‘รมว.สุทิน’ ปลื้มนำมวยไทยติวเข้มให้ทหาร – ดันเข้ากีฬาทหารโลกมุ่งเป้าอลป.

เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหม ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสหพันธ์สมาคมมวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) ทำพิธีเปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร (Muaythai and Martial arts in Military Camp) ที่สนามเวทีมวยชั่วคราว ศูนย์การกำลังสำรอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยได้รับเกียรติจาก นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด นอกจากนี้ยังมีนายปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA), สเตฟาน ฟ็อกซ์ เลขาธิการ IFMA รวมถึงร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยไทย โชว์ศิลปะการร่ายรำไหว้ครู


สำหรับโครงการมวยไทยและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในค่ายทหาร (Muaythai and Martial arts in Military Camp) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2567 เนื่องจากเล็งเห็นว่า กีฬา “มวยไทย” เป็นมรดกของชาติ และศิลปะแม่ไม้มวยไทยซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงในการป้องกันตัวในการต่อสู้ระยะประชิด กระทรวงกลาโหมซึ่งมีกำลังพลที่มีวิชาความรู้ด้านมวยและศิลปะการป้องกันตัว ทั้งระดับนักกีฬา และผู้ฝึกสอน เป็นจำนวนมาก และสมาชิกชมรมมวย และศิลปะการป้องกันตัวในค่ายทหารทั่วประเทศ ซึ่งคุณลักษณะของทหารคือ ความมีวินัย ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของการเป็นนักกีฬา รวมไปถึงมีหลักสูตร และพื้นที่ในฝึกซ้อมมวย แต่ละปีจะมีกำลังพลที่เป็นพลทหารเข้ามาประจำการ ราว 80,000 นาย ซึ่งบางส่วนมีทักษะมวยติดตัวมา และบางส่วนมีความสนใจฝึกฝนเป็นนักกีฬามวยในอนาคต ปัจจุบันหลักสูตรมวย และศิลปะการป้องกันตัวที่มียังไม่ได้มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ดังนั้นการพัฒนามวยไทย และศิลปะการป้องกันตัวในค่ายทหาร ควรพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยรับรอง และต่อยอดกับสหพันธ์มวยไทยที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้การรับรอง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของมวยไทยโลก ที่คนไทย และต่างชาติต้องมาค้นหาต้นตำรับจากแหล่งกำเนิดที่ถูกต้อง และที่สำคัญองค์กรกีฬาโลกรับรอง โดยใช้มาตรฐานมวยไทยเดียว “One Standard Muaythai” จากประเทศไทยสู่สากล และสากลกลับมายังประเทศไทย ตามคำขวัญ “Spirit is stronger than a gun, We are Muaythai”

วัตถุประสงค์หลักของการจัดโครงการดังกล่าวเพื่อสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ศิลปะแม่ไม้มวยไทย ให้เป็นซอฟต์เพาเวอร์ของชาติ เพื่อรักษาภูมิปัญญา องค์ความรู้ เกี่ยวกับศิลปะแม่ไม้มวยไทย ตามหลักสูตรตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรอง ผ่านกระบวนการเรียนการสอนในหลักสูตรของทหารทุกหลักสูตร สร้างเครือข่ายครูมวยทหารทั่วประเทศ และต่อยอด นำความรู้ ปั้นนักกีฬามวยให้แก่ประเทศ ขับเคลื่อนให้มวยไทยก้าวไปสู่สากลระดับ เพราะในอดีตที่ผ่านมามวยไทยในค่ายทหารเป็นแหล่งผลิตนักกีฬาให้แก่ประเทศ เป็นทั้งทหารอาชีพ และนักมวยอาชีพ โดยการอบรมในวันที่ 25-26 มกราคม นำโดย รศ.ดร.อนันต์ เมฆสวรรค์, ดร.เช้า วาทโยธา, ผุดผาดน้อย วรวุฒิ อดีตนักมวยไทยชื่อดัง และนายวิทวัส ค้าสม เป็นวิทยากรเรียนรู้การต่อสู้ป้องกันตัวด้วยอาวุธมวยไทยในทักษะต่างๆ


หลังพิธีเปิด นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า มวยไทยเป็นมรดกและเป็นเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับกองทัพไทยมากที่สุด เพราะกองทัพมีหน้าที่ในการต่อสู้ปกป้องประเทศ ดังนั้นอาวุธชิ้นแรกของมนุษย์ คือ หมัด เท้า เข่า ศอก ดังนั้นกองทัพจึงได้นำมวยไทยมาฝึกทหารนานแล้ว แต่วันนี้เป็นการตอกย้ำและพัฒนา สร้างหลักสูตรให้ดีขึ้น นอกจากนั้นที่ผ่านมากองทัพไทยเป็นแหล่งให้การสนับสนุนมาตลอด มีทั้งค่ายฝึก สนามมวยมีระบบส่งเสริมมวยไทยอย่างต่อเนื่อง ความสำคัญอีกอย่าง คือ กระทรวงกลาโหมตอบสนองนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ซอฟต์เพาเวอร์หลักของไทย คือ มวยไทย ถ้ามวยไทยต้องเป็นกองทัพ เพราะกองทัพสนับสนุนมวยไทยมาโดยตลอด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า นอกจากการผลักดันมวยไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์แล้วการเดินหน้าผลักดันมวยไทยให้บรรจุในโอลิมปิกเกมส์ในอนาคตก็เป็นเรื่องสำคัญ ต้องเดินหน้าไปตามขั้นตอนแรกสุดเลย มวยไทยสมัครเล่นต้องบรรจุแข่งขันในกีฬากองทัพไทยแล้วเดินหน้าบรรจุในกีฬาทหารโลก เพื่อส่งต่อไปบรรจุในโอลิมปิก ซึ่งมวยไทยก็เป็นกีฬาที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้การรับรองมาแล้ว เชื่อว่าในอนาคตจะได้เห็นมวยไทยบรรจุในโอลิมปิกเกมส์แน่นอนใช้เวลาอีกไม่นานด้วย เมื่อถึงวันนั้นแล้วจะเป็นการผลักดันซอฟต์เพาเวอร์สู่จุดสุดยอดของโลก ความรัก ความศรัทธาของคนไทยในกีฬามวยไทย และการท่องเที่ยวไทยจะเกิดขึ้น

“ผมมั่นใจมากว่ามวยไทยจะมีแข่งในโอลิมปิก เราเห็นมาแล้วว่ามวยไทยถูกบรรจุในเวิลด์เกมส์ ซึ่งเป็นมหกรรมที่ใกล้เคียงกับโอลิมปิก จากการพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกีฬาทหารโลก ก็ยินดีจะบรรจุมวยไทยเข้าไปด้วย เมื่อเป็นไปตามนี้ก็จะเป็นไปตามมาตรฐานที่จะได้เข้าโอลิมปิกแล้ว ผมมั่นใจมากว่าทำได้แน่” นายสุทินกล่าว


สำหรับผลการแข่งขันมวยไทยในกิจกรรม “MILITARY MUAYTHAI มวยไทยในค่ายทหาร สืบสาน รักษา ต่อยอด” มีดังนี้

คู่ที่ 1 รุ่นน้ำหนัก 27 กก.ชาย วีรภัทร สายแผ้ว ชนะ ภัทรพล เกิดทอง
คู่ที่ 2 รุ่นน้ำหนัก 38 กก.หญิง ธนิตตา พึ่งพินิจ ชนะ ลภัสญา หมายมั่น
คู่ที่ 3 รุ่นน้ำหนัก 40 กก.ชาย สิทธิโชค สุวรรณนะ ชนะ ธนพล เดชแสง
คู่ที่ 4 รุ่นน้ำหนัก 45 กก.หญิง ศุภ ฟ้าธรณีแสง ชนะ พรทิพย์ คำทองพเนาว์
คู่ที่ 5 รุ่นน้ำหนัก 57 กก.ชาย นิรัตศัย พานทอง ชนะ วีเจ็ด โอ๊ส

จากนั้นเข้าสู่การแข่งขันมวยไทยอาชีพ ผลการแข่งขันมีดังต่อไปนี้

คู่ที่ 1 รุ่น 52 กก. เกล็ดแก้ว อ.อาคม ชนะ เทพสมุทร ก.คนเขียนข่าว
คู่ที่ 2 รุ่น 67 กก. เพชรประภา ส.จ.เปี๊ยกอุทัย ชนะ เพชรภูพาน ศักดิ์นรินทร์
คู่ที่ 3 รุ่น 55 กก. บรรดาศักดิ์ ส.ตระกูลเพชร ชนะ เอเจ ก.กลมเกลียว
คู่ที่ 4 รุ่น 70 กก. กระดูกเหล็ก ศิษย์อุดมชัย ชนะ วีรพล ศักดิ์นรินทร์
คู่ที่ 5 รุ่น 58 กก. เพชรมงคล หยกขาวแสนชัยยิมส์ ชนะ ยอดขุนพล สิงห์คลองสี่
คู่ที่ 6 รุ่น 65 กก. เด็กเพชร ก.คนเขียนข่าว ชนะ ช่อเพชร ธงชัยการเกษตร
คู่ที่ 7 รุ่น 58 กก. เพชรทรงพล ศิษย์พนมทอง ชนะ ยอดมงคล เกียรติดาราภูธร
คู่ที่ 8 รุ่น 58 กก. พนมกร รัตนคำพจน์ ชนะ กระดิ่งทอง ศิษย์อุดมชัย
คู่ที่ 9 คู่รอง รุ่น 60 กก. ซุปเปอร์แมน บัญชาเมฆ ชนะ เจริญทอง ส.สมาคม
คู่ที่ 10 คู่เอก รุ่น 63.5 กก. ปิ่นเพชร บัญชาเมฆ ชนะ ซูเปอร์เค เกียรติดาราภูธร

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืน พาญาติช่วยเจรจามอบตัว

สุรินทร์ 15 ส.ค.- เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืนกลางดึก หลบอยู่ในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ประสานญาติช่วยเจรจามอบตัว เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองและตำรวจ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามตัวพลทหารก่อเหตุรัวยิงปืนกลางดึก ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ผกก.สภ.กาบเชิง ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจและทหาร ก่อนเดินทางไปติดตามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล เบื้องต้นคนเจ็บให้การว่า นั่งดื่มสุรา 5-6 คน ก่อนจะแยกย้ายกันเหลือนั่งอยู่ 2 คน จากนั้นไม่นานพลทหารนายดังกล่าวก็ออกมายืนกราดยิงห่างประมาณ 50 เมตร วัยรุ่น 2 คนจึงรีบหมอบหลบได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้านนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ขณะนี้พบตัวทหารผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างประสานไปยังครอบครัวให้เดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเจรจามอบตัว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]