ชื่นมื่น! ‘สรวงศ์-สุทิน’ จัดฉลองชัยทัพนักกีฬามวยไทยทหาร ยินดีบรรจุกีฬาทหารโลก

ชื่นมื่น! สรวงศ์ เทียนทอง ผนึก สุทิน คลังแสง จัดงานเลี้ยงขอบคุณนักกีฬามวยไทยทหาร 3 เหล่าทัพ หลังสร้างผลงานกระหึ่มศึกกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมร่วมยินดีที่ “กีฬามวยไทย” ได้บรรจุชิงชัยในกีฬาทหารโลก 2027 ที่สหรัฐฯ ขณะที่นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) มอบเงินหนุนนักกีฬารวมทั้งสิ้น 713,000 บาท


เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานเลี้ยงขอบคุณนักกีฬามวยไทยทหาร 3 เหล่าทัพคือ กองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ชุดสร้างความสำเร็จในการแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 รายการ 1st CISM Military Muaythai Challenge ซึ่งจัดขึ้น ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อระหว่างวันที่ 10-13 กรกฎาคมที่ผ่านมา และร่วมแสดงความยินดีที่ “กีฬามวยไทย” ได้บรรจุในการแข่งขันมหกรรมกีฬาทหารโลก 2027 รายการ CISM Military World Summer Games 2027 ณ สหรัฐอเมริกา ในปี 2027

ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) พร้อมด้วย พล.ร.อ.สุพพัต ยุทธวงศ์ ผู้แทนปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.ต.พงษ์ภัทร ทรงสุนทร ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการทหาร, นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี ผู้แทนประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, พ.อ.เปรมินทร์ ราชฤทธิ์บริรักษ์ กรมวังผู้ใหญ่, พล.ต.มงคล บุตรดาวงศ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก, พล.ร.ต.อภิชาติ วรภมร เจ้ากรมสวัสดิการทหารเรือ, พล.อ.ต.วัลลภ ประสงค์กิจ เจ้ากรมสวัสดิการทหารอากาศ, พล.อ.ท.ไพฑูรย์ ไล้เลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ, พล.ต.มโนรถ สุทธิสำแดง ผู้ชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมภายในงานอย่างคับคั่ง


บรรยากาศภายในงานมีนิทรรศการเส้นทางกีฬามวยไทยในเวทีนานาชาติ และมีการแสดงคีตะมวยไทยในชื่อชุด “Proud to be Thai” ก่อนชมวิดีทัศน์สรุปภาพรวมของการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 โดยมีนักกีฬามวยไทยทหาร 11 ประเทศเข้าร่วมกว่า 500 คน ประกอบด้วย ศรีลังกา, อุซเบกิสถาน, เบลเยียม, ปาเลสไตน์, ตุรกี, ซาอุดีอาระเบีย, โปแลนด์, คาซัคสถาน, อิหร่าน, บาห์เรน และไทย ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริม “ซอฟต์พาวเวอร์ มวยไทย” ทั้งในแง่การจัดการแข่งขัน และผลงานของนักกีฬาไทยที่กวาดถึง 9 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง พร้อมกันนี้ทางสภากีฬาทหารระหว่างประเทศ (CISM) ยังได้ประกาศข่าวดียืนยันว่า “กีฬามวยไทย” จะเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่ได้บรรจุในการแข่งขันมหกรรมกีฬาทหารโลก 2027 ณ สหรัฐอเมริกา

จากนั้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวแสดงความยินดีที่กีฬามวยไทยได้บรรจุมหกรรมกีฬาทหารโลก 2027 ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับนักกีฬามวยไทยทหาร 3 เหล่าทัพคือ กองทัพบก, กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ หลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 พร้อม ตามด้วย ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) มอบเงินสนับสนุนการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬาจำนวน 513,000 บาท และมอบเงินรางวัลสนับสนุนนักกีฬาจำนวน 200,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 713,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา ก่อนรับประทานอาหารเย็นร่วมกันและรับชมดนตรีจากกรมดุริยางค์ทหารบก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและชื่นมื่น

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ต้องขอบคุณทาง ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่เป็นโต้โผในการผลักดันกีฬามวยไทยไปสู่การแข่งขันกีฬาทหารโลก 2027 และทุกเหล่าทัพที่มีส่วนร่วม ขณะที่การแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 ที่ผ่านมา นักกีฬาไทยคว้าเหรียญรางวัลได้ครบทั้ง 15 รุ่นที่ส่งชิงชัย ซึ่งทุกคนเป็นตัวแทนของคนไทยที่ไม่ได้เพียงชนะในการแข่งขันกีฬาเท่านั้น “มวยไทย” ยังเป็นเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ และวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ใช้กีฬาเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของไทย ขอแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานที่ร่วมกันผลักดัน


