จัดใหญ่ระดับโลก! ไทยเตรียมจัดศึกคิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เปิดโอกาสนักกีฬาทั่วโลกได้สัมผัสประเพณีไทย กระตุ้นท่องเที่ยว

18 มี.ค.68-สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานใหญ่ระดับโลก! ในการแข่งขันกีฬาคิกบ็อกซิ่ง รายการ “ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025” (1st Thailand Kickboxing World Cup 2025) ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กรุงเทพฯ ช่วงระหว่างวันที่ 7-12 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นรายการเก็บแรงกิ้งโลกของสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) 


ภายหลังจากประเทศไทยได้รับเกียรติจาก สหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) ให้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคิกบ๊อกซิ่งรายการใหญ่ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะจัดการแข่งขันในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ เปิดโอกาสให้กับนักกีฬาคิกบ็อกซิ่ง และเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกจะได้ร่วมสัมผัสกับประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยส่งผลในเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยไปในตัว

ทางสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ภายใต้การเป็นสมาชิกของสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) และสมาพันธ์คิกบ็อกซิ่งแห่งเอเชีย (WAKO ASIA) ได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งภาคเอกชนนำโดย “วานิสสา” น้ำแร่ธรรมชาติ 100% จากแหล่งกำเนิดน้ำแร่ ท่ามกลางเทือกเขาใหญ่ ผนึกกำลังกันจัดการแข่งขันรายการใหญ่กับการแข่งขันรายการ “ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025” ในครั้งนี้


“ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025” จะมีนักกีฬาจากทุกภูมิภาคหลายประเทศไทยทั่วโลกมาร่วมการชิงชัยด้วยจิตวิญญาณแห่งน้ำใจนักกีฬาและความสามัคคี โดยเหตุผลที่สหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก เลือกประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมากีฬาคิกบ็อกซิ่งในไทยมีการยกระดับการเติบโตอย่างมากและมีความต่อเนื่อง ซึ่งมีการพัฒนาที่สำคัญ ทั้งด้านสถานที่ฝึกซ้อม การมีส่วนร่วมของเยาวชน และรายการแข่งขันระดับมืออาชีพ สมาคมคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนี้ภายใต้กฎกติกาการแข่งขัน และมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลของสหพันธ์ โดยรับรองความยุติธรรม ความปลอดภัย และความเป็นเลิศ ซึ่งหวังว่าจะได้เห็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น การเกิดขึ้นของดาวดวงใหม่ และมิตรภาพที่แน่นแฟ้นภายในครอบครัวคิกบ็อกซิ่งระดับโลก

นายไผ่ ลิกค์ นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะนายกสมาคมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะมีโอกาสได้ต้อนรับชาติสมาชิกทุกคนในครอบครัวของสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO) ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการ “ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศไทย ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กรุงเทพฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 7-12 เมษายน 2568 โดยการแข่งขันจะจัดขึ้นภายใต้มาตรฐานสูงสุดที่สหพันธ์กำหนด และจะจัดขึ้นบนสังเวียนการแข่งขันในสถานที่ใจกลางของกรุงเทพฯ เป็นเวทีต้อนรับนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งชั้นนำจากทั่วโลกมาแข่งขันขันกัน และจะได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าในจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพและน้ำใจนักกีฬา

“นอกเหนือจากการแข่งขันแล้วเราเองอยากจะขอเชิญชวนนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งและเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกทุกคนมาสัมผัสความสวยงามของประเทศไทย ซึ่งขึ้นชื่อในด้านวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา อาหารที่อร่อย สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดอีกมากมาย โดยกรุงเทพฯ เองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตั้งแต่วัดวาอารามอันสง่างาม ไปจนถึงตลาดที่คึกคักและสถานบันเทิงยามค่ำคืน เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อนรับทุกคนให้เข้าร่วมงานครั้งนี้และสัมผัสกับการต้อนรับของประเทศไทย ซึ่งต้อนรับผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้มเสมอ” นายไผ่ ลิกค์ กล่าว


การแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น รุ่นทั่วไป และรุ่นเยาวชน โดยในรุ่นทั่วไป อายุ 19-40 ปี มีการแข่งขันประเภทฟูลคอนแทคต์, โลว์คิก, เควัน สไตล์, พอยต์ ไฟติ้่ง, ไลต์ คอนแทคต์ และคิก ไลต์ ทั้งริง สปอร์ต ชาย 12 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 7 รุ่นน้ำหนัก รวมถึง ทาทามิ สปอร์ต ชาย 9 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 6 รุ่นน้ำหนัก ส่วนรุ่นเยาวชนจะแบ่งเป็น รุ่นอายุ 15-16 ปี ริง สปอร์ต ประเภทฟูลคอนแทคต์, โลว์คิก, เควัน สไตล์ ชาย 13 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 8 รุ่นน้ำหนัก และรุ่นอายุ 17-18 ปี ประเภทฟูลคอนแทคต์, โลว์คิก, เควัน สไตล์ ชาย 12 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 7 รุ่นน้ำหนัก ด้านรุ่นเยาวชนอายุ 16-18 ปี ทาทามิ สปอร์ต จะมีประเภทพอยต์ ไฟติ้ง, คิกไลต์, ไลต์ คอนแทคต์ แบ่งเป็น ชาย 9 รุ่นน้ำหนัก และหญิง 6 รุ่นน้ำหนัก นอกจากนี้ ยังการแข่งขันในรุ่นยุวชน 7-9 ปี, รุ่นยุวชน 10-12 ปี, รุ่นยุวชน 13-15 ปี และการแข่งขันของทหารผ่านศึก รุ่นอายุ 41-55 ปีอีกด้วย

สำหรับ “ไทยแลนด์ คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ คัพ” จัดการชิงชัยในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ของประเทศไทย ทำให้นักกีฬาคิกบ็อกซิ่งและเจ้าหน้าที่จากทั่้วโลกจะมีโอกาสได้สัมผัสกับประเพณีเทศกาลปีใหม่ไทย ในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน ซึ่งจะมีประเพณีดั้งเดิม ทั้งการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่, สรงน้ำพระพุทธรูป และก่อเจดีย์ทราย รวมทั้งกิจกรรมสนุกสนามทั้งการเล่นน้ำ คอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรี ที่จะจัดกันอย่างยิ่งใหญ่ที่ถนนข้าวสาร, สีลม, เชียงใหม่, พัทยา และภูเก็ต นอกจากนี้ภายในกรุงเทพฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายให้ครอบครัวคิกบ็อกซิ่งได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวชม ทั้งพระบรมมหาราชวัง, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, วัดอรุณราชวราราม, ถนนข้าวสาร, เยาวราช, ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์, ศูนย์การค้าสยาม พารากอน, เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ รวมทั้งในจังหวัดต่างๆ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ทั้งเชียงใหม่, ภูเก็ต, พระนครศรีอยุธยา, กระบี่, พัทยา และอื่นๆ อีกมากมาย จึงนับการจัดการแข่งขันรายการนี้มีส่วนสำคัญทั้งการพัฒนากีฬา และกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย