เยอรมนี 7 ก.ค.- ได้ครบแล้ว 4 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลยูโร 2024 หลังอังกฤษ ดวลจุดโทษดับสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนเนเธอร์แลนด์ พลิกแซงตุรกี กลับมาคว้าชัย
ฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย อังกฤษ เสื้อสีขาว พบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ที่สนามดุสเซลดอร์ฟ อารีน่า ครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลัง นาที 75 สวิตเซอร์แลนด์ บุก และ แดน เอ็นดอย เปิดบอลเรียด จอห์น สโตนส์ แนวรับอังกฤษ แหย่เท้าสกัดบอลไม่อยู่มาเข้าทาง บรีล เอ็มโบโล สไลด์บอลเข้าไปให้สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำก่อน 1-0 จากนั้นนาที 80 สิงโตคำรามได้เฮ หลังจาก บูคาโย ซากา ลากตัดจากขวามาหน้ากรอบเขตโทษยิงผ่านแนวรับสวิตเซอร์แลนด์ บอลพุ่งตุงตาข่ายตามตีเสมอ 1-1 จบ 90 นาที ยังเสมอกันอยู่ ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
นาที 95 แนวรับตุรกีโหม่งบอลออกมาไม่ดีมาเข้าทาง เดแคลน ไรซ์ ยิงอัดเต็มข้อแต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูสวิตเซอร์แลนด์ ปัดไว้ได้ จากนั้นสวิตเซอร์แลนด์ได้ลุ้นคืนบ้างจากลูกยิงของ เซกี อัมดูนี ในนาที 120 แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดไว้ได้ จบ 120 นาที ยังเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษปรากฏว่า มานูเอล อาคันจี ของสวิตเซอร์แลนด์ ยิงไม่เข้า ส่วนอังกฤษ 5 คนยิงเข้าหมด เอาชนะไปได้ 5-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
หลังจบเกม แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษกล่าวว่า ทีมของเราอยู่ภายใต้กดดันมหาศาลตั้งแต่เริ่มต้น แต่เราก็ผ่านมาได้ ซึ่งต้องยอมรับว่านักเตะทุกคนทำได้ดีมาก มันเป็นเกมที่ดีที่สุดของเรา เราสร้างปัญหาให้พวกเขาได้มากมาย ก็มั่นใจว่าจะนำทีมผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้
อีกคู่ ที่โอลิมปิก สเตเดียม กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ชุดสีส้ม พบกับ ตุรกี นาที 35 อาร์ดา กูแลร์ เปิดบอลจากฝั่งขวาไปที่เสาสอง ซาเม็ต อคายดิน ขึ้นโหม่งบอลเช็ดใต้คานเข้าไป ช่วยให้ทีมตุรกีขึ้นนำก่อน 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ จากนั้นครึ่งหลัง นาที 51 เนเธอร์แลนด์ บุกหนัก นาธาน อาเก เปิดบอลให้ เวาต์ เว็กฮอร์สต์ โหม่งตั้งไป ให้ เมมฟิส เดอปาย หน้าประตู แต่เดอปายเข้าชาร์จไม่โดน นาที 56 ตุรกี เกือบได้ประตูที่สองเมื่อ อาร์ดา กูแลร์ ยิงฟรีคิกผ่านกำแพงไปได้แล้ว แต่บอลไปชนเสาเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาที 65 ฮาคาน ชัลฮาโนลู เปิดฟรีคิก แต่เเนวรับเนเธอร์แลนด์ เคลียร์บอลไม่ไดี ไปเข้าทาง เคนัน ยิลดิซ ยิงนอกกรอบบอลไปตรงตัว บาร์ท แฟร์บรูคเก้น ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์เซฟไว้ได้ จากนั้นเนเธอร์แลนด์บุกหนัก เมมฟิส เดปาย เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาให้ สเตฟาน เดอ ฟรายจ์ ขึ้นโหม่ง บอลพุ่งตุงตาข่ายช่วยให้ เเนเธอร์แลนด์ ตามตีเสมอตุรกี 1-1 ในนาที 70
นาที 76 เนเธอร์แลนด์ได้จากจังหวะที่ เดนเซล ดุมฟรีส์ ผ่านบอลเรียดจากขวาไปถึงเสาสองให้ โคดี้ กัคโป วิ่งโฉบ แมร์ต มัลเดอร์ กองหลังตุรกี ที่พยายามสกัดบอล แต่ สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง ทำให้ เนเธอร์แลนด์ พลิกแซง 2-1 นาที 85 ตุรกีเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะเปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษ ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ ออกมาตัดบอล แต่ไม่พ้นอันตราย บอลเลยไปถึง เซกี้ เซลิค ยิงที่เสาสอง แต่บอลไปติด มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน สกัดออกไปได้ นาที 89 เฌเรมี ฟริมปง โหม่งเช็ดให้ โคดี กัคโป วิ่งมายิงเต็มข้อในเขตโทษ แต่ผู้รักษาประตูตุรกียังช่วยเซฟไว้ได้
ท้ายเกมตุรกี ได้ลุ้นตีเสมอจาก อับดุลเกริม บาร์ดักชี เปิดไปให้หน้าประตู เซมีห์ คิลิชซอย แปบอล จะเข้าประตูแต่ บาร์ท แฟร์บรูคเก้น ผู้รักษาประตูเนเธอร์แลนด์ ล้มตัวปัดออกไปได้ จบเกม เนเธอร์แลนด์ พลิกกลับมาแซงเอาชนะ ตุรกี ไปอย่างสนุก 2-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
สำหรับรอบรองชนะเลิศ คืนวันอังคารที่ 9 กรกฎาคมนี้ สเปน จะพบกับ ฝรั่งเศส ส่วนอีกคู่ คืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคม เนเธอร์แลนด์ จะเข้าไปพบกับ อังกฤษ .-สำนักข่าวไทย
