จอมพลังฮีโร่ปารีสเกมส์ถึงไทย พร้อมเดินหน้าลุย แอลเอ 2028

14 ส.ค. – ธีรพงศ์ ศิลาชัย, วีรพล วิชุมา และ สุรจนา คำเบ้า 3 จอมพลังฮีโร่ทีมชาติไทย ขอกลับไปฟิตซ้อมเพื่อเป้าหมายคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ 2028 ส่วน ดวงอักษร ใจดี ขอเรียนปริญญาโทให้จบ ก่อนตัดสินใจอนาคตอีกครั้ง


3 จอมพลังฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ปารีสเกมส์ นำโดย “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย เหรียญเงิน ยกน้ำหนักรุ่น 61 กิโลกรัมชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา เหรียญเงิน ยกน้ำหนักรุ่น 73 กิโลกรัมชาย, “ออย” สุรจนา คำเบ้า เหรียญทองแดง ยกน้ำหนักรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง และ “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี อันดับ 6 รุ่นมากกว่า 81 กิโลกรัมหญิง พร้อมสตาฟฟ์โค้ช เดินทางจากกรุงปารีส โดยเที่ยวบิน TG 931 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 06.40 น. โดยมีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นตัวแทนรัฐบาล ให้การต้อนรับ รวมถึงผู้บริหารสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสถาบันการศึกษาของทั้ง 4 คน มารอต้อนรับอย่างคึกคัก ขณะที่ครอบครัวของทั้ง 4 คนที่อยู่ต่างจังหวัดได้เดินทางมารอต้อนรับ 4 ฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ของไทยอย่างอบอุ่น

“ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย บอกว่า ผลงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตการเป็นนักกีฬา ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ ผู้สนับสนุน ส่วนคุณพ่อตอนนี้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว เสร็จภารกิจจะกลับไปเยี่ยม ส่วนการสร้างบ้านใหม่ให้พ่อ ตอนนี้ยังไม่ได้คิดหรือมีแบบในใจ ขอกลับไปพูดคุยกับพ่อก่อน หลังจากนี้จะเดินหน้าซ้อมเพื่อเป้าหมายสูงสุด คือเหรียญทองโอลิมปิก ที่สหรัฐอเมริกา ในอีก 4 ปีข้างหน้าให้ได้


ส่วน “เวฟ” วีรพล วิชุมา ได้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ตลอดการแข่งขัน ดีใจที่คว้าเหรียญให้ทีมไทย และที่ดีใจกว่านั้นคือ การได้เจอหน้าครอบครัว หลังไม่ได้เจอกันมานานมาก ตอนนี้มีความสุขมากๆ และจะกลับไปเลี้ยงฉลองที่บ้าน อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ในเร็ววันนี้ ก่อนจะกลับไปฝึกซ้อม เพื่อเป้าหมายเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ในอีก 4 ปี

ด้าน “ออย” สุรจนา คำเบ้า ได้ขอบคุณกำลังใจจากคนไทยทุกคน หลังจากนี้จะกลับไปตั้งใจฝึกซ้อมเพื่อโอกาสในโอลิมปิกครั้งหน้า ตั้งใจอยากจะไปคว้าเหรียญโอลิมปิกกลับมาให้ได้อีกครั้ง ส่วนอาชีพตอนนี้ หรือหลังเลิกเล่นทีมชาติ ส่วนตัวอยากรับราชการ อยากเป็นทหารบก

ส่วน “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี บอกว่าโอลิมปิกครั้งนี้ภาพรวมถือว่าค่อนข้างพอใจผลงานตัวเอง เพราะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น ส่วนสถิติที่ทำได้ส่วนตัวมองว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่แอบเสียใจนิดหน่อย โดยยอมรับว่าค่อนข้างกดดัน เพราะคนอื่นได้เหรียญหมดแล้ว พยายามปล่อยวางให้มากที่สุดก่อนลงแข่งขัน แต่ไม่รู้ว่าตอนแข่งเกิดอะไรขึ้น จากนี้ขอพักผ่อน และเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทให้จบ เพราะอนาคตอยากจะเป็นครู


โดยเจ้าฟ่าง มีคุณอาและภรรยา มารอต้อนรับ เนื่องจากคุณพ่อเพิ่งออกจากโรงพยาบาลพักรักษาตัวอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ

ด้านครอบครัวของเจ้าเวฟ ที่ขับรถมาจาก อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้มารอต้อนรับเช่นกัน พร้อมได้รับข่าวดีเมื่อทางกองทัพอากาศ เตรียมเลื่อนชั้นยศ จากปัจจุบันจ่าอากาศตรี หากเรียนจบปริญญาตรี จะปรับยศเป็นเรืออากาศตรี ทันที

ส่วนครอบครัว “น้องออย” สุรจนา คำเบ้า คุณเเม่ทำงานอยู่ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ส่วนพี่สาวเดินทางมาจาก จ.เชียงราย มารอต้อนรับ ทั้งคู่บอกว่าที่ผ่านมาน้องตั้งใจมากขยันซ้อมมาก เคยบอกกับครอบครัวว่ามีความตั้งใจ และฝันสูงสุดของน้องคืออยากจะได้เหรียญทองโอลิมปิก แต่ได้เหรียญทองแดงถือว่าเก่งที่สุดแล้ว จากนี้จะไปกินข้าวฉลองความสำเร็จกันภายในครอบครัว และน้องอยากจะพาคุณแม่ไปเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ เพราะแม่ยังไม่เคยไป

