“อาดิดาส”จับมือตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE+10 สร้างแรงบันดาลใจให้แข้งเยาวชนหญิง

25 เม.ย.67 – กรุงเทพฯ อาดิดาสจับมือเหล่าไอคอนแห่งวงการฟุตบอล ปลุกแคมเปญ “Jose+10” ที่เคยเกิดขึ้นครั้งแรกในเกมการแข่งขันภาคฤดูร้อน 2006 ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อส่งพลังและขับเคลื่อนขีดความสามารถของเหล่านักกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาเยาวชนหญิงที่ล้มเลิกการเล่นกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย ให้พร้อมฝ่าฟันทุกแมทช์การแข่งขันในอนาคต ซึ่งแคมเปญนี้นำโดยเหล่าดาวดังมากมาย ทั้ง อเลสเซีย รุสโซ (Alessia Russo), คาดิดิอาตู ดีอานี (Kadidiatou Diani), ลินดา ดัลมันน์ (Linda Dallman), จูด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham), และ ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) รวมถึงนักกีฬาระดับตำนานอย่าง เดวิด เบ็คแฮม (David Beckham), กาก้า (Kaká) และซีเนดีน ซีดาน (Zinedine Zidane)


แคมเปญ “Jose+10” เกิดขึ้น โดยการรวบรวมเรื่องราวที่บอกเล่าความสามารถอันแสนโดดเด่นของเหล่านักกีฬาต้นแบบ รวมถึงยังสะท้อนแง่มุมของเหล่าแฟนกีฬาที่คอยเป็นพลังใจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้นักกีฬารุ่นใหม่พร้อมที่จะมุ่งมั่นทำตามความฝันและกล้าที่จะก้าวเท้าลงไปยังสนามแข่งขันต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างการรับรู้ว่ากีฬาเป็นเรื่องของทุกคน อาดิดาสยังได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลแนวหน้าอย่าง อาร์เซนอล บาเยิร์น มิวนิค แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอลิมปิก ลียง และเรอัล มาดริด เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการของเหล่าแฟนคลับตัวน้อย ด้วยการฉายภาพเด็กผู้หญิงตัวน้อยยืนเคียงข้างกับเหล่านักเตะทีมชายและทีมหญิง เพื่อให้ความรู้สึกเหล่านั้นเด่นชัดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ อาดิดาสยังได้ต่อยอดแคมเปญดังกล่าวด้วยการส่งต่อข้อความเสริมสร้างแรงบันดาลใจจากเหล่านักเตะหญิงแถวหน้า นำโดย เวนดี เรนาร์ด (Wendie Renard) นักเตะกองหลังจากทีมโอลิมปิก ลียง โดยเธอได้เขียนข้อความอันทรงพลังถึงตัวเธอเองในวัย 13 ปี เพื่อเล่าเรื่องราวความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดของเธอ รวมถึงความสำเร็จต่างๆ ที่เธอทำได้เพียงแค่เธอไม่หยุดเชื่อมั่นในตัวเอง


ก่อนจะตามมาด้วยข้อความเพิ่มเติมจาก ลินดา ไกเซโด (Linda Caicedo) จากสโมสรเรอัล มาดริด และ ลิซ่า โบ๊ตติน (Lisa Boattin) จากสโมสรยูเวนตุส ที่จะได้รับการเผยแพร่บนช่องทางโซเชียลมีเดียของแต่ละคน

เวนดี เรย์นาร์ด นักเตะกองหลังของทีมชาติฝรั่งเศสและสโมสรโอลิมปิก ลียง กล่าวว่า “ฉันยังจำช่วงเวลาของฉันในวัย 13 ปีได้อย่างชัดเจน ชีวิตของเด็กสาวในวัยนั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทำให้การยอมละทิ้งกีฬาเกิดขึ้นได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม กีฬาถือเป็นสิ่งสำคัญที่สอนเรื่องราวต่างๆ มากมายให้กับเรา ทั้งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ มอบบทเรียนชีวิตที่มีคุณค่าที่จะสามารถอยู่กับเราไปได้ตลอดชีวิต ดังนั้น การที่ฉันได้มีโอกาสเขียนจดหมายถึงตัวเองในวัย 13 ปี จึงถือเป็นเรื่องดีที่ได้นำความรู้สึกเก่าๆ และประสบการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตกลับมาอีกครั้ง โดยฉันอยากจะให้ข้อความนี้ ช่วยทำให้เด็กๆ สนุกกับการใช้ชีวิต อดทน อย่ายอมแพ้แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเหนือสิ่งอื่นใด ขอให้ทุกคนอย่าหยุดเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง เพราะถ้าคุณหยุดเชื่อในตัวเองเมื่อไหร่ คุณจะพลาดสิ่งที่คุณจะสามารถบรรลุความสำเร็จไปได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะค่ะ”

แคมเปญนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นจาก adidas Football Collective ที่ต้องการเสริมสร้างความเท่าเทียมทางด้านกีฬาให้เกิดขึ้นกับทุกคน เพื่อให้พลังดังกล่าวช่วยสร้างอนาคตที่ดียิ่งขึ้นให้กับโลกและผู้คน โดยอาดิดาสยังได้นำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ในทุกแง่มุม ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ โปรแกรม และพันธมิตรต่างๆ เช่น


• การบริจาครายได้ 1% จากยอดขายสุทธิของลูกฟุตบอลสำหรับใช้แข่งขันอย่างเป็นทางการของ UEFA Women’s Champion League และ UEFA Champion League 2024 เพื่อมุ่งสร้างความเท่าเทียมในสนาม ภายใต้โครงการ ‘Equal Play Effect’ จาก Common Goal ซึ่งเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นร่วมกันโดยมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการมีส่วนร่วม การเป็นตัวแทน ตลอดจนความเป็นผู้นำในเกมการแข่งขันของผู้หญิง และ Non-binary ในกีฬาฟุตบอล
• การร่วมมือกับนักกีฬาภายใต้สังกัดของอาดิดาสและองค์กร Well HQ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพสตรี เพื่อริเริ่มโครงการ adidas Breaking Barriers พร้อมกับการจัดเวิร์คชอปเป็นครั้งแรกให้กับเหล่านักกีฬา ครูผู้ฝึกสอน และผู้ปกครองกว่า 100 คนจากโรงเรียนอันเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิร์ลส์ อคาเดมี และทีม U21 เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการมีประจำเดือน
• ทีมโอลิมปิก ลียง เฟมีนิน (Olympique Lyonnais Féminin) ได้เปิดประสบการณ์การรับชม ‘กาล่าแมทช์’ แมชท์การแข่งขันใหญ่รอบรองชนะเลิศครั้งแรกของการแข่งขัน UEFA Women’s Champion League ให้กับเยาวชนจากสโมสรสมัครเล่นกว่า 300 สโมสร ณ กรูปามา สเตเดียม
• ยูฟ่าได้สานต่อโครงการ #WePlayStrong ที่มีความตั้งใจในการเปลี่ยนภาพจำเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลหญิง พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมให้เหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสนามการแข่งขันต่อไป

ทั้งนี้ การเปิดตัวแคมเปญ “Jose+10” นับเป็นการสานต่อความสำเร็จของแคมเปญ Champion the Girls ที่อาดิดาสได้ริเริ่มขึ้นเพื่อให้เป็นพื้นที่สำหรับเด็กผู้หญิงให้ได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์และความอิ่มเอมใจในการรับชมการแข่งขัน UEFA Women’s Champion League ที่ได้จัดขึ้นไปเมื่อปี 2023

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย