ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 14 พ.ย. – แฟนบอลจำนวนมากเริ่มทยอยเข้าสู่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต รอชมเกมฟุตบอลอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ ระหว่างทีมชาติไทย พบ เลบานอน
บรรยากาศก่อนเกมฟุตบอลอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ ระหว่างทีมชาติไทย อันดับ 96 ของโลก พบ เลบานอน อันดับที่ 115 ของโลก ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต แม้จะเป็นอุ่นเครื่อง แต่มีแฟนบอลจำนวนมากเริ่มทยอยเข้าสู่สนามแล้ว เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้น สำหรับนักเตะชุดนี้ถือว่าเป็นการเตรียมทีม และเลือกตัวผู้เล่นลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 ช่วงเดือนธันวาคมนี้
เกมนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทยชาวญี่ปุ่น ส่ง 11 ผู้เล่นตัวจริง วาง สรานนท์ อนุอินทร์ ผู้รักษาประตู ใช้ แบ็กขวา นิโคลัส มิคเกลสัน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เอเลียส ดอเลาะ, พรรษา เหมวิบูลย์ แบ็กซ้าย ทิตาธร อักษรศรี, มิดฟิลด์ตัวรับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กัปตันทีม วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ตัวรุก รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก, เอกนิษฐ์ ปัญญา, อนันต์ ยอดสังวาลย์ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
สำหรับเลบานอนชุดนี้นำทัพโดย โอมาร์ ชาร์บาน กองหน้าที่เล่นอยู่กับเอเอฟซี วิมเบิลดัน ในลีกทู อังกฤษ และ บาสเซล จราดี้ กองกลางจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในไทยลีก
ด้าน “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย วิเคราะห์เกมนี้ว่าการอุ่นเครื่องกับเลบานอน แม้แรงกิ้งจะต่ำกว่าไทย แต่เชื่อว่าทีมไทยจะได้ประโยชน์ เพราะระบบการเล่นเลบานอนค่อนข้างจะดี เกมนี้อิชิอิได้ลองตัวผู้เล่น และเชื่อว่าทีมน่าจะทำผลงานได้ดี
สถิติการพบกันทั้งหมด 11 เกม ไทยชนะ 7 เกม เสมอ 2 เกม เลบานอนชนะ 2 เกม ส่วนการพบกัน 5 ครั้งหลังสุด ผลัดกันแพ้ชนะทีมละ 2 นัด และเสมอกัน 1 นัด นัดล่าสุดที่พบกันในฟุตบอลคิงส์คัพ 2023 ไทยชนะเลบานอน 2-1 .-สำนักข่าวไทย
