เยอรมนี 18 มิ.ย. – ฝรั่งเศส อีกหนึ่งทีมเต็งแชมป์ฟุตบอลยูโร 2024 เปิดหัวนัดแรกด้วยชัยชนะหืดจับเหนือทีมชาติออสเตรีย 1-0 ส่วนโรมาเนีย เอาชนะ ยูเครน สวยงาม 3-0 เป็นชัยชนะในฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายครั้งแรกในรอบ 24 ปี ขณะที่สโลวาเกีย พลิกชนะ เบลเยียม 1-0 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
เริ่มที่คู่ดึกสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันของกลุ่มดี ที่สนามดุสเซลดอร์ฟ อารีนา ทีมชาติฝรั่งเศส ประเดิมสนามนัดแรกพบทีมชาติออสเตรีย ครึ่งแรกฝรั่งเศสเป็นฝ่ายครองเกมบุกมากกว่า มีโอกาสทำประตูนำหลายครั้ง ก่อนจะได้ประตูนำก่อนในนาทีที่ 38 เมื่อ คิเลียน เอ็มบับเป ศูนย์หน้าตัวเก่ง ลากเลื้อยบอลริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดบอลเข้ากลางประตู แม็กซิมิเลียน โวแบร์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟออสเตรีย พยายามโหม่งสกัด แต่บอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูไปทางเสาไกล จบครึ่งแรกฝรั่งเศสนำ 1-0
ครึ่งหลังออสเตรียทำเกมได้ดีขึ้น พาบอลบุกถึงหน้าประตูฝรั่งเศสหลายครั้ง แต่ปิดสกอร์ไม่คมพอ แถมยังเกือบเสียประตูเพิ่ม จากลูกที่เอ็มบับเปได้หลุดไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่ยิงออก ก่อนที่เอ็มบับเปจะถูกเปลี่ยนตัวออก หลังปะทะกับกองหลังออสเตรียจนจมูกแตก จบเกมฝรั่งเศสเฉือนชนะออสเตรีย 1-0 ตารางกลุ่มดี ฝรั่งเศสกับเนเธอร์แลนด์มี 3 คะแนนเท่ากัน ออสเตรียกับโปแลนด์ไม่มีคะแนน
ส่วนการแข่งขันคู่หัวค่ำ คู่แรกของกลุ่มอี ยูเครนลงสนามพบกับโรมาเนีย ที่สนามอัลไลแอนซ์ อารีนา ในมิวนิก ช่วงต้นเกม ยูเครนครองบอลบุกมากกว่า แต่หาโอกาสทำประตูจะแจ้งไม่ได้ เป็นฝ่ายโรมาเนียออกนำไปก่อนในนาทีที่ 29 จากลูกยิงเต็มข้อของ นิโคเล สแตนซิอู กองกลางกัปตันทีม และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังยังเป็นยูเครนที่ครองเกมบุกมากกว่า แต่หาโอกาสจบไม่ได้ ขณะที่โรมาเนียตั้งรับเหนียวแน่นและรอสวนกลับ จนได้ประตูออกนำ 2-0 ในนาทีที่ 53 จากลูกยิงของ รัซวาน มาริน ถัดมาอีก 4 นาที สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อ เดนนิส มาน หลุดเข้าไปเปิดบอลเรียดจากกราบขวา แล้ว เดนิส ดรากุส ยิงบอลเข้าประตูไป จบเกม โรมาเนียเอาชนะยูเครนสวยงาม 3-0 เป็นชัยชนะในฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายครั้งแรกในรอบ 24 ปี
ส่วนการแข่งขันอีกคู่ของกลุ่มอี เบลเยียมลงสนามพบกับสโลวาเกีย ที่สนามแฟรงค์เฟิร์ต อารีนา ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ครึ่งแรก เบลเยียมเดินหน้าบุกทันที แต่กลับเสียประตูไปก่อนอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อ เจเรมี โดกู ปีกของเบลเยียม จ่ายบอลพลาดบริเวณหน้าประตูตัวเอง ยูราช คุชกา สับไกเต็มเหนี่ยว ผู้รักษาประตูเบลเยียมปัดได้ในจังหวะแรก แต่ อิวาน ชรานซ์ ยิงซ้ำเข้าประตูไปในนาทีที่ 7 จากนั้นเบลเยียมยังคงทำเกมบุก แต่หาจังหวะยิงไม่ได้ จบครึ่งแรกตามหลังสโลวาเกียอยู่ 0-1
ครึ่งหลัง เบลเยียมเดินหน้าบุกเหมือนเดิม และมีโอกาสส่งบอลเข้าประตู 2 ครั้ง ครั้งแรก อามาดู โอนานา โขกตั้งบอลจากลูกเปิดด้านข้างให้ โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาร์จจ่อๆ เข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู หลังจาก VAR เช็กแล้วว่าเป็นลูกล้ำหน้า อีกครั้งช่วงท้ายเกม โลอิส โอเพนดา ตัวสำรอง เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ ลูกากู ยิงด้วยซ้ายเต็มข้อเข้าประตูไปสวยงาม แต่ผู้ตัดสินริบประตูคืนหนสอง เนื่องจากเห็นว่าโอเพนดาทำแฮนด์บอลก่อนที่จะเปิดบอลให้ลูกากูยิง จบเกม สโลวาเกียพลิกชนะเบลเยียม 1-0 เก็บ 3 คะแนนได้เช่นเดียวกับโรมาเนีย ที่อยู่กลุ่มอีเช่นกัน ส่วนเบลเยียมกับยูเครนไม่มีคะแนน.-สำนักข่าวไทย