สำหรับเงินรางวัลที่ทัพยกน้ำหนักไทยจะได้รับ เหรียญเงิน “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย กับ “เวฟ” วีรพล วิชุมา ได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนการกีฬาแห่งชาติ คนละ 7.2 ล้านบาท และเงินเดือน 20 ปี คนละ 10,000 บาทต่อเดือน รวมคนละ 2.4 ล้านบาท

ส่วน “ออย” สุรจนา คำเบ้า เหรียญทองแดง ได้รับเงินจากกองทุนการกีฬาแห่งชาติ 4.8 ล้านบาท หากเลือกรับแบบแบ่งจ่าย และได้รับเงินเดือน 8,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 20 ปี รวม 1.92 ล้านบาท

นอกจากนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ผู้สนับสนุนหลักของสมาคม จะมอบเงินให้นักกีฬาที่คว้าเหรียญเงิน 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 ล้านบาท

สำหรับโปรแกรมของทัพนักกีฬายกน้ำหนัก ช่วงบ่ายเวลา 15.00 น. จะเดินทางไปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อขอบคุณผู้สนับสนุนและรับเงินอัดฉีด จากนั้นวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาล .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” เงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ศาลให้ประกันตัว “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” หลักทรัพย์คนละ 6 แสนบาท เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ขณะเจ้าตัวเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อ เชื่อศาลจะให้ความยุติธรรม ด้านอธิบดีกรมการข้าว มองเป็นกรรมของแต่ละคน ไม่ได้รู้สึกอะไร ให้เป็นตามเวรกรรม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เปิดเผยภายหลังฟังคำตัดสินว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล ซึ่งประเด็นที่จะเป็นแนวทางการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ คือประเด็นที่ศาลมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ถูกลงโทษจำคุก 6 ปี แต่ส่วนตัวมองว่าตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะการแต่งตั้งของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการแต่งตั้งเฉพาะตัว ซึ่งศาลยังไม่ได้ดูในรายละเอียด เพราะการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น เงินเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ใส่ใจเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกังวลใจกับคำตัดสิน เพราะมองว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะเดียวกันจะมีการต่อสู้ในประเด็นการเชื่อมโยงจำเลยทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์ โดยจะชี้แจงว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีความเชื่อมโยงกับจำเลยอีก 4 คน เนื่องจากไม่เคยได้รับผลประโยชน์อะไรจากจำเลยทั้งหมด และเชื่อว่าคำตัดสินในศาลชั้นสูงจะให้ความยุติธรรมกับตัวเอง คำพิพากษาในวันนี้ศาลได้นำโทษคดีคาร์ม็อบ 2 คดี ในพื้นที่เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานครเมื่อปี พ.ศ. 2564 […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ข้ามไปหารือผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย

สระแก้ว 17 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว เดินทางข้ามไปหารือ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย แก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” บอกว่า ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ไป ก่อนเวลาประมาณ 10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากฝั่งคลองลึกอรัญประเทศของไทย ข้ามไปบริเวณปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ปอยเปต เพื่อแก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย ในจุดหลังเส้นสีแดงบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ข้อพิพาท แต่เป็นอธิปไตยของไทย โดยมี อุม เรีย ไต ผู้ ว่าราชการจังหวัดมันเตรียมเวนเจ มารอต้อนรับที่กลางสะพานมีการทักทายกันอย่างเป็นกันเอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้ทักทายกับพลโทเป็กวันนา หัวหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา- ไทย ความสัมพันธ์ที่ดีในช่วงที่ผ่านมาว่า พลโทเป๊กวันนา ก็เคยข้ามมารักษาพยาบาลที่ฝั่งไทย โดยก่อนเดินทางไปร่วมประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เดินทางไปเจรจาเพราะการหารือที่ขึ้นเป็นไปตามข้อตกลงของจากการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC.-สำนักข่าวไทย

ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

17 ก.ย. – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา กับเจ๋ง ดอกจิก พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ด้าน “ศรีสุวรรณ” เผยมั่นใจและเชื่อมั่นในคำพิพากษาว่าศาลจะให้กลับไปทำหน้าที่เหมือนเดิม ล่าสุดศาลพิพากษาคุก “เจ๋ง ดอกจิก” 6 ปี ด้าน “ศรีสุวรรณ” พร้อมพวกโดนด้วยคนละ 4 ปี นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจากอธิบดีกรมการข้าว ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษานายศรีสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ผู้มีอำนาจต้องการเตะตัดขา เพราะไม่ต้องการให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพราะสิ่งที่ทำมานับ 10 ปี เป็นที่หวาดผวาของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก เรื่องร้องเรียนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองหลายพรรค จบอนาคตการเมืองของนักการเมืองดังหลายคน จึงเป็นที่มาของการหาเหตุให้ต้องคดี โดยใช้เทคนิควิธีการ ซึ่งในภาษากฎหมายเรียกว่าล่อให้กระทำความผิด โดยการเอาถุงเงินไปแขวนหน้าบ้าน หากพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นความผิด อนาคตอาจนำไปใช้กันทั่วประเทศและก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชน นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า […]