กรุงเทพฯ 24 มิ.ย. – รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้ารับฟังปัญหาทุกสมาคมกีฬา พร้อมวางเป้าหมายเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ล่าสุดสรุปนักกีฬาจาก 11 ชาติ ส่งแข่งขัน 12,506 คน โดยทัพนักกีฬาไทยส่งแข่งมากที่สุด 1,807 คน ส่วนกัมพูชาส่งแข่งแน่นอน 1,515 คน
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมการเตรียมการนักกีฬาและจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และผู้บริหารสมาคมกีฬา ร่วมประชุม
นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. แจ้งที่ประชุมว่า หลังจากปิดรับ เอนทรี ฟอร์ม บาย นัมเบอร์ แล้ว ทั้ง 11 ชาติ ได้ส่งจำนวนนักกีฬาที่จะเข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 12,506 คน ไทยในฐานะเจ้าภาพส่งแข่งมากที่สุด ส่วนกัมพูชา ส่งแข่งมากสุดเป็นอันดับ 4 ประกอบด้วย บรูไน 250 คน, กัมพูชา 1,515 คน, อินโดนีเซีย 1,548 คน, ลาว 598 คน, มาเลเซีย 1,580 คน, เมียนมา 1,077 คน, ฟิลิปปินส์ 1,499 คน, สิงคโปร์ 1,481 คน, ติมอร์-เลสเต 132 คน, เวียดนาม 1,019 คน, ไทย 1,807 คน
สำหรับการส่งเอนทรี ฟอร์ม บาย เนม หรือรายชื่อนักกีฬา ต้องส่งภายในวันที่ 1 กันยายน ขณะที่การจับสลากแบ่งสายกีฬาประเภททีม จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคมนี้
นายสรวงศ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรับฟังความคืบหน้าในการเตรียมทีมนักกีฬาทีมชาติไทย และรับฟังปัญหาต่างๆ ของแต่ละสมาคม เพื่อนำไปแก้ไขให้ทุกกีฬามีความพร้อมที่สุด ส่วนเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการเตรียมทีมนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการเห็นชอบกรอบการใช้งบประมาณในการเตรียมทีมและเป็นเจ้าภาพซีเกมส์แล้ว หลังจากนี้การเบิกจ่ายจะคล่องตัวมากขึ้น ช่วยให้ทุกสมาคมกีฬา เตรียมการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า การทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักกีฬา 6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีส่วนที่ยังน่ากังวลและต้องปรับให้ดีขึ้น ฝากสมาคมกีฬาให้ดูแลนักกีฬาให้ดีที่สุด และตนเองจะเริ่มต้นไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมทุกชนิดกีฬา ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมนี้ วางเป้าหมายให้ไทยเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์การจัดการแข่งขันเต็มรูปแบบต้นเดือนหน้า
สำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคมนี้ ใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา ภายใต้คำขวัญ “ก้าวไปข้างหน้า ไม่หยุดยั้ง” (Ever Forward) .-สำนักข่าวไทย