กทม. 8 พ.ย.- “โจ้ หลังเท้า” นำอดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เปิดโปงขบวนการหักหัวคิว พร้อมเรียกร้องคืนเงินรางวัล ให้กับนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ทั้งอดีตและปัจจุบัน
“โจ้ หลังเท้า” พ.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพร ใจสิงหล ,นาวาโท พูนศักดิ์ เพิ่มทรัพย์ และ ร.ท. สุริยัน เป๊ะชาญ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียน การทำหน้าที่ของ ผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ที่ทำงานไม่โปร่งใส มีการเรียกเงินส่วนแบ่งเงินรางวัลจากนักกีฬาทั้งในอดีต และปัจจุบัน โดยมี นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ รองประธานสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) และอุปนายกสมาคมกีฬาตะกร้อฯเป็นผู้รับหนังสือ ที่หน้าอาคาร คณะกรรมโอลิมปิกแห่งประเทศไทย(บ้านอัมพวัน)
สืบเนื่องจากกรณีที่ ธิดาวรรณ ดาวสกุล อดีตนักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ และซีเกมส์หลายสมัย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ถูกสตาฟฟ์โค้ชของทีมชาติเรียกรับส่วนแบ่งจากเงินอัดฉีดของนักกีฬา ที่จะต้องได้รับจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในศึกเอชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 กวางโจว 2010
พ.ต.ท. สืบศักดิ์ กล่าวหลังยื่นหนังสือร้องเรียน ระบุว่า มีการทำหน้าที่อย่างไม่โปร่งใส และไม่เป็นนธรรมกับนักกีฬาตะกร้อมาตลอด 13 ปี ตั้งแต่กีฬาเอเชียนเกมส์ กวางโจว 2010 ตนและเพื่อนๆ ก็โดนหักเงินรางวัลจากที่ได้จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ อย่างไม่เป็นธรรมเช่นกัน และต้องประกาศอำลาทีมชาติในเวลาต่อมา โดยผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ทำเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ โดยให้เหตุผลที่ทุกคนต้องจำใจยอมรับ ซึ่งนักกีฬาชุดปัจจุบัน ที่คว้า 4 เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 หางโจว 2022 ก็โดนหักเงินคนละเกือบ 50 เปอร์เซ็น จากเงินที่ควรจะได้รับ คนละ 4 ล้านบาท กลับได้เพียงคนละ 2.1 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า นำเงินไปแบ่งให้นักกีฬาที่ไม่ติดทีมชาติ ซึ่งตนมองว่า ไม่เป็นธรรมกับตัวนักกีฬา ที่เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนัก และแข่งขัน เพื่อให้ได้ซึ่งเหรียญรางวัล ซึ่งการได้เงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กำหนดเป็นระเบียบชัดเจนอยู่แล้ว ว่า นักกีฬาได้เท่าไร ,โค้ช ได้เท่าไร และสมาคมฯได้เท่าไร ไม่จำเป็นต้องมาหักที่นักกีฬาเพิ่มเติมอีก ขอเรียกร้อง ให้ สมาคมฯตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้ ผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้ ใช้อำนาจหน้าที่ไปกดดันกรรมการฯ และนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ซึ่งทุกคนไม่กล้าออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะเกรงผลกระทบกับตัวเอง โดยจะขอทราบความชัดเจนภายใน 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ “โจ้ หลังเท้า” และเพื่อนอดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย ยังเรียกร้องให้ น้องๆนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ออกมาพูด หากไม่พูดก็เท่ากับยอมรับและสนับสนุนระบบนี้ มองว่านักกีฬาทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ควรจะได้รับเงินที่ควรจะป็นของเขาคืนด้วย .-สำนักข่าวไทย