ตรวจนักเตะราชบุรีมิตรผล-ขอนแก่นเอฟซี เป็นลบ

กทม. 13 ก.ย.-รองผู้ว่าฯ ราชบุรี แถลงผลตรวจนักเตะและทีมงาน ราชบุรีมิตรผล ทั้งหมด 44 คน ผลเป็นลบ ไม่มีใครมีเชื้อโควิด-19 ส่วนผลตรวจนักเตะและเจ้าหน้าที่สโมสรขอนแก่นเอฟซี ก็ออกแล้วเช่นกัน ให้ผลเป็นลบทั้งหมด 33 คน

ความคืบหน้าในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังพบนักฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ติดโควิด-19 ทำให้มีการตรวจเชื้อเพิ่มในกลุ่มนักฟุตบอลครบทั้ง 3 ทีม ทั้งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ราชบุรีมิตรผล และขอนแก่นเอฟซี 2 ทีม ที่ร่วมอุ่นเครื่อง รวมถึงขยายผลติดตามผู้เดินทางด้วยสายการบินกับนักฟุตบอลคนดังกล่าวด้วย ทั้ง 2 แถวหน้า และ 2 แถวหลัง


นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่แคมป์พักนักฟุบอล ทีมสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมแถลงความคืบหน้าการสอบสวนโรค หลังจากพบนักฟุตบอลของสโมสรบุรีรัมย์ฯ สัญชาติอุซเบกิสถาน ติดเชื้อโควิด-19 ไม่แสดงอาการ และนำตัวมารับการรักษาแล้วนั้น ว่า เมื่อวันที่ 10-12 กันยายนที่ผ่านมา ทีมสอบสวนและควบคุมโรค จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค กลุ่มเสี่ยงสัมผัสเชื้อรวมทั้งสิ้น 569 คน และเนื่องจากระหว่างการซ้อมผู้ป่วยคนดังกล่าว ได้มีการเตะฟุตบอลอุ่นเครื่องกับสโมสรอื่น ทั้งทีมราชบุรีมิตรผล และทีมสโมสรขอนแก่นเอฟซี รวมถึงเดินทางไปร้านอาหารและห้างสรรสินค้า ทำให้แบ่งกลุ่มผู้สัมผัสกับนักฟุตบอลคนนี้ออกเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง 170 คน ประกอบด้วยนักฟุตบอล จาก 3 ทีม ได้แก่ สโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด 44 คน ทีมสโมสรราชบุรี มิตรผล 44 คน ทีมสโมสรขอนแก่นเอฟซี 42 คน และผู้สัมผัสในจังหวัดบุรีรัมย์ อีก 40 คน ทั้งหมดได้รับการกักตัวและเฝ้าระวัง และตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสาตร์แล้ว ส่วนกลุ่มสัมผัสเสี่ยงต่ำ 399 คน ให้ทุกคนระวังอาการตนเองอยู่ที่บ้าน สำหรับนักฟุตบอลบุรีรัมย์ ทั้งหมดขณะนี้ได้เดินทางกลับมาจากแคมป์พักใน จ. สมุทรปราการ สถานที่เตรียมก่อนการแข่งขันไทยลีกแล้ว มาอยู่ที่ State Quarantine จ.บุรีรัมย์

ขณะทาง ศบค. แจงรายละเอียดการสอบสวนโรค ตรวจหาเชื้อในกลุ่มนักฟุตบอลดังนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน เก็บตัวอย่างในผู้ป่วยและผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 44 คน ประกอบด้วย นักฟุตบอล 23 คน และทีมงาน 21 คน ให้ผลลบ จำนวน 41 คน อีก 2 คน (คือชาวอุซเบกิสถาน/ชาวเซอร์เบียร์ที่เคยป่วยมาแล้ว) ต้องรอตรวจสอบซ้ำ เพราะคนหนึ่งอยู่ในกระบวนการรักษา อีกคนเคยป่วยมาแล้ว ขณะเดียวกัน รพ.บุรีรัมย์ เก็บตัวอย่างในนักฟุตบอลร่วมฝึกซ้อมในสโมสรบุรีรัมย์ จำนวน 4 คน ทุกคนผลเป็นลบ


ส่วนวันที่ 12 กันยายน ได้มีการเก็บตัวอย่างเชื้อของทั้ง 2 ทีม ได้แก่ ทีมขอนแก่นเอฟซี จำนวน 51 คน ประกอบนักฟุตบอล 33 คน Staff 14 คน และนักศึกษาฝึกงาน 4 คน ในกลุ่มนี้แบ่งเป็นนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 15 คน เสี่ยงต่ำ 36 คน ทีมราชบุรีมิตรผล จำนวน 43 คน เป็นนักฟุตบอล 15 คน Staff 15 คน ราย คนขับรถ 2 คน พร้อมค้นหาและตรวจผู้สัมผัสเพิ่มในจังหวัดบุรีรัมย์ 367 คน ทั้งหมดรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสาตร์

ขณะเดียวกัน สำนักระบาดวิทยา ได้ค้นหาติดตามผู้โดยสารที่เดินทางในสายการบินเดียวกับนักฟุตบอลอุซเบกิสถานคนดังกล่าว ใน 2 ที่นั่งแถวหน้า 2 ที่นั่งแถวหลังนักบอลคนดังกล่าว รวม 13 คน พบว่าทุกคนสวมหน้ากากอนามัยอย่างดี และถือเป็นผู้ป่วยเสี่ยงต่ำ จึงแจ้งให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก จมูกไม่รับกลิ่น ลิ้นไม่รู้รส ให้รีบแจ้งเพื่อรับการตรวจหาเชื้อต่อไป

ส่วนที่สนามมิตรผล สเตเดี้ยม นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี แถลงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับนักฟุตบอลของทีมและทีมงานทั้งหมด 44 คน ผลเป็นลบ ไม่มีใครมีเชื้อโควิด-19 และวันนี้ เป็นวันที่ 13 ของการกำหนดกักตัว เหลือเพียงวันนี้ ก็จะครบ 14 วันของการกักตัว โดยคนที่คาดว่าใกล้ชิดนักเตะบุรีรัมย์มากสุด ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ นักเตะ ผู้เล่นตัวจริง 11 คน แข่งอุ่นเครื่องเมื่อวันที 30 สิงหาคมที่ผ่าน ก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน


เช่นเดียวกับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มนักเตะทีมขอนแก่นเอฟซี ซึ่งผลการตรวจยืนยัน ทั้ง 33 คน รวมผู้เล่นตัวจริงที่สัมผัสใกล้ชิดนักตะบุรีรัมย์ฯ ซึ่งเตะอุ่นเครื่องเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม และเจ้าหน้าที่สโมสร รวมนักศึกษาฝึกงาน ก็ให้ผลเป็นลบ ไม่ติดโควิด-19 เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย