อาร์เจนตินา 26 พ.ค.- ปิดตำนาน “หัตถ์พระเจ้า” ดิเอโก มาราโดนา เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย ในวัย 60 ปี
ดิเอโก มาราโดนา ตำนานลูกหนังทีมชาติอาร์เจนตินา เกิดหัวใจวายและล้มวูบไปกับพื้นที่บ้าน ก่อนถูกหามขึ้นรถฉุกเฉินส่งโรงพยาบาลทันที และเขาก็เสียชีวิตลงแล้วในวัย 60 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของวงการลูกหนังโลก
“เสือเตี้ย” ดิเอโก มาราโดนา เกิดเมื่อปี ค.ศ.1960 ที่เมืองลานุส กรุงบัวโนสไอเรส ในประเทศอาร์เจนตินา ในครอบครัวที่ยากจนแร้นแค้น เเต่ด้วยความรักในการเล่นฟุตบอล เขาจึงได้ฝึกฝนอย่างหนักจนเข้าตาร่วมทีมเยาวชนของ เอสแตลลา โรยา สโมสรเล็กๆ ละแวกบ้านเกิด ตั้งแต่อายุ 8 ปีขวบ กระทั่งแมวมองของสโมสรอาร์เจนติโนส จูเนียร์ เห็นถึงความอัจฉริยะของเทพบุตรลูกหนัง จึงดึงมาราโดนา ไปร่วมทีมลอส เซโบลลิตาส ซึ่งเป็นทีมระดับเยาวชนของสโมสร เขาใช้เวลาที่นั่นเเค่ปีเดียวสามารถเลื่อนชั้นเป็นผู้เล่นตัวจริงของอาเจนติโนส จูเนียร์ เเละลงเล่นมากกว่า 166 เเมตช์ เเละยิงประตูไปถึง 116 ประตู หลังจากนั้นในฤดูกาล 1981 เขาย้ายมาร่วมทีมโบคา จูเนียร์ เเละประสบความสำเร็จอย่างมาก ก่อนยอดทีมเเห่งลาลีกาอย่างบาร์เซโลนา จะคว้าตัวเขามาร่วมทีมได้สำเร็จในฤดูกาล 1982 เเต่อยู่เพียงได้เเค่ 2 ปี เขาก็ย้ายมาร่วมเล่นในกัลโชเซเรียอาของอิตาลีกับนาโปลี ถึง 7 ฤดูกาล ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ เซบียา ในฤดูกาล 1992 พอมาถึงในฤดูกาล 1993 ก็ย้ายมาร่วมทีมนีเวลล์ โอลด์ บอยส์ ในประเทศบ้านเกิด และในฤดูการ 1995 ก็ย้ายกลับมาร่วมทีมโบคาจูเนียร์ ก่อนที่จะแขวนสตั๊คที่นี่
ชีวิตของมาราโดนา เต็มไปด้วยสีสันทั้งในและนอกสนาม เขาเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินาในถ้วยฟุตบอลโลกครั้งแรกที่สเปน เมื่อปี 1982 แต่ชื่อของเขาถูกจารึก เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในอีก 4 ปีให้หลังในฐานะผู้สร้างตำนาน “หัตถ์พระเจ้า” จากการใช้มือซ้ายปัดลูกฟุตบอลเข้าประตูทีมชาติอังกฤษ ในการแข่งขันรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ประเทศเม็กซิโก ก่อนพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1986 โดยเขาเล่นให้กับทีมอาร์เจนตินา 91 นัด ทำประตู 34 ประตู ผ่านการเล่นในฟุตบอลโลก 4 ครั้ง นอกจากเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกแล้ว มาราโดนายังสร้างผลงานที่ไม่น่าจดจำ หลังจากเขาถูกพักการเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 15 เดือนในปี ค.ศ.1991 จากตรวจพบว่าเขาเสพโคเคนในประเทศอิตาลี และถูกส่งกลับบ้านในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา หลังจากตรวจพบใช้สารเอฟิดรีน จนส่งผลกระทบต่ออาชีพนักเตะของเขาหลายครั้ง โดยในปี 1997 เขาตัดสินใจเลิกเป็นนักฟุตบอลอาชีพในวันเกิดอายุครบ 37 ปี จากนั้นได้ผันตัวไปเป็นผู้จัดการทีมชาติอาร์เจนตินา และผู้จัดการทีมฟุตบอลในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก
ลิโอเนล เมสซี จอมทัพกัปตันทีมฟ้าขาว อาร์เจนตินา คนปัจจุบัน ที่โพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่า “วันนี้เป็นวันแห่งความเศร้าโศกของชาวอาร์เจนตินาและของวงการฟุตบอล เขาได้จากพวกเราไป แต่เขาไม่ได้ไปไหน เพราะดิเอโกจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์”
“ไข่มุกดำ” เปเล่ ตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิล ก็ได้โพสต์ว่า “ผมได้สูญเสียเพื่อนรักของผม และโลกก็ได้สูญเสียตำนาน มีคำพูดหลายคำมากที่จะอยากจะกล่าว แต่ในตอนนี้ขอให้พระเจ้ามอบพลังความเข้มแข็งแก่ครอบครัวของเขา และในสักวันหนึ่ง ผมหวังว่าเราจะได้เล่นฟุตบอลรวมกันที่บนฟ้า”
ส่วนสโมสรโบคา จูเนียร์ส อดีตต้นสังกัดในบ้านเกิดที่สร้างชื่อให้กับ หัตถ์พระเจ้า ก็ได้โพสต์ว่า “ขอบคุณอย่างชั่วนิรันดร์ ดิเอโกจะคงอยู่ตลอดไป”
อัลแบร์โต้ เฟอร์นานเดส ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา โพสต์ว่า “คุณทำให้อาร์เจนตินาไปอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก พวกเราจะคิดถึงคุณตราบชั่วชีวิตของพวกเรา” รวมไปถึง อเลฮันโดร โดมิงเกวซ ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ และ อันเดรีย ปีร์โล ผู้จัดการทีมยูเวนตุส
ส่วนบรรยากาศแสดงความไว้อาลัยของแฟนบอลชาวอาร์เจนตินา ต่อการจากไปของ ดิเอโก มาราโดนา ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา แฟนบอลใส่เสื้อฟ้าขาว หมายเลข 10 ซึ่งเป็นเบอร์ประจำตัวของมาราโดนา ออกมารวมตัวกันเพื่อร่วมรำลึกถึงตำนานนักเตะอันเป็นที่รัก
ขณะที่ในเมืองเนเปิล ของอิตาลี แฟนบอลนาโปลี นำรูปของมาราโดนา มาแปะไว้ข้างกำแพงสนาม พร้อมวางช่อดอกไม้ จุดเทียน เพื่อรำลึกถึงมาราโดนา ซึ่งเคยค้าแข้งอยู่ในช่วงปี 1984-1990.-สำนักข่าวไทย