เรื่องราวกระบวนการขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินในวงการกีฬาถูกพูดถึงกันบ่อยครั้ง ทั้งถูกพูดมาจากกลุ่มคนที่เข้าใจ และไม่เข้าใจว่า ส่วนที่เกี่ยวข้องในการจ่ายเงินนั้นเป็น “คนกลุ่มไหน” ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว
คำตอบคือ “ฝ่ายคลัง” ที่อยู่ภายใต้การกีฬาแห่งประเทศไทย คือ “ผู้จ่าย” เงินหลังจากที่มีการอนุมัติผ่านในโครงการหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวกีฬาที่มีสิทธิขอ ได้ร้องขอ และได้รับการอนุมัติแล้ว
ก่อนหน้านั้นจะมีอยู่ “ฝ่ายคลังเดียว” ที่รับผิดชอบ คือฝ่ายการคลังของการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ปัจจุบันจะมีเพิ่มอีก 1 คือ “ฝ่ายการคลังกองทุน” ขึ้นมาในการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อมาช่วยทำงานด้านการเบิกจ่ายเงินให้กับวงการกีฬา
นี่เป็นความรู้ที่คนวงการกีฬาควรศึกษา ทำความเข้าใจ จะได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และติดตามความคืบหน้าได้อย่างถูกต้องกระบวนการ
นายประวิทย์ เมตตา ผู้อำนวยการฝ่ายการคลังกองทุน กกท. เปิดเผยว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยการเพิ่มหน่วยงานระดับฝ่าย เพื่อรองรับการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพและจึงได้มีฝ่ายการคลังกองทุนขึ้นมา เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการรับเงิน การจ่ายเงินการเก็บรักษาเงินของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ*ปัจจุบันฝ่ายการคลังกองทุน สังกัดอยู่ภายใต้การกำกับของรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายบริหาร ที่ผ่านมานั้น ก่อนมีการปรับปรุงโครงสร้างดังกล่าวมา ภารกิจต่างๆ เกี่ยวกับการรับ จ่าย และเก็บรักษาเงิน รวมถึงการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่าย การติดตาม ผลการเบิกจ่าย การทำรายงานสถานะทางการเงินประจำปี การตั้งค้างจ่ายทางบัญชี และดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและกระบวนการทางพัสดุในส่วนของฝ่ายและสำนักที่ได้รับงบจากกองทุนและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินกองทุน ฝ่ายการคลัง กกท.จะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งตอนนั้นฝ่ายการคลัง กกท.จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ในขณะเดียวกันนอกจากเรื่องของการดูแลเรื่องของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติทั้งหมดแล้ว ฝ่ายการคลังกองทุนยังต้องดูแลงานประจำเดิมคือ การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี ของ กกท.ด้วย จากนั้นมีการศึกษาพบว่า มีความจำเป็นในการเบิกจ่ายเงินกองทุนซึ่งต้องแยกจากฝ่ายการคลังให้ชัดเจนเนื่องจากภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมีมาก ฝ่ายการคลังกองทุน จึงได้ถูกตั้งขึ้นมา
นายประวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ฝ่ายการคลังกองทุน จึงถือว่าเข้ามาช่วย ในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินสำหรับผู้ที่ได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติทั้งหมด และเมื่อตั้งขึ้นมาแล้วก็มีการปรับปรุงพัฒนาตลอด เพื่อให้เกิดการคล่องตัว รวดเร็ว มีความถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งตอนนี้ฝ่ายการคลังกองทุนเรา มีพนักงานจำนวน 26 คน และผู้ช่วยปฏิบัติงานโครงการ จำนวน 4 คน แม้ภารกิจต่าง ๆ ที่รับผิดชอบจะมากมาย บางครั้งก็มีบ้างที่งานหนักมากต่อการจัดการงานเพื่อให้ดีที่สุด แต่ทุกคนก็เต็มที่เกินร้อย ซึ่งตนเองต้องขอบคุณทีมงานทุกคนอย่างมาก ที่ได้ช่วยกันตลอดเพื่องานในฝ่าย
“ดังนั้นก็เป็นที่ทราบกันแล้วนะครับว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยมีหน่วยงานระดับฝ่าย ซึ่งเกี่ยวข้องกับคลังอยู่ 2 ฝ่ายก็คือฝ่ายการคลัง ที่ดูแลงานในงบทั่ว ๆ ไปของ กกท.และ ฝ่ายการคลังกองทุน ที่ดูแลงานในงบที่เป็นของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ทั้ง 2 ฝ่ายนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทยเหมือนกัน และที่สำคัญคือ เงินทุกบาทที่จะจ่ายออกทั้ง 2 ฝ่ายนี้แม้มีภาระหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่การอนุมัติการจ่ายในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นลายเซ็นของ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เหมือนกัน” ผอ.ประวิทย์ กล่าว
ขณะที่ “ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) เปิดเผยว่า การยื่นขอเงินสนับสนุนกีฬา ทางสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงสมาคม สโมสรกีฬาต่างๆ จะส่งโครงการ และงบประมาณที่จะขอรับการสนับสนุนไปที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งแต่ละฝ่ายจะมีคณะกรรมการพิจารณา กลั่นกรอง รวบรวมคำขอรับงบประมาณส่งเสริม สนับสนุนจากสมาคมกีฬาต่างๆก่อน โดยกระบวนการนี้จะขึ้นอยู่กับระยะเวลา การเดินทางของเอกสาร, เอกสารไม่ครบ, เอกสารไม่ถูกต้อง, บางโครงการขอมาผิดวัตถุประสงค์ ฯลฯ สุดท้ายสมาคม ต้องปรับแก้ให้ถูกต้องก่อนจะผ่านการพิจารณา ซึ่งกระบวนการ เริ่มตั้งแต่การของบ จนจบที่การเบิก-จ่าย จะมีคณะกรรมการกลั่นกรองทุกขั้นตอน
โดยเริ่มจากที่ กกท. กลั่นกรองแล้ว ส่งต่อมาที่กองทุนฯ และส่งไปที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ด้านการพัฒนากีฬา และคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เพื่อพิจารณา โดยปกติถ้าทุกอย่างกลั่นกรองมาแล้ว เข้าเกณฑ์ และข้อมูลชัดเจน บอร์ดกองทุนฯ จะอนุมัติ หลังจากอนุมัติแล้ว ผู้ส่งคำขอ หรือเจ้าของโครงการ จะมาเซ็น MOU กับกองทุนฯ ส่วนการเบิก-จ่าย จะเป็นหน้าที่ของคลังกองทุนฯ โดยผู้ว่าการ กกท. เป็นผู้มีอำนาจตามระเบียบคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ข้อ 52 ในการทำเบิก-จ่าย ส่งไปยังคลังกองทุนฯ โดยที่ ผู้จัดการกองทุนฯ ไม่มีอำนาจในการเบิก-จ่าย