19 ก.ค.68-คณะกรรมการซอฟต์เพาเวอร์มวยไทย จับมือมูลนิธิรวมพลคนสมุย เยี่ยมค่ายมวยในเรือนจำสมุย พร้อมมอบ “รถโมบายฟิตเนส” สนับสนุนโอกาสสร้างอาชีพผู้ต้องขัง
คณะกรรมการซอฟต์เพาเวอร์มวยไทย นำโดย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วย นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานอนุกรรมการ, นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อนุกรรมการและประธานมูลนิธิรวมพลคนสมุย, นายไพฑูร ชุติมากรกุล, พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และ นายณัฐพล อันตรเสน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมค่ายมวย “ศ.สมุย ลูกพระยม” ภายในเรือนจำอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในการนี้ คณะกรรมการฯ และมูลนิธิรวมพลคนสมุยได้มอบ “รถโมบายฟิตเนส” เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์เสริมสร้างสมรรถภาพร่างกายแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายเกษม ศัลยวุฒิ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเกาะสมุย เป็นผู้รับมอบ

ก่อนหน้านี้ทาง เรือนจำอำเภอสมุยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับมูลนิธิรวมพลคนสมุย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้รับการฝึกวิชาชีพมวยไทย โดยมีเป้าหมายในการใช้ “มวยไทย” เป็นเครื่องมือพัฒนาทักษะชีวิต สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ และเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า “กีฬามวยไทยถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการปลูกฝังวินัย ความเคารพครูบาอาจารย์ และการเปลี่ยนแปลงตนเองอย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้จริง หลายคนที่ได้รับการฝึกจากค่ายมวยในเรือนจำ ยังมีโอกาสได้ออกไปแข่งขันภายนอกภายใต้ชื่อ ‘ศ.สมุย ลูกพระยม’ และได้รับชัยชนะ พร้อมมีรายได้สะสมไว้ใช้ในอนาคต”
ทั้งนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยังเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีแผนที่จะขยายค่ายมวยในชื่อ “ลูกพระยม” ทั่วประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจาก ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ และนายสมชาย พูลสวัสดิ์ อย่างเต็มที่ ซึ่งช่วยให้โครงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้าน ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เผยว่า “เราภูมิใจที่ได้เห็นผู้ต้องราชทัณฑ์เข้าถึงมวยไทย ซึ่งไม่ใช่แค่การฝึกกีฬา แต่เป็นการอัพสกิลชีวิต สร้างโอกาสในการประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ ปัจจุบันคณะอนุกรรมการฯ ได้ทำบันทึกความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ใน 14 เรือนจำ และมีแผนขยายเพิ่มเติม โดยส่งทั้งอุปกรณ์และครูมวยเข้าไปฝึกฝนอย่างจริงจัง”
“ผู้ต้องราชทัณฑ์บางคนมีโอกาสได้ออกไปแข่งขันนอกเรือนจำ หากชนะก็จะมีรายได้ ซึ่งจะเก็บไว้ในบัญชีเพื่อใช้เลี้ยงชีพเมื่อพ้นโทษ รวมถึงสามารถต่อยอดเป็นเทรนเนอร์ กรรมการ หรือแม้แต่นักมวยอาชีพได้ในอนาคต” ผศ.พิมล กล่าว
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิรวมพลคนสมุย กล่าวว่า “ในพื้นที่สมุยเอง ทั้งยิมและเวทีมวยต่างพร้อมเปิดรับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ผ่านการฝึกอบรม โดยเฉพาะเวทีมวยเพชรบัญชา ซึ่งจัดศึกรวมพลคนสมุย ก็ยินดีให้โอกาสพวกเขาออกไปแข่งขัน กกท. เองก็พร้อมสนับสนุนให้ผู้ฝึกสำเร็จสามารถขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยอาชีพได้เช่