นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศลรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้วางแผนการส่งเสริมกีฬามวยไทยสู่ความเป็นสากล และ Soft Power โดยมีคณะกรรมการกีฬามวย เป็นผู้กำกับการขับเคลื่อนให้เกิด “มาตรฐาน” และ “การยอมรับ” ในระดับสากล
คณะกรรมการกีฬามวย และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ปรับปรุงมาตรฐานต่างๆ ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน มีการวางมาตรฐานเป็นหนึ่งเดียว (One Standard) ซึ่งประกอบด้วย 5 ด้านที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- หลักสูตรผู้ฝึกสอนมวยไทย
- หลักสูตรผู้ตัดสินมวยไทย
- หลักสูตรการบริหารจัดการค่ายมวย
- หลักสูตรการจัดการแข่งขันมวยไทย
- หลักสูตรด้านองค์ความรู้มวยไทย
มีการปรับให้มีโครงสร้าง “สถาบันมวยไทยแห่งชาติ” ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย เป็นผู้ศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้ในแต่ละด้านดังกล่าว พร้อมทั้งได้ทำประชาพิจารณ์ ร่วมกับสมาคมกีฬามวยและบุคคลในวงการกีฬามวยแล้วเสร็จเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ประเทศไทยเรามีศูนย์กลางการเรียนรู้ พัฒนาผลิตบุคลากรกีฬามวยไทยที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ประกอบด้วย ศูนย์ทดสอบ (นำร่อง) จำนวน 5 ศูนย์ ได้แก่ 1. ภาคตะวันออก : ศูนย์ทดสอบมหาวิทยาลัย ม.บูรพา จ.ชลบุรี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ศูนย์ทดสอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น
- ภาคเหนือ : ศูนย์ทดสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จ.เชียงราย
- ภาคใต้ : ศูนย์ทดสอบมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ จ.กระบี่
- ภาคกลาง : ศูนย์ทดสอบการกีฬาแห่งประเทศไทย กทม.
นางสาวสุดาวรรรณ เผยว่า“ มวยไทยถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทยที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน เป็นทั้งการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวและเกมส์กีฬา “
”รัฐบาลและทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรามีนโยบายหลักคือผลักดันมวยไทยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจกับกีฬามวยไทยที่เราเป็นต้นตำรับ อีกทั้งเรายังมีนักมวยไทยชื่อดังหลายคน ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเรามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น บัวชาว บัญชาเมฆ หรือทางด้าน รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่กำลังโด่งดัง ณ ปัจจุบัน เรามีการเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยในต่างแดนอย่างต่อเนื่องให้กับผู้สนใจเข้าร่วมเรียนรู้ทักษะมวยไทย ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านกีฬามวยไทย”
“ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราจัดการแสดงไหว้ครูมวยไทยครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โชว์ความสวยงามของแม่ไม้มวยไทยด้วยจำนวนคนที่มากที่สุดในโลกกว่า 5,000 คน เพื่อบันทึกลงกินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด ให้คนต่างชาติว้าวกับสิ่งที่เกิดขึ้น“
”ในส่วนของการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทย ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันค่ะ เราต้องช่วยกันผลักดันกีฬามวยไทยให้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย”
“อีกอย่างหนึ่งค่ะ เราได้ตั้งเป้าหมาย คือ การผลักดันให้กีฬามวยไทย ให้ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งชนิดกีฬาในการแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ปี 2032 ณ เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ด้วยค่ะ”
“สุดท้ายดิฉันก็หวังว่า การรับรองมาตรฐานบุคลากรกีฬามวยไทย ตามพันธกิจและเจตนารมณ์ของ พรบ.มวย ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันและความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมกีฬา เกิดการยอมรับในระดับสากลและสามารถยึดกีฬามวยไทยเป็นอาชีพได้อย่างมั่นคง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย และเราพร้อมที่จะเดินหน้าร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อทำให้สิ่งที่เรากำลังผลักดันนั้นเกิดประโยชน์ในทุกๆมิติค่ะ