14 ส.ค. – ธีรพงศ์ ศิลาชัย, วีรพล วิชุมา และ สุรจนา คำเบ้า 3 จอมพลังฮีโร่ทีมชาติไทย ขอกลับไปฟิตซ้อมเพื่อเป้าหมายคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ 2028 ส่วน ดวงอักษร ใจดี ขอเรียนปริญญาโทให้จบ ก่อนตัดสินใจอนาคตอีกครั้ง
3 จอมพลังฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ปารีสเกมส์ นำโดย “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย เหรียญเงิน ยกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา เหรียญเงิน ยกน้ำหนักรุ่น 73 กิโลกรัมชาย, “ออย” สุรจนา คำเบ้า เหรียญทองแดง ยกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และ “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี อันดับ 6 รุ่นมากกว่า 81 กิโลกรัมหญิง พร้อมสตาฟฟ์โค้ช เดินทางจากกรุงปารีส โดยเที่ยวบิน TG 931 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 06.40 น. โดยมีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นตัวแทนรัฐบาล ให้การต้อนรับ รวมถึงผู้บริหารสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสถาบันการศึกษาของทั้ง 4 คน มารอต้อนรับอย่างคึกคัก ขณะที่ครอบครัวของทั้ง 4 คนที่อยู่ต่างจังหวัดได้เดินทางมารอต้อนรับ 4 ฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ของไทยอย่างอบอุ่น
“ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย บอกว่า ผลงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตการเป็นนักกีฬา ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ ผู้สนับสนุน ส่วนคุณพ่อตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว เสร็จภารกิจจะกลับไปเยี่ยม ส่วนการสร้างบ้านใหม่ให้พ่อ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดหรือมีแบบในใจ ขอกลับไปพูดคุยกับพ่อก่อน หลังจากนี้จะเดินหน้าซ้อมเพื่อเป้าหมายสูงสุด คือเหรียญทองโอลิมปิก ที่สหรัฐอเมริกา ในอีก 4 ปีข้างหน้าให้ได้
ส่วน “เวฟ” วีรพล วิชุมา ได้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ตลอดการแข่งขัน ดีใจที่คว้าเหรียญให้ทีมไทย และที่ดีใจกว่านั้นคือ การได้เจอหน้าครอบครัว หลังไม่ได้เจอกันมานานมาก ตอนนี้มีความสุขมากๆ และจะกลับไปเลี้ยงฉลองที่บ้าน อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ในเร็ววันนี้ ก่อนจะกลับไปฝึกซ้อม เพื่อเป้าหมายเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ในอีก 4 ปี
ด้าน “ออย” สุรจนา คำเบ้า ได้ขอบคุณกำลังใจจากคนไทยทุกคน หลังจากนี้จะกลับไปตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อโอกาสในโอลิมปิกครั้งหน้า ตั้งใจอยากจะไปคว้าเหรียญโอลิมปิกกลับมาให้ได้อีกครั้ง ส่วนอาชีพตอนนี้ หรือหลังเลิกเล่นทีมชาติ ส่วนตัวอยากรับราชการ อยากเป็นทหารบก
ส่วน “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี บอกว่าโอลิมปิกครั้งนี้ภาพรวมถือว่าค่อนข้างพอใจผลงานตัวเอง เพราะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น ส่วนสถิติที่ทำได้ส่วนตัวมองว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่แอบเสียใจนิดหน่อย โดยยอมรับว่าค่อนข้างกดดัน เพราะคนอื่นได้เหรียญหมดแล้ว พยายามปล่อยวางให้มากที่สุดก่อนลงแข่งขัน แต่ไม่รู้ว่าตอนแข่งเกิดอะไรขึ้น จากนี้ขอพักผ่อน และเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทให้จบ เพราะอนาคตอยากจะเป็นครู
โดยเจ้าฟ่าง มีคุณอาและภรรยา มารอต้อนรับ เนื่องจากคุณพ่อเพิ่งออกจากโรงพยาบาลพักรักษาตัวอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ
ด้านครอบครัวของเจ้าเวฟ ที่ขับรถมาจาก อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้มารอต้อนรับเช่นกัน พร้อมได้รับข่าวดีเมื่อทางกองทัพอากาศ เตรียมเลื่อนชั้นยศ จากปัจจุบันจ่าอากาศตรี หากเรียนจบปริญญาตรี จะปรับยศเป็นเรืออากาศตรี ทันที
ส่วนครอบครัว “น้องออย” สุรจนา คำเบ้า คุณเเม่ทำงานอยู่ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ส่วนพี่สาวเดินทางมาจาก จ.เชียงราย มารอต้อนรับ ทั้งคู่บอกว่าที่ผ่านมาน้องตั้งใจมากขยันซ้อมมาก เคยบอกกับครอบครัวว่ามีความตั้งใจ และฝันสูงสุดของน้องคืออยากจะได้เหรียญทองโอลิมปิก แต่ได้เหรียญทองแดงถือว่าเก่งที่สุดแล้ว จากนี้จะไปกินข้าวฉลองความสำเร็จกันภายในครอบครัว และน้องอยากจะพาคุณแม่ไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ เพราะแม่ยังไม่เคยไป
สำหรับเงินรางวัลที่ทัพยกน้ำหนักไทยจะได้รับ เหรียญเงิน “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย กับ “เวฟ” วีรพล วิชุมา ได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนการกีฬาแห่งชาติ คนละ 7.2 ล้านบาท และเงินเดือน 20 ปี คนละ 10,000 บาทต่อเดือน รวมคนละ 2.4 ล้านบาท
ส่วน “ออย” สุรจนา คำเบ้า เหรียญทองแดง ได้รับเงินจากกองทุนการกีฬาแห่งชาติ 4.8 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่าย และได้รับเงินเดือน 8,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 20 ปี รวม 1.92 ล้านบาท
นอกจากนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ผู้สนับสนุนหลักของสมาคม จะมอบเงินให้นักกีฬาที่คว้าเหรียญเงิน 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท
สำหรับโปรแกรมของทัพนักกีฬายกน้ำหนัก ช่วงบ่ายเวลา 15.00 น. จะเดินทางไปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อขอบคุณผู้สนับสนุนและรับเงินอัดฉีด จากนั้นวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาล .-สำนักข่าวไทย