เยอรมนี 16 มิ.ย.-อิตาลี แชมป์เก่า เฉือนชนะ แอลแบเนีย 2-1 ส่วนสเปน อดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ฟุตบอลยูโร 2024
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี กลุ่มบี ที่ถือเป็นกรุ๊ปออฟเดธในศึกยูโรครั้งนี้ นัดแรก ที่เมืองดอร์ทมุนด์ “ทีมขุนพลอัซซูรี่” อิตาลี แชมป์เก่า พบ แอลแบเนีย เริ่มเกมเพียง 23 วินาที เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้ ทุ่มคืนหลังพลาดถูก เนดิม บายรามี่ ตัดบอลไปได้ก่อนซัดด้วยขวามุมแคบเข้าไปให้แอลแบเนีย ขึ้นนำ 1-0 และถือเป็นการยิงประตูเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของศึกยูโร หลังจากในศึกยูโร 2004 ดิมิทรี คิริเชนโก้ ยิงประตูแรกด้วยเวลา 67 วินาที ช่วยให้รัสเซีย เอาชนะ กรีซ 2-1 จากนั้นอิตาลี โหมบุกหนัก นาทีที่ 11 ลอเรนโซ่ เปลเยกรีนี่ เปิดบอลไปเสาไกลให้ อเลสซานโดร บาสโตนี่ สอดขึ้นมาโหม่งเข้าไปให้ อิตาลี ตีเสมอ 1-1 จากนั้นเพียง 5 นาที กองหลังแอลแบเนีย สกัดบอลไปขาดไปเข้าทาง นิโคโล่ บาเรลล่า ซัดด้วยขวาเข้าไปช่วยให้ อิตาลี เฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 ประเดิมเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
อีกคู่ในกลุ่มนี้ “ทีมกระทิงดุ” สเปน แชมป์โลกปี 2010 และอดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย พบ “ทีมตราหมากรุก” โครเอเชีย อดีตรองแชมป์โลกปี 2018 นาทีที่ 29 อัลบาโร่ โมราต้า ดาวยิงกัปตันทีม กระชากเข้ากรอบเขตโทษก่อนแปด้วยซ้ายเข้าไปให้สเปนขึ้นนำก่อน 1-0 ถัดมาเพียง 3 นาที ฟาเบียน รุยซ์ ล็อคหลบลูก้า โมดริช และนักเตะของโครเอเชีย ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปสเปน นำห่าง 2-0 ช่วงทดเวลาครึ่งแรกนาทีที่ 45+2 ลามีน ยามาล ปีกดาวรุ่งที่ทำสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงสนามในศึกยูโร รอบสุดท้าย ด้วยวัยเพียง 16 ปี 338 วัน เปิดให้กับ ดานี่ คาร์บาฆาล ชาร์จจ่อๆ เข้าไปเป็นประตูแรกในนามทีมชาติให้สเปนนำห่างถึง 3-0
ครึ่งหลังทั้งสองทีมแลกเกมกันอย่างสนุก นาทีที่ 78 อูไน ซิมอน นายทวารสเปน เตะไปติดบล็อค บอลหลุดไปเข้าทาง บรูโน่ เพ็ตโควิช ที่กำลังจะง้างเท้ายิงโล่งๆ แต่ถูกโรดรี้ ทำฟาวล์ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินเป่าให้โครเอเชีย ได้จุดโทษ และเป็น บรูโน่ เพ็ตโควิช ที่ยิงไปติดเซฟ อูไน ซิมอน บอลไปเข้าทาง อีวาน เปริซิช ที่เปิดกลับเข้ามาให้ เพ็คโควิช ยิงเข้าไป แต่หลังจากผู้ตัดสินเช็ค VAR เปริซิช วิ่งเข้าเขตโทษก่อน ทำให้โครเอเชีย พลาดตีไข่แตกอย่างน่าเสียดาย จบเกม สเปน เอาชนะไปได้ 3-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้เช่นกัน
กลุ่ม เอ สวิตเซอร์แลนด์ พบ ฮังการี นาทีที่ 12 ควาดโว ดูอาห์ หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า แต่หลังจากเช็ค VAR ผู้ตัดสินเป่าให้สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 45 มิเชล อาร์บิสเชอร์ ปั่นด้วยขวาเข้าไปอย่างสุดสวยให้ สวิตเซอร์แลนด์ นำห่าง 2-0 ครึ่งหลังนาทีที่ 66 โดมินิค โซโบสไล เปิดไปหน้าประตูให้ บาร์นาบาส วาร์ก้า โขกเข้าไป ให้ฮังการีไล่มาเป็น 1-2 แต่นาทีที่ 90+3 กองหลังฮังการี โหม่งสกัดไม่ดีถูก บรีล เอ็มโบโล่ โฉบตัดบอลเข้าไปยิงประตูปิดท้ายช่วยให้ สวิตเซอร์แลนด์ เอาชนะฮังการีไปได้ 3-1 มี 3 คะแนน เท่ากับ เยอรมนี แต่เป็นรองประตูได้เสีย
โปรแกรมคืนนี้ รอบแรก กลุ่ม ดี เวลา 20.00 น. โปแลนด์ พบ เนเธอร์แลนด์
รอบแรก กลุ่ม ซี เวลา 23.00 น. สโลวีเนีย พบ เดนมาร์ก เวลา 02.00 น. เซอร์เบีย พบ อังกฤษ.-นักข่าวไทย