แบดมินตัน 2 รายการแรกในไทยแบ่งสายแล้ว

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.- แบดมินตัน 2 รายการแรกในไทย แบ่งสายแล้ว “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” ด่านแรก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 5 ของโลก เปิดสนามพบ ดาวรุ่งจากสิงคโปร์ เหยา เจียหมิน มือ 26 ของโลก ส่วน “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มือ 22 ของโลก ชน ไถ้ ซื่อหยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน ด้าน “เพชร” โฆษิต เพชรประดับ มือ 33 ของโลก เจอศึกหนัก ดวล เคนโตะ โมโมตะ มือ 1 ของโลกจากญี่ปุ่น


ส่วน “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” สาวไทย “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 46 ของโลก งานหินเจอ ไถ้ ซื่อหยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน ขณะที่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่ผสมมือวาง 1 ของรายการ พบ โรบิน ทาบีลิง กับ ซีลีนา พิก จากเนเธอร์แลนด์ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เผย ยังมั่นใจ จะกรุยทางเข้ารอบลึก หรือรอบชิงชนะเลิศได้ เชื่อพลังใจจากแฟนกีฬาทั่วประเทศ จะช่วยให้นักกีฬาของเรา สู้ 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน

ความเคลื่อนไหว การแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในเดือนมกราคมปีหน้า เริ่มจาก “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ระหว่างวันที่ 12 – 17 มกราคม ต่อด้วย “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ระหว่างวันที่ 19 – 24 มกราคม และเอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2020 ระหว่างวันที่ 27-31 มกราคม ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน ทรูวิชั่นส์ และ True4U


ล่าสุดได้มีการแบ่งสายการแข่งขัน “โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น” ออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยประเภทชายเดี่ยว รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คน ห้าหนุ่ม นักแบดไทย พบศึกหนัก เริ่มจาก “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 15 ของโลก พบ ไซน์ ปรานีท มืออันดับ 13 ของโลกจากอินเดีย, “โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ มืออันดับ 25 ของโลก พบศึกหนักสู้กับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก , “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 29 ของโลก พบ คันตะ สึนียาม่า มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น, “เพชร” โฆษิต เพชรประดับ มืออันดับ 33 ของโลกเจอศึกหนัก ต้องดวลกับ เคนโตะ โมโมตะ มืออันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่นและมือวางอันดับ 1 ของรายการ, “สอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข มืออันดับ 39 ของโลก พบศึกหนัก โจว เทียนเฉิน มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คน “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 5 ของโลกและมือวางอันดับ 4 ของรายการ พบ ดาวรุ่งจากสิงคโปร์ เหยา เจียหมิน มืออันดับ 26 ของโลก ขณะที่ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 12 ของโลก พบกับ ซาบรีน่า จาเกวสท์ มืออันดับ 49 ของโลกจากสวิสเซอร์แลนด์, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก พบ เนชิฮาล ยีกีสท์ มืออันดับ 32 ของโลกจากตุรกี, “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มืออันดับ 22 ของโลก พบศึกหนัก ไถ้ ซื่อหยิง มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวันและมือวางอันดับ 1 ของรายการ, “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 28 ของโลก พบ คิม กาอึน มืออันดับ 17 ของโลกจากเกาหลีใต้, “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 46 ของโลก พบ รุสเซลลี ฮาตาวาล มืออันดับ 25 ของโลกจากอินโดนีเซีย

ประเภทชายคู่ รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คู่ “อาท” บดินทร์ อิสสระ กับ “เอ” มณีพงศ์ จงจิตร คู่มืออันดับ 43 ของโลก พบ มาร์คัส เอลลิส กับ คริส แลงกริทซ์ คู่มืออันดับ 22 ของโลกจากอังกฤษ, “ต้นน้ำ” นิพิฐพงษ์ พวงพั่วเพชร กับ “มาร์ค” ตนุภัทร วิริยางกูร คู่มืออันดับ 128 ของโลก เจอศึกหนักดวล ฟาร์จา อัลเฟียน กับ มูฮัมมัด ไรอัล อาเดรียนโต คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย และคู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ


ประเภทหญิงคู่ รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก พบกับคู่รุ่นน้อง “เจน” เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ กับ “นั่ง” ชาสิณี โกรีภาพ คู่มืออันดับ 50 ของโลก, “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล คู่มืออันดับ 20 ของโลก พบ เซทยาน่า มาพาซาร์ กับ กรอนย่าร์ โซเมอร์วิล คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากออสเตรเลีย, “เบสท์” ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มืออันดับ 34 ของโลก พบ อิซเบล เฮอร์ทริกซ์ กับ ลินดา เอฟเลอร์ คู่มืออันดับ 31 ของโลกจากเยอรมัน, “มูนา” เบญญาภา กับ “แอนนา” นันทกานต์ เอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 99 ของโลก พบ เพียรี่ ตัน กับ ทีน่า มูรารีทาราล คู่มืออันดับ 39 ของโลกจากมาเลเซีย

ประเภทคู่ผสม รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คู่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลกและคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ พบ หู ปังรอง กับ เซี๊ยะ ยี่ซี คู่มืออันดับ 35 ของโลกจากมาเลเซีย, “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 44 ของโลก พบ รินอฟ ริวัลดรี้ กับ พิตต้า เมนทารี่ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย, “ต้นน้ำ” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร กับ “นั่ง” ชาสิณี โกรีภาพ พบ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ คู่มืออันดับ 28 ของโลกจากเดนมาร์ก

