตรฐาน คือ ลุมพินี และราชดำเนิน จัดศึกมวยสากลรายการต่างๆ มวยไทยแบบทัวร์นาเมนต์ และการจัดมวยแข่งขันยังต่างประเทศ มีรายได้หลายล้านบาทต่อปี กระทั่งเกิดการแพร่ระบาด ส่งผลให้รายได้เมื่อปีที่แล้วขาดทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ยังไม่รวมกับปีนี้ที่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าตัวเลขจะไปสิ้นสุดที่เท่าไร ในเมื่อโรคระบาดยังไม่จบ ซึ่งการจัดชกแต่ละครั้ง โปรโมเตอร์ต้องมีต้นทุนตั้งแต่ 400,000-1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นรายการเล็กหรือใหญ่ เป็นค่าสนาม ค่าตัวนักมวย และค่าบริหารจัดการต่างๆ

แม้ขณะนี้ ศบค. จะผ่อนปรนให้มีการแข่งชกมวยได้ในระบบปิดแล้วก็ตาม แต่เมื่อไม่มีผู้ชมก็ยากที่จะแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม โปรโมเตอร์มีภาระต้องเลี้ยงดูนักมวยในสังกัด แต่ไม่ได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หลายค่ายมวยภูธรเริ่มปิดตัวลง ส่วนนักมวยก็ต้องแยกย้ายทำกินหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีอื่น

โปรโมเตอร์หนุ่มจากค่ายเพชรยินดี ยังบอกอีกว่าธุรกิจมว ไม่เหมือนกับธุรกิจฟุตบอล หรือกีฬาที่ใหญ่กว่า เพราะคนทำมวยเป็นกลุ่มคนที่มีเพียงใจรัก ไม่มีเงินสนับสนุนจำนวนมาก ดังนั้น หากเจอภาวะแบบนี้ไปนานๆ ทุกคนคงอยู่กันไม่ได้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