“แน่นอนครับทางเราได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ได้ให้การสนับสนุน และสำคัญที่สุดนี่เป็นก้าวสำคัญในการที่เราจะนำมวยไทยไปสู่โอลิมปิก ซึ่งจริงๆ แล้วทุกๆ ภาคส่วนพยายามที่จะช่วยกันในการเอามวยไทยไปอยู่ในเวทีโลกให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนก็แล้วแต่ ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสนับสนุนอย่างแน่นอนครับ” นายสรวงศ์

ขณะที่ ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในฐานะผู้จัดการแข่งขันกีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 ถือเป็นที่น่าพอใจ ประเทศที่มาเข้าร่วมแม้จะเป็นครั้งแรกถือว่าพองาม แล้วผลงานของตัวนักชกเองทุกประเทศชกมวยไทยอย่างมีคุณภาพเป็นมวย โดยเฉพาะนักมวยของไทยเราถือว่าประสบความสำเร็จ การได้เป็นเจ้าเหรียญทองคือความสำเร็จที่งดงาม แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมายก็คือ มวยไทยได้บรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 นี่คือความสำเร็จของคนไทย ลงทุนน้อย แต่ว่าได้กำรเกินคุ้มครั้งนี้

ดร.สุทิน กล่าวอีกว่า นักกีฬามวยไทยต่างชาติที่มาแข่งขันเขาก็ประทับใจทั้งการดูแลต้อนรับความเป็นอยู่ การจัดการแข่งขันก็พอใจ เขาก็ชมว่ามีมาตรฐานดี เรื่องการตัดสินความเป็นธรรมของกรรมการก็เป็นที่ยอมรับ เขาก็ประทับใจประเทศไทย มากกว่าการชกคือเขาได้ร่วมฝึกการไหว้ครูมวยไทย หลังจากนี้เราก็จะเริ่มเลยในการเตรียมพร้อมนักกีฬา ทุกเหล่าทัพก็เตรียมฝึกซ้อมเต็มที่เพื่อปีหน้าจะมีการแข่งขันมวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 2 ที่ประเทศตุรกี และปีถัดไปก็จะเป็นกีฬาทหารโลก 2027

“เพราะฉะนั้นเราก็จะต้องฝึกซ้อมนักกีฬาทันที เพราะว่าโอกาสมาแล้ว เราจะต้องแสดงให้ดีเต็มที่ ส่วนการที่มวยไทยจะไปสู่โอลิมปิกนั้น ก็ใก้ลเข้ามาแล้วเต็มที่ แต่การจะไปสู่โอลิมปิกจะมีบันไดสำคัญหลายช่องทาง แต่ช่องทางผ่านกีฬาทหารโลกคือ ช่องทางที่เป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้ใกล้แล้ว และมั่นใจว่าไปได้” ดร.สุทิน กล่าวปิดท้าย

กีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 รายการ 1st CISM Military Muaythai Challenge นั้น เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพไทย ร่วมกับสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ในการเป็นหน่วยงานหลักในการจัดการแข่งขันโดยมีสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) มอบหมายให้สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ดูแลมาตรฐานการแข่งขัน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์เรื่องกีฬามวยไทยผ่านการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. รวมไปถึงได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งนอกเหนือจากการจัดการแข่งขันมวยไทยทหารโลกแล้ว ยังมีการสอนไหว้ครู และแม่ไม้มวยไทยอีกด้วย

ขณะเดียวกันการแข่งขันครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริม “ซอฟต์พาวเวอร์” ของประเทศ โดยเฉพาะ “มวยไทย” ซึ่งเป็นทั้งศิลปะการต่อสู้ และมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเชื่อมสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีโลก จึงให้ความสำคัญกับการใช้กีฬาในบริบทของการทูตทางทหารผ่านกีฬา (Military Diplomacy) เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ ความไว้วางใจ และมิตรภาพระหว่างกองทัพทั่วโลก ภายในสภากีฬาทหารระหว่างประเทศ (CISM) ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 141 ประเทศ เป็นการส่งเสริมกีฬามวยไทยในระดับนานาชาติ โดยกลุ่มกองกำลังพลเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สามารถสร้างและพัฒนาให้ยั่งยืน พร้อมกับแสดงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะ “มาสเตอร์แลนด์ มวยไทย” ให้กับสภากีฬาทหารระหว่างประเทศ (CISM)

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]