รายการที่สอง “โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น” ก็แบ่งสายออกมาแล้วเช่นกัน โดย ประเภทชายเดี่ยว รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คน “กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 15 ของโลก พบ อึ๊ง กาลอง แอนกุส มืออันดับ 9 ของโลกจากฮ่องกง, ”โอ๊ต” สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ มืออันดับ 25 ของโลก พบ กิดัมบี สีคาน จากอินเดีย, “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 29 ของโลก พบ โลห์ เคียน ยิว จากสิงคโปร์, “เพชร” โฆษิต เพชรประดับ มืออันดับ 33 ของโลก พบ ซีซาร์ ฮิเรน รูสตาวิโต้ จากอินโดนีเซีย, “สอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข มืออันดับ 39 ของโลก พบ เอนเดรส อันตอนเซน จากเดนมาร์ก ส่วน เคนโตะ โมโมตะ มืออันดับ 1 ของโลกจากญี่ปุ่นและมือวางอันดับ 1 ของรายการ พบเพื่อนร่วมชาติ โกกิ วาตานาเบะ

ประเภทหญิงเดี่ยว รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คน “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 5 ของโลกและมือวางอันดับ 4 ของรายการ พบ ไซนา เนห์วาล จากอินเดีย, “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ มืออันดับ 12 ของโลก พบ พูซารา วี. สินธุ มืออันดับ 7 ของโลกจากอินเดียและมือวางอันดับ 6 ของรายการ, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก เจองานหนัก อากาเนะ ยามากูชิ มืออันดับ 3 ของโลกจากญี่ปุ่น, “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มืออันดับ 22 ของโลก พบ เกลียกอเรีย มาริสกา ตุนจุง จากอินโดนีเซีย, “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 28 ของโลก พบ อัน เซ ยอง มือวางอันดับ 7 ของรายการจากเกาหลีใต้, “เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 46 ของโลก งานหนักพบ ไถ้ ซื่อหยิง มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวันและมือวางอันดับ 1 ของรายการ

ประเภทชายคู่ รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คู่ “อาท” บดินทร์ อิสสระ กับ “เอ” มณีพงศ์ จงจิตร คู่มืออันดับ 43 ของโลก พบ ศึกหนัก มาร์คูส เฟอร์นาลดี กับ เควิน ซานจายา คู่มืออันดับ 1 ของโลกจากอินโดนีเซียและคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ, “ต้นน้ำ” นิพิฐพงษ์ พวงพั่วเพชร กับ “มาร์ค” ตนุภัทร วิริยางกูร คู่มืออันดับ 128 ของโลก พบ ออง ยิว ซิน กับ เตียว อี ยี่ จากมาเลเซีย

ประเภทหญิงคู่ รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก พบ ซิติ ฟาเดีย ซิลวา กับ ริบกา ซูเกียโต้ จากอินโดนีเซีย, “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล คู่มืออันดับ 20 ของโลก พบ เกรย์เซีย โพลลี กับ อาพริลยานี ราฮายู คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซียและคู่มือวางอันดับ 5 ของรายการ, “เบสท์” ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มืออันดับ 34 ของโลก พบ อนาสตาเซีย อัคชูรินา กับ โอกา โมราซูวา จากรัสเซีย, “มูนา” เบญญาภา กับ “แอนนา” นันทกานต์ เอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 99 ของโลก พบ ลี โซ ฮี กับ ชิน ซอง ชาน คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้และคู่มือวางอันดับ 3 ของรายการ, “เจน” เฌอย์นิชา สุดใจประภารัตน์ กับ “นั่ง” ชาสิณี โกรีภาพ คู่มืออันดับ 50 ของโลก พบ อามาเรีย แมกลุนด์ กับ ฟรีจา ราเวน จากเดนมาร์ก

ประเภทคู่ผสม รอบเมนดรอว์ รอบแรก 32 คู่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลกและคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ พบ โรบิน ทาบีลิง กับ ซีลีนา พิก จากเนเธอร์แลนด์, “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 44 ของโลก พบ แมททีอัส คริสเตียนเซน กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก, “ต้นน้ำ” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร กับ “นั่ง” ชาสิณี โกรีภาพ พบ ตัน ชุน มั้ง กับ เซี่ย หยิงซวด คู่มือวางอันดับ 8 ของรายการจากฮ่องกง

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สำหรับผลการแบ่งสายใน 2 รายการแรก แม้บางคน จะต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบแรก แต่โดยรวมแล้ว ในอีกหลายประเภท ก็มีโอกาสไม่น้อย เรียกได้ว่า มีทั้งงานหนัก และงานเบา ผสมกันไป ยังมั่นใจว่า นักตบลูกขนไก่ไทย จะสามารถกรุยทางเข้ารอบลึก หรือผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ เชื่อว่าพลังใจจากแฟนกีฬาทั่วประเทศ ที่จะส่งมาให้ผ่านการถ่ายทอดสด จะช่วยให้นักกีฬาของเรา สู้แบบสุดตัว 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน

ทั้งนี้ แฟนแบดมินตันสามารถชมการถ่ายทอดการแข่งขันได้ที่บ้านทางทรูวิชั่นส์ ถ่ายทอดสดทุกวัน สันละ 2 สนาม สนามละ 10 คู่ รวมถ่ายทอดสดวันละ 20 คู่ ผ่านทาง Truesports HD3 ช่อง 668,Truesports 7 ช่อง 686 และ Truesports HD2 ช่อง 667 และรับชมผ่านทาง True4U เฉพาะคู่ที่นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทุกวัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]

ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ อาจต้องใช้สิทธิป้องกันตนเอง

12 ส.ค.- ทบ.ชี้กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดคุกคามต่อเนื่อง ไม่สนผิดอนุสัญญาออตตาวา โฆษก ทบ.เผยหากสถานการณ์บีบบังคับ กองทัพอาจจำเป็นต้องใช้สิทธิป้องกันตนเองตามหลักสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพล ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า […]

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย