ไทยรับหน้าเสื่อจัดมวยไทย ยช.ชิงแชมเปี้ยนโลก “อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” ยิงสดช่อง 9 MCOT HD30

5 ก.ย.67-สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกับ สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (AMTAT) และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดแถลงข่าวการแข่งขัน “มหกรรมมวยไทยเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชา มวยไทยเยาวชนชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 “อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” ที่ลาน SCBX Next Stage ชั้น 4 สยามพารากอน เมื่อวันที่ 5 กันยายน โดย ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) และนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (AMTAT), ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, เจนิส ลินน์ ผู้อำนวยการด้านกีฬา IFMA, นางกฤษณา จรรยาสกุลวงศ์ กรรมการผู้จัดการพารากอน ฮอลล์, นายวีรยุทธ แก้วจินดา ผู้อำนวยการฝ่าย 9 MCOT HD และ น.ส.จิรัชญา เรืองศิริ รองฝ่ายพัฒนาธุรกิจการตลาดต่างประเทศ ตัวแทนโรงพยาบาลพระราม 9 เข้าร่วมแถลงข่าว


การแข่งขัน “มหกรรมมวยไทยเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชา มวยไทยเยาวชนชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 “อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 12 – 19 กันยายน 2567 ที่พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน รายการดังกล่าวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศประเภททีมชาย และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภททีมหญิง โดยมีนักมวยไทยเยาวชนจากทั่วโลกสมาชิกของ IFMA เข้าร่วมการแข่งขัน 100 ชาติ มีนักกีฬาประมาณ 2,000 คน ครอบครัวนักกีฬา 1,500 คน และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมแล้วประมาณกว่า 3,500 คน โดยในวันที่ 12 กันยายน จะมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปไหว้ครูมวยไทย ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซอยสุขุมวิท 11 ช่วงเวลา 10.00 – 11.00 น. อีกด้วย 

“อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มอายุ ได้แก่ 8-9 ปี / 10-11 ปี / 12-13 ปี / 14-15 ปี / 16-17 ปี ทั้งประเภทชาย และหญิง มีแข่งขันทั้งไม้มวย, มวยไทย และไหว้ครู


ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงภาพรวมการจัดการแข่งขันว่า การแข่งขันดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เพราะนักมวยเยาวชนจากทั่วโลกเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมาเข้าพัก และแข่งขันย่านใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ นักมวยแต่ละคนจะมีครอบครัวติดตามมาด้วย ซึ่งก่อนที่จะแข่งขัน 1 สัปดาห์บางประเทศเดินทางเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศไทยแล้ว อีกทั้งหลังการแข่งขันจบลงในวันที่ 19 กันยายน นักกีฬาและครอบครัวนักกีฬาส่วนใหญ่วางแผนไปเที่ยวพักผ่อนยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของประเทศไทย ทำให้การแข่งขัน “อิฟม่า ยูธ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2024” จะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาลกับเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งมีการประเมินกันว่า การแข่งขันมวยไทยเยาวชนชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 จะสร้างมูลค่าเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท

นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ กล่าวต่อไปอีกว่า มวยไทยเยาวชนชิงแชมเปี้ยนโลก ประจำปี 2567 จะเป็นรายการที่ทำให้นักกีฬามวยไทยเด็กๆ จากทั่วโลกได้เรียนรู้ และเป็นการปลูกฝังวัฒนธรรมมวยไทยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังจะทำให้เด็กๆ เหล่านั้นเกิดความรักกีฬามวยไทย และยังเป็นการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยหลังจากได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่สำคัญคือ รายการดังกล่าวยังจะเป็นการสนองตอบนโยบายของรัฐบาลไทยที่ต้องการผลักดันส่งเสริมให้กีฬามวยไทยก้าวสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์แขนงหนึ่งอย่างแท้จริงอีกด้วย 

นางกฤษณา จรรยาสกุลวงศ์  กรรมการผู้จัดการพารากอน ฮอลล์ กล่าวว่า กีฬามวยไทยเป็นศิลปะประจำชาติไทยที่คนไทยให้ความหวงแหน ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือภาคเอกชนพร้อมให้การสนับสนุนกีฬามวยไทยซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติไทยให้ประสบความสำเร็จสร้างชื่อเสียงในระดับโลกตามเป้าหมายที่สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) วางแผนไว้ สำหรับการแข่งขันมหกรรมมวยไทยเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาองค์ราชัน มวยไทยเยาวชนโลก 2024 “2024 IFMA Youth WORLD CHAMPIONSHIPS 2024” สยามพารากอนพร้อมให้การสนับสนุนเรื่องของสถานที่ในการจัดงานอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ โดยจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่กว่า 1,500 คนมาร่วมชิงชัยในรายการดังกล่าวที่ประเทศไทย โดยสยามพารากอน เป็นสถานที่ที่มีความพร้อมอย่างมากในการจัดงาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักกีฬาครบถ้วน และตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร นักกีฬา-เจ้าหน้าที่ รวมถึงแฟนกีฬามวยมีความสะดวกในการเดินทางมารับชมการแข่งขันที่สนาม สยามพารากอนหวังว่าศึก “2024 IFMA Youth WORLD CHAMPIONSHIPS 2024” จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทุกประการ


สำหรับทีมนักมวยเยาวชนไทย ควบคุมทีมโดย นาวาอากาศเอก บุญส่ง นวลย่อง ส่งนักมวยเข้าร่วมแข่งขันดังรายชื่อต่อไปนี้ 

ประเภทชาย รุ่น 30 กก. อายุ 10-11 ปี พัชรวัฒน์ เวียงวิเศษ (เพชรกาฟิวส์ หมีทางด่วน), 

รุ่น 34 กก. อายุ 10-11 ปี ฐาติกร ไทรนิเวศไกรศร (สามสิงห์ ศูนย์กีฬาบ้านโพธิ์), 

รุ่น 38 กก. อายุ 12-13 ปี กฤษณะ หอยสังข์ (อัจฉะริยะ อ.อู๊ดอุดร), 

รุ่น 40 กก. อายุ 12-13 ปี ก้องเกียรติ ไกรวิเชียร (แองกี้เบิร์ด รร.กีฬานครศรี), 

รุ่น 45 กก. อายุ 14-15 ปี ภัทรนันท์ พิกุลวิสัย (โชกุล รร.กีฬาขอนแก่น), 

รุ่น 45 กก. อายุ 16-17 ปี บารมี สุวรรณสะอาด (คมณี สวนจากคาเฟ่), 

รุ่น 48 กก. อายุ 14-15 ปี ฐิติพันธ์ คำแร่ (นะโม ผดุงชัยมวยไทยยิม), 

รุ่น 48 กก. อายุ 16-17 ปี ตัสนิม โคตรภักดี (ดีเซลเล็ก ศ.ศรีทอง), 

รุ่น 51 กก. อายุ 14-15 ปี อภิเดช กาญจนะ (อภิเดช สุราษฎร์ยิม), 

รุ่น 51 กก. อายุ 16-17 ปี สิทธินนท์ ดำเนียม (นำขบวน ช.เกตุวีณา, 

รุ่น 54 กก. อายุ 16-17 ปี วิวิธวินท์ เลนทำมี (ฟีโน่ ช.เกตุวีณา), 

รุ่น 57 กก. อายุ 16-17 ปี สงกรานต์ ก้อนทรัพย์ (ตะวันเดือด รร.กีฬานครสวรรค์),

รุ่น 60 กก. อายุ 16-17 ปี โจเดิ้น ดูทอยท์ (โจเดิ้น รร.เมืองพญาแล)

ประเภทหญิง 

รุ่น 30 กก. อายุ 10-11 ปี บัญฑิตา เพรซุ้ม (ปาตี้ รร.กีฬานคร), 

รุ่น 36 กก. อายุ 12-13 ปี อารยา มั่นคง (หยกเพชร สิงห์มาวิน), 

รุ่น 38 กก. อายุ 12-13 ปี ศิวปรียา ทองเผือก (อังกอร์ ส.จิตรสนองชาติ), 

รุ่น 38 กก. อายุ 14-15 ปี ณัฐธิดา กันย์บุรี (พลอยสตาร์ ศิษย์ผู้ใหญ่จุก)

รุ่น 40 กก. อายุ 12-13 ปี ลักษณาพร มูสิโก (เพชรมินตรา ท.ย่านดินแดง), 

รุ่น 40 กก. อายุ 14-15 ปี นยยา ตาลรัตน์ (ดีเจ ศิษย์อ๊อดน้อย), 

รุ่น 42 กก. อายุ 14-15 ปี อนุศรา นุ่นเอียด (อักษรทอง เขาหลักมวยไทย), 

รุ่น 45 กก. อายุ 16-17 ปี นิรชา ตังจิว (เสน่ห์งาม กำนันเชษฐ์เมืองชล), 

รุ่น 48 กก. อายุ 16-17 ปี ธิดารัตน์ กันย์บุรี (ธิดาพลอย ศิษย์ผู้ใหญ่จุก), 

รุ่น 51 กก. อายุ 16-17 ปี ลักษิกา กาญจนะ (เพชรสยาม สุราษฎร์ยิม), 

รุ่น 54 กก. อายุ 16-17 ปี โสศศินันท์ แก้วปักษา (บัวชมพู หนึ่งชัยวัฒน์)

รุ่น 57 กก. อายุ 16-17 ปี เอวิตรา สอนฤทธิ์ (ยอดขวัญใจ รร.พญาแล)

รุ่น 60 กก. อายุ 16-17 ปี ปิยะวัน อุ่นคงพะเนาว์ (เพชรใบหยก รร.กีฬาโคราช) 

นาวาอากาศเอก บุญส่ง นวลย่อง ผู้ควบคุมทีมกำปั้นเยาวชนไทย กล่าวว่า ผลงานของนักชกไทยเมื่อปีที่แล้ว 2566 ที่ประเทศตุรกี นักชกเยาวชนไทยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง คราวนี้ประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าภาพ ประกอบกับที่ผ่านมาเราคัดเลือกเด็กจากศึกชิงแชมป์ประเทศไทย และเก็บตัวกันมาเป็นอย่างดี ทำให้ครั้งนี้ตั้งความหวังไว้ที่ 7-8 เหรียญทอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

EOD เร่งกู้ระเบิดตกค้าง-พิสูจน์กลิ่นศพทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 4 ส.ค. – ตลอดทั้งวัน ชุด EOD ตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปะทะ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พบวัตถุระเบิดและลูกกระสุนปืนใหญ่ตกค้างรวมกว่า 140 ลูก ใน 34 จุด ขณะที่กลิ่นศพทหารกัมพูชา ยังไม่ส่งผลกระทบฝั่งไทย แต่ชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันมีกลิ่นจริง ตลอดทั้งวัน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 และตำรวจภูธรพนมดงรัก รวมถึง ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามแนวปะทะใน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังสถานการณ์ปะทะสงบลง โดยพบวัตถุระเบิดและลูกกระสุนปืนใหญ่ตกค้างรวมกว่า 140 ลูก ใน 34 จุด หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดให้ข้อมูลว่า ระเบิดส่วนใหญ่ทำงานไปแล้ว เหลือเพียง 7 จุดที่ยังคงอยู่ระหว่างการเก็บกู้ แต่มีบางจุดที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติงานได้ เนื่องจากอยู่ติดแนวชายแดน และอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับทหารทั้ง 2 ฝ่ายที่ยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ อีกทั้งสภาพพื้นที่เป็นโคลนตม ทำให้บางจุดลูกระเบิดฝังลึกมาก ทำให้การเก็บกู้ยากลำบาก จึงทำได้เพียงล้อมรั้วแสดงสัญลักษณ์ให้ทราบ เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้ผู้คนเข้าใกล้ […]

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]