จีน 2 ต.ค.-พาชมแพทย์แผนจีนที่มีวิธีการรักษามาอย่างยาวนานนับร้อยปี ซึ่งเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ จีนได้เปิดประสบการณ์ในการรักษา และให้คำแนะนำแพทย์แผนจีนให้กับผู้ที่สนใจ
การรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ด้วยแพทย์แผนจีนมีมาอย่างยาวนาน และมีหลากหลายวิธี ซึ่งที่เราจะพอรู้จักกันอย่างแพร่หลายก็คือการฝังเข็ม, การกดจุด, การนวด และการทานสมุนไพรจีน เพื่อลดอาการเจ็บป่วย ซึ่งในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ จีนก็ได้มีการเปิดประสบการณ์ในการรักษา และให้คำแนะนำแพทย์แผนจีนให้กับผู้ที่สนใจด้วย
ซึ่งเมื่อเราไปถึงก็จะมีพนักงานรอให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเราได้รับการแนะนำจาก เยร์แซด อายาน นักศึกษาสาวคาซัคสถานวัย 23 ปี ที่มาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนที่ไชนีส เมดิคอล ยูนิเวอร์ซิตี้เป็นเวลา 5 ปี และสามารถพูดจีน , อังกฤษ ได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงพูดภาษาไทยได้ด้วยนิดหน่อย เนื่องจากเธอมีเพื่อนเป็นคนไทยหลายคนที่นี่
โดยเราจะเริ่มจากการบริหารร่างกายที่เรียกว่า ปา ต้วน จิ่น ที่มีลักษณะคล้ายไทเก๊ก ด้วยการบริหารร่างกาย 8 ท่า ตามคลิปให้คำแนะนำ ซึ่งหลังทำเสร็จก็จะมีการให้คะแนนด้วย
จากนั้นก็มาถึงการนวดกดจุด ที่เราได้ให้น้องทีมงานทดลองใช้บริการนวดกดจุด เพื่อรักษาและบรรเทาอาการบาดเจ็บตั้งแต่ศีรษะ, คอ, บ่า, หลัง, ไหล่ ทั่วทั้งร่างกายเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากทำแล้วก็จะรู้สึกผ่อนคลายสบายตัว
ต่อมาเป็นการนวดกดจุดใบหู โดยเหล่าซือ จู เหวิน เป่ย หรือ เหล่าซือจูดี้ ซึ่งต้องบอกว่าใบหูของเรามีเส้นประสาทและจุดต่างๆนับร้อย ที่สามารถกดเพื่อรักษาและบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้หลายโรค ยิ่งถ้าทำควบคู่ไปกับการฝังเข็ม และทานสมุนไพรจีน จะยิ่งช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากได้พูดคุย ก็ลองให้เหล่าซือจูดี้ ช่วยเปิดประสบการณ์การรักษาการนอนกรนด้วยวิธีนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต โดยเหล่าซือจะใช้อุปกรณ์กดที่ใบหูก่อนที่จะแปะเมล็ดผักกาดที่ใบหูไป 5 จุดด้วยกัน ซึ่งตอนกดถ้ารู้สึกเจ็บก็บอกเหล่าซือได้เลย
ซึ่งก่อนกลับเราก็ได้มีการพูดคุยกับ เยร์แซด อายาน พนักงานและนักศึกษาที่คอยดูแลเราในวันนี้ โดยเธอบอกว่า การเปิดบูทในครั้งนี้ เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ให้กับทุกคนได้รู้จักการรักษาด้วยแพทย์แผนจีนมากยิ่งขึ้น โดยเธอบอกว่ามีเพื่อนเป็นคนไทย ชอบวัฒนธรรมไทย อาหารไทย คนไทย และชอบที่จะพูดไทยด้วย และหวังที่จะไปเที่ยวที่เมืองไทยให้ได้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งก่อนจากกันเธอได้โชว์พูดภาษาไทยให้เราได้ฟังกันด้วย.-สำนักข่าวไทย