เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม Bright Room ภายใน โรงแรม ลากูน่า แกรนด์โฮเทล แอนด์ สปา จ.สงขลา ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การจัดการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 38 ประจำปี 2568 ของ จ.สงขลา
โดยภายในงาน มี นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายสีหศักดิ์ อารีราชการัณย์ เลขาธิการสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมด้วย นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย, นายอำนวย พิณสุวรรณ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา, นางอุไรวรรณ จันลาภ ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะบริหารสมาคมฯ, คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวถึงการแข่งขันในครั้งนี้ว่าจะเป็นโอกาสที่ดี ที่ทางจังหวัดจะได้ใช้ประสบการณ์การจัดการแข่งขันกีฬา สร้างความประทับใจทและยกระดับการแข่งขันการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ให้เป็นที่ประทับใจ แชะสร้างการรับรู้ของกีฬาเซปักตะกร้อไปทั่วโลก
“ในนามของ จังหวัดสงขลา ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทําเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น และขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวจังหวัดสงขลา ที่เราจะมีกิจกรรมนี้เกิดขึ้นในปีนี้ เพราะเราถือว่า กีฬาตะกร้อถือว่าเป็นกีฬาประจําชาติของไทย และทางจังหวัดมีความประสงค์ในการจัดการแข่งขันว่า เราจะทําอย่างไรให้การจัดการแข่งขันนั้นเป็นไปด้วยดีและมีความเรียบร้อย เพราะเราถือว่า เราเป็นตัวแทนของทุกภูมิภาค”
”เราขอใช้ประสบการณ์ทางด้านการกีฬา ของ จังหวัดสงขลา ได้มีโอกาสนํามาปรับปรุง ให้การแข่งขันครั้งนี้ เป็นการแข่งขันที่ดี นอกจากนี้ ยังได้คุยกับท่านเลขาธิการสมาคมฯ ในการที่จะให้กีฬาตะกร้อ เป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจระดับโลก ซึ่งจะได้สมาชิกมากมายที่จะให้มาสนใจประเทศไทยอีกด้วย”
ด้าน นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวถึงการรับเป็นเจ้าภาพการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งนี้ว่า จะเป็นการตอกย้ำถึงนโยบายขับเคลื่อนของจังหวัด “เสน่ห์สงขลา” และรองรับการเป็นเมืองกีฬา (Songkhla Sports City) ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว สร้างมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสงขลาด้วย
“ด้วยนโยบายของ อบจ.สงขลา ที่เราจะสร้าง จ.สงขลา ให้เป็นเมืองกีฬาอย่างแท้จริง การแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ถือเป็นรายการกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัดสงขลา และจะมีนักกีฬากว่า 30 ประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันที่จังหวัดสงขลา ซึ่ง อบจ.สงขลา มั่นใจว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ จะช่วยให้พี่น้องคนสงขลามีการจับจ่ายใช้สอย อันจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดด้วย”
“โดยในการจัดการแข่งขัน เราจะใช้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ เป็นที่ทําการแข่งขัน ซึ่งได้ไปดูความพร้อมของสนามแล้ว ต้องขอบคุณทาง เซ็นทรัล ที่อนุเคราะห์สถานที่ให้กับจังหวัดสงขลา รวมถึงต้องขอบพระคุณ ท่านสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของ อบจ. สงขลา ที่ช่วยกันประสานให้เกิดการแข่งขันระดับนานาชาตินี้ขึ้น เพราะผมตั้งใจจะนำรายการกีฬาใหญ่ ๆ ระดับประเทศ หรือ ระดับนานาชาติมาแข่งขันที่ จังหวัดสงขลา ซึ่งไม่ใช่แค่ตะกร้อคิงส์คัพ เท่านั้น แต่ในรายการอื่น ๆ ที่ จังหวัดสงขลา จะเป็นเจ้าภาพ เพราะว่าคนสงขลาชอบกีฬา ในฐานะที่ผม เป็น นายก อบจ.สงขลา ก็อยากจะสร้างกีฬาให้ชัดเจนเพื่อให้สงขลาเป็นเมืองต้นแบบในเรื่องของกีฬา”
ขณะที่ นายสีหศักดิ์ อารีราชการัณย์ เลขาธิการสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การแข่งขันในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการกระตุ้นกระแสกีฬาตะกร้อให้เกิดขึ้นในภาคใต้แล้ว การแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการสร้าฃการรับรู้และขยายฐานกีฬาตะกร้อ ให้แพร่หลายไปทั่วโลก อันจะเป็นการต่อยอดไปสู่การบรรจุกีฬาตะกร้อในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต่อไปในอนาคต
“ในการแข่งขันฯ ครั้งนี้ เราจะมาพร้อมกับอีก 34 ประเทศ เป็นการนําตะกร้อกลับมาสู่จังหวัดสงขลา ซึ่งที่จริง ทุกคนมองว่ากีฬาประเทศไทย จะมีนักกีฬามาจากภาคอีสาน, ภาคกลาง, ภาคเหนือ เป็นส่วนใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว เราก็ได้นักกีฬาที่มีคุณภาพ ได้โค้ชที่มีคุณภาพ จาก ภาคใต้ มากมายหลายคน ใน กีฬาตะกร้อ”
“และในการแข่งขันครั้งนี้เราหวังว่า จะมีเข้ามาร่วมประมาณ 34 ประเทศ จากหลากลายทวีป ซึ่งจะเป็นโอกาสที่การแข่งขันครั้งนี้ที่ จ.สงขลา จะเป็นบันไดที่ทําให้กีฬาตะกร้อของเรา ก้าวไปสู่กีฬาในระดับโอลิมปิกได้ในอนาคต”
การแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 38 ประจำปี 2568 จะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2568 โดยทาง จังหวัดสงขลา ได้รับสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ณ หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี 34 ทีมเข้าร่วมชิงชัย และจะมีการถ่ายทอดสดทาง Thai PBS ทั้งทางช่องทางโทรทัศน์ และช่องทางออนไลน์