เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น พร้อมจุดประกายโอกาสครั้งสำคัญให้กับเยาวชนไทยอีกครั้ง เดินหน้าจัดงานแถลงข่าวเปิดทัวร์นาเมนต์ J.LEAGUE Youth Challenge Thailand 2023 ‘ปลุกความกล้า ไล่ล่าความฝัน ไปกับเจลีก’ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 500,000 บาท พร้อมคว้าโอกาสไปเปิดประสบการณ์สำคัญที่ประเทศญี่ปุ่น
การแข่งขัน J.LEAGUE Youth Challenge Thailand 2023 จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ปลุกความกล้า ไล่ล่าความฝัน ไปกับเจลีก’ หลังได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ประสบความสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมาย และความมุ่งหวังของเจลีกที่ต้องการให้เยาวชนไทยที่ชื่นชอบฟุตบอลได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ครั้งสำคัญ เพื่อพัฒนาฝีเท้าต่อยอดสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ ส่งเสริมพัฒนาผลักดันนักกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชนให้ก้าวสู่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ
โดยมี คุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมด้วย คุณวรรคสร โหลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ดิจิตอล มีเดีย จำกัด, คุณธีรศิลป์ แดงดา อดีตนักฟุตบอลอาชีพ J.League, 4 นักเตะยอดเยี่ยม J.LEAGUE Youth Challenge Thailand 2022 ฯลฯ พร้อมด้วยสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย
คุณสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย มีเป้าหมายภารกิจสำคัญในการดำเนินการพัฒนากีฬาอย่างเป็นระบบ รวมถึงกีฬาฟุตบอลที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆในประเทศไทยและของโลก โดยแนวทางของรัฐได้ดำเนินการส่งเสริมพัฒนา ด้วยมุ่งหวังสร้างทัศนคติที่ดี ครอบคลุมไปจนถึงสร้างเวทีการแข่งขันที่มีมาตรฐาน ส่งเสริมให้ยุวชนไปจนถึงเยาวชนที่มีความชื่นชอบ มีใจรักในกีฬาฟุตบอล ได้พัฒนาความสามารถและศักยภาพ รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสในการต่อยอดสู่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพได้ก้าวสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ
โดยการแข่งขันฟุตบอล J.LEAGUE Youth Challenge Thailand นับเป็นรายการที่ดี อีกทั้งประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้ได้รับรางวัลได้ต่อยอดเติมเต็มประสบการณ์กับเจลีก ลีกฟุตบอลประเทศญี่ปุ่น ที่ถือเป็นลีกเบอร์หนึ่งของเอเชีย และที่สำคัญในปีนี้ทาง เจลีก ได้มีการสร้างแรงบันดาลใจมากขึ้น ผ่านการยกระดับรูปแบบการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ ฝีเท้า ความมุ่งมั่นของเยาวชนประเทศไทยนั้นมีความแข็งแกร่งไม่แพ้ชาติใดในโลก สอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมและพัฒนากีฬาฟุตบอลของทางการกีฬาแห่งประเทศไทย เชื่อมั่นว่าการสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะได้นำประสบการณ์ล้ำค่า มาพัฒนาต่อยอดทักษะรอบด้านเพื่อเติบโตเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เป็นตัวแทนทีมชาติไทยที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพอย่างแน่นอน”
มร.ทัตสึยะ ไอดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจต่างประเทศ เจลีก กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางเจลีกได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน J.League Youth Challenge ที่ประเทศไทยอีกครั้งในปีนี้ โดยในปีที่ผ่านมา มีแข้งนักเตะไทย เช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ สุภโชค สารชาติ ได้โชว์ฟอร์มการเล่นในศึกเจลีก เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทัวร์นาเมนต์นี้ จะทำให้ทุกคนได้มีโอกาสไปท้าทายในเจลีก ซึ่งในปีที่แล้วมีนักเตะ 4 แข้งยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์นี้ได้มาเยือนที่ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาได้ร่วมซ้อมกับคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ รุ่น U-18 และชมการแข่งขันของทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ซึ่งได้สัมผัสกับประสบการณ์ของเจลีก ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และในปีนี้ เราก็จะเชิญนักเตะที่ได้รับรางวัล MVP ไปญี่ปุ่นอีกเช่นเคย สุดท้ายนี้ขอให้ นักฟุตบอลทุกคนระวังที่จะได้รับการบาดเจ็บ ระหว่างแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ อีกทั้งหวังว่าทุกคนจะเคารพกฎ กติกา และมีน้ำใจนักกีฬา และขอให้ทุกคนพยายามกันให้เต็มที่นะครับ”
สำหรับการแข่งขันในปีนี้ จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม โดยทีมอันดับ 1-8 จากการแข่งขันในปีที่แล้วจะได้เข้าร่วมอัตโนมัติ และเปิดรับสมัครทีมโรงเรียนจากทั่วประเทศอีก 8 ทีมอย่างเป็นทางการในวันที่ 11-18 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมีผลการจับสลากแบ่งสายดังนี้
กลุ่ม A: โรงเรียนอบจ.ชัยนาท, โรงเรียนพิชญบัณฑิต, โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
กลุ่ม B: โรงเรียนวัดสุทธิวราราม, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม,โรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม
กลุ่ม C: โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร, โรงเรียนเทพศิรินทร์, โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี, โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
กลุ่ม D: โรงเรียนนครนนท์วิทยา ๖,โรงเรียนบัวแก้วเกษร, โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย, โรงเรียนวชิราลัย
โดยมีกำหนดการเริ่มทำการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2566 สนามกีฬาโรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย และสนามมาวิน สเตเดียม เมืองทองธานี
รอบ 8 ทีมสุดท้าย แข่งขันวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2566 สนามกีฬาโรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย และสนามมาวิน สเตเดียม เมืองทองธานี
รอบรองชนะเลิศ แข่งขันวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 สนามกีฬาโรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย และทำการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 สนามกีฬากลางจังหวัดนนทบุรี
สำหรับทีมชนะเลิศ อันดับ 1 รับเงินรางวัล 120,000 บาท ถ้วยเกียรติยศ และเหรียญรางวัล
รองชนะเลิศ อันดับ 1 รับเงินรางวัล 60,000 บาท และเหรียญรางวัล
รองชนะเลิศ อันดับ 2 รับเงินรางวัล 30,000 บาท และเหรียญรางวัล
และรองชนะเลิศ อันดับ 3 รับเงินรางวัล 15,000 บาท และเหรียญรางวัล
พิเศษไปกว่านั้น ในทัวร์นาเมนต์นี้ยังมีอีก 5 รางวัลพิเศษ ที่จะมอบให้กับเยาวชนแข้งทองของไทยได้แก่ กองหน้ายอดเยี่ยม (Best of Forward), กองกลางยอดเยี่ยม (Best of Midfielder), กองหลังยอดเยี่ยม (Best of Defender), ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม (Best of Goalkeeper) และดาวซัลโว (Top Scorer)
ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลพิเศษทั้ง 5 คน จะได้เป็นตัวแทนเยาวชนไทยรุ่นที่ 2 เข้าร่วมโครงการ J.LEAGUE Young Star Challenge ไปเปิดประสบการณ์ ทำกิจกรรมที่ประเทศญี่ปุ่น
ติดตามถ่ายทอดสด และการแข่งขันของทัวร์นาเมนต์นี้ได้ทาง Siamsport Facebook, Siamsport YouTube Channel และ Facebook J.League เจลีก ลีกฟุตบอลอาชีพแห่งประเทศญี่ปุ